"หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป" 1 ในกลุ่มธุรกิจหัวเว่ย ที่มีความหลากหลายทางด้านสินค้า รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ บรอดแบนด์มือถือ (MBB) อุปกรณ์พกพา และอุปกรณ์ใช้ภายในบ้าน ไม่ยอมตกเทรนด์โลก โดยหันมาพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น หลังจากมีคู่แข่งหลายค่ายปล่อยของออกมาแล้วหลายรุ่น
ทั้งนี้ หัวเว่ยได้นำ “TalkBand B2” เข้าตลาดและขายแล้วในไทย ไม่หวั่นว่าจะมี Apple Watch ของค่ายยักษ์ใหญ่ของโลก อย่างแอปเปิล และ GALAXY Gear S ของซัมซุงนำร่องไปก่อนแล้ว
หัวเว่ย ส่ง “TalkBand B2” มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย พร้อมมีฟังก์ชั่นเด่นหลายอย่าง จากการออกแบบโดยทีมนักออกแบบของ Huawei Aesthetics Center ในนครปารีส ของฝรั่งเศส
มาดูกันว่า “TalkBand B2” มีสเปคและใช้งานอะไรได้บ้าง
- “TalkBand B2” มีดีไซน์ที่ทันสมัย โดยตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมที่มีความแข็งแกร่งสูงแต่น้ำหนักเบา สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ ให้เข้ากับการแต่งตัวได้ทุกวัน ทั้งวันทำงานและวันหยุดพักผ่อน
-มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัสแบบ PMOLED ขนาด 0.73 นิ้ว นับว่ากะทัดรัดรับกับข้อมือเลยทีเดียว โดยมีขนาดตัวเรือน 62 x 20.6 x 11.24 มม. และมีน้ำหนักเฉพาะตัวเรือน 12.5 กรัม
-สามารถใช้งานเป็น Activity Tracker เพื่อตรวจนับและเก็บข้อมูลการเดิน วิ่ง และปั่นจักรยาน การนอน และคำนวณการเผาผลาญแคลลอรี่ ตลอดจนรายงานผลออกมาเป็นกราฟได้ทั้งแบบรายวันและรายเดือน โดยทำงานเชื่อมต่อกับ Application Huawei Wear ซึ่งรองรับทั้งระบบ Android และ iOS (Android 4.0 และ iOS 7.0 ขึ้นไป) สะดวกสบายในการใช้งาน
-สามารถถอดออกมาใช้งานเป็น Bluetooth ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถรับสายผ่าน TalkBand โดยไม่ต้องยกมือขึ้นมาพูดใส่นาฬิกาเหมือน Smart Watch ทั่วไป สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ถึง 2 เครื่อง และยังซิงค์ข้อมูลกับอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ได้ดีขึ้น โดย “TalkBand B2” รองรับเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 3.0 ขึ้นไป
-นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นสุดพิเศษ Remote Control Camera ที่ทำให้เจ้านาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ใช้เสมือนเป็นรีโมทกดชัตเตอร์ถ่ายรูปบนสามาร์ทโฟนได้
-มีฟังก์ชั่น Phone Finder สำหรับใช้ค้นหาสมาร์ทโฟนคู่ใจ ด้วยคำสั่งเสียงได้ เพิ่มจากการสั่นหรือเสียงริงโทน และยังบอกได้ว่า ชุดหูฟังบลูทูธอยู่บนข้อมือหรือไม่
-ใช้แบตเตอรี่ 90 mAh ที่ใช้งานได้นานถึง 5 วัน โทรต่อเนื่องได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้นานถึง 12 วัน
-มีคุณสมบัติป้องกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP57
เวลานี้สาวกหัวเว่ยในไทยสามารถซื้อหานาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้ได้แล้ว ที่ หัวเว่ย แบรนด์ช็อป และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบสายหนังที่มาพร้อมกับตัวเรือนสีทองหรูหราในราคาเพียง 6,990 บาท และสายซิลิโคน มีตัวเรือนสีดำและสีเงินสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบง่ายแต่ดูดี สนนราคาถูกกว่าหน่อยที่ราคา 5,990 บาท
ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกอย่างจากหัวเว่ย หลังจากได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกจนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไม่แพ้บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งธุรกิจหัวเว่ยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในเฉพาะครึ่งแรกของปี 2558 นี้ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เพิ่งรายงานเผยผลประกอบการว่าโตถึง 69% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ด้วยยอดรายได้รวมสูงถึง 9.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แน่นอนว่า มีรายได้หลักมาจากธุรกิจมือถือที่ในปีเดียวกันโตถึง 87% จากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในการเจาะตลาดโทรศัพท์มือถือตั้งแต่กลุ่มกลางไปจนถึงกลุ่มบน ส่งผลให้ยอดจัดส่งผลิตภัณฑ์และราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น
อนาคตอุปกรณ์สวมใส่ได้อัจฉริยะรุ่นใหม่ๆ อาจจะมาช่วยเพิ่มยอดขายให้กับหัวเว่ยอีกทางหนึ่งก็เป็นได้ แต่จะมากหรือน้อยอย่างไร คงต้องจับตาดูกันต่อไป
ข่าวเด่น