จากการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจค้าปลีก ส่งผลให้ "ห้างเทสโก้ โลตัส" ต้องออกมาปรับแผนการทำตลาด ด้วยการรุกทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันคนไทยมีการใช้อินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ห้างเทสโก้ โลตัสจึงเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ล่าสุด ได้เปิดตัวจุดนัดพบออนไลน์สำหรับคุณแม่ ภายใต้ชื่อ “เทสโก้ เลิฟ เบบี้” โซเชียลฮับ ชูกลยุทธ์โซเชียลคอมเมอร์สครั้งแรกของวงการค้าปลีกไทย เพื่อให้คุณแม่ได้เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ ในการเลี้ยงลูก และสามารถช้อปปิ้งสินค้าครบครันเพื่อลูกรักในที่เดียว ผ่าน “เทสโก้ เลิฟ เบบี้ ช็อป” (www.lazada.co.th/tesco-loves-baby/) ที่ Lazada ห้างสรรพสินค้าออนไลน์อันดับ 1 ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าช้อปปิ้งออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

นางวรรณา สวัสดิกูล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายธุรกิจออนไลน์ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ที่ห้างเทสโก้ โลตัสได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย  ลูกค้า คือ หัวใจของธุรกิจของเทสโก้ โลตัส  ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความสำคัญในการศึกษาความต้องการของลูกค้า และพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ของลูกค้ามาโดยตลอด และจากการศึกษาดังกล่าวทำให้บริษัทพบว่า ลูกค้ากลุ่มคุณแม่ที่มีลูกเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ทั้งในออฟไลน์และออนไลน์ มีขนาดประมาณกว่า 3 ล้านคน

นอกจากนี้ ยังพบว่า ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมีความต้องการที่คล้ายกัน คือ ต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย โดยให้ความสำคัญต่อการดูแลลูกน้อยให้ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา และมักจะหาข้อมูลจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับกลุ่มคุณแม่ด้วยกันเอง และศึกษาหาความรู้จากผู้รู้ต่างๆ แต่ปัญหา คือ กลุ่มคุณแม่มักไม่มีเวลาในการออกจากบ้านไปพบปะผู้คนและซื้อสินค้าเพื่อครอบครัวและลูกน้อย จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว “เทสโก้ เลิฟ เบบี้” โซเชียลฮับ ที่เทสโก้ โลตัสได้รวบรวมทั้งการแบ่งปันประสบการณ์ของคุณแม่ และการช้อปสินค้าไว้ในที่เดียวกัน รวมถึงร้านค้าออนไลน์ เทสโก้ เลิฟ เบบี้ ช็อป @Lazada

นางวรรณา  กล่าวต่อว่า  “เทสโก้ เลิฟ เบบี้” ถือเป็นโซเชียลฮับ ที่นำเสนอทุกประสบการณ์ที่คุณแม่ต้องเผชิญ มีเนื้อหาครบครันสำหรับคุณแม่ที่ต้องการค้นหาหรือแบ่งปันข้อมูลในการดูแลลูกน้อย โดยมีผู้รู้ด้านต่างๆ มาแชร์ความรู้ที่น่าสนใจ และยังมีเว็บบอร์ดให้คุณแม่ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเลี้ยงลูก โชว์รูปน่ารักๆ ของลูก รวมทั้งกิจกรรมพิเศษต่างๆ สำหรับคุณแม่และคุณลูก

ขณะเดียวกัน ยังมีช่องทางการช้อปปิ้งออนไลน์ที่แสนสะดวกสำหรับคุณแม่ที่ไม่มีเวลาออกไปจับจ่ายนอกบ้าน ด้วยสินค้าสำหรับแม่และเด็กให้เลือกมากที่สุดกว่า 2,000 รายการ จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ จนถึงสินค้าเอ็กซ์คลูซีพ ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าจำเป็นในราคาประหยัด เช่น ผ้าอ้อม นมผง ไปจนถึงสินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และสินค้าสำหรับเทศกาลต่างๆ เช่น เสื้อผ้าเด็กสำหรับเทศกาล เป็นต้น

การพัฒนา เทสโก้ เลิฟ เบบี้ โซเชียลฮับ ในครั้งนี้ ถือเป็นการใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิตอลล่าสุด ที่เรียกว่า ‘โซเชียลคอมเมอร์ส’ ซึ่งเป็นการผสมผสานของ ‘โซเชียลเน็ตเวิร์ค’ เพื่อสานสัมพันธ์กับลูกค้า และใช้ ‘อีคอมเมอร์ส’ เป็นการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์  ซึ่งเทสโก้ โลตัส นับเป็นบริษัทค้าปลีกรายแรกของไทยที่ใช้กลยุทธ์ดังกล่าว

จากกระแสสื่อดิจิตอลที่กำลังมาแรง ส่งผลให้การศึกษาของเทสโก้ โลตัส พบว่า กลุ่มคุณแม่เป็นกลุ่มที่ใช้สื่อดิจิตอลสูงมาก และมีพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมเพียงการศึกษาสินค้าจากโฆษณาทั่วไป จึงไปหาซื้อสินค้าที่ร้าน แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นการศึกษาหาข้อมูลจากผู้รู้ที่ไว้ใจ เพื่อเป็นแนวทางในการเลี้ยงลูก รวมถึงวิธีการเลือกซื้อสินค้าเพื่อลูกรัก เนื่องจากคุณแม่ต้องการค้นหาข้อมูลเพื่อการดูแลลูกน้อยให้ดีที่สุด และเนื่องจากคุณแม่ส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่ที่บ้านเลี้ยงดูลูก ทำให้แม่บ้านยุคดิจิตัลต้องพึ่งพาการสื่อสารแลกเปลี่ยนประสบการณ์และศึกษาหาความรู้ผ่านสื่อดิจิตัล

นางวรรณา กล่าวอีกว่า คุณแม่ที่สนใจในการหาข้อมูลดีๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการช้อปปิ้งเพื่อลูกน้อย สามารถคลิกไปที่ www.tescolovesbaby.com หรือเข้าไปที่ www.lazada.co.th/tesco-loves-baby/ ซึ่งจะมีเพจเฉพาะของ Tesco Loves Baby และเพื่อเป็นการต้อนรับคุณแม่ทุกท่านในช่วงเปิดตัว

นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้ามากมาย เริ่มด้วยโปรโมชั่นที่ดีที่สุดของผ้าอ้อมสำเร็จรูปและนมผง ซึ่งทำให้มีราคาที่ถูกที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน รวมถึงส่วนลดสูงสุด 20% เมื่อจับจ่ายด้วยบัตรเครดิตเทสโก้วีซ่า และคุณแม่ที่ใช้จ่ายสูงสุดในแต่ละเดือนก็จะได้รับของขวัญมูลค่า 4,000 บาทส่งให้ถึงบ้าน เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่จับจ่ายผ่าน “เทสโก้ เลิฟ เบบี้” โซเชียลฮับ

ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส  จำหน่ายสินค้าช้อปปิ้งออนไลน์ผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ เทสโก้ โลตัส ช้อปออนไลน์ ซึ่งจำหน่ายอาหารสดและสินอุปโภคบริโภคกว่า 20,000 รายการ ส่วนอีกช่องทาง คือ การนำสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ในบ้านกว่า 5,000 รายการ มาจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้าออนไลน์ชั้นนำของภูมิภาค คือ Lazada

หลังจากออกมาเปิดตัว “เทสโก้ เลิฟ เบบี้” โซเชียลฮับ เทสโก้ โลตัส คาดว่าจะมีคุณแม่มาจับจ่ายใน เทสโก้ เลิฟ เบบี้ ช็อป จาก Lazada มากกว่า 100,000 คนภายใน 1 ปี ด้วยเนื้อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย มีคำแนะนำดีๆ ทั้งจากผู้เชี่ยวชาญและคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ด้วยกันเอง อีกทั้งยังมีสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็กให้เลือกซื้อหลากหลายแบบไม่จำกัดแบรนด์ให้คุณแม่ได้ช้อปปิ้ง

นางวรรณา กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ของบริษัทนับจากนี้ จะหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกมีความรุนแรง ทั้งการขายหน้าร้านและการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งกลุ่มสินค้าต่อไปที่บริษัทมีความสนใจจะนำมาทำการตลาดเช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก คือ สินค้าสุขภาพและความงาม เนื่องจากกลุ่มสินค้าดังกล่าวมีฐานลูกค้าค่อนข้างกว้าง และเป็นสินค้าที่มีความต้องการในตลาดค่อนข้างสูง

ปัจจุบัน เทสโก้ โลตัส มีสาขาที่จำหน่ายหน้าร้านทั้งหมด 1,800 สาขา แบ่งเป็นสาขาในรูปแบบไฮเปอร์ 123 สาขา  สาขาในรูปแบบเอ็กซ์ตร้า 15 สาขา สาขาในรูปแบบดีพาร์ทเมนท์สโตร์ 31 สาขา สาขาในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ต (ตลาดโลตัส) 185 สาขา และสาขาในรูปแบบเอ็กซ์เพรส 1,421 สาขา ซึ่งในส่วนของปีนี้มีแผนที่จะเปิดสาขาในรูปแบบไฮเปอร์ 4 สาขา รูปแบบตลาดโลตัส 1 สาขา และรูปแบบเอ็กซ์เพรส 50 สาขา ส่วนรูปแบบคอนวีเนียนสโตร์ภายใต้แบรนด์ 365 ขณะนี้ได้ปิดให้บริการทุกสาขาแล้ว เนื่องจากต้องการไปโฟกัสสาขาขนาดใหญ่

การออกมาปรับแผนรุกของห้างเทสโก้ โลตัส ในครั้งนี้ เชื่อว่า ผู้เล่นในตลาดรายอื่นๆ น่าจะหันมาทำการตลาดตามในอีกไม่ช้านี้ เพื่อหนีการแข่งขันที่กวาดทุกกลุ่มเป้าหมายที่มีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากมีผู้เล่นเพิ่มขึ้น ตลาดที่เคยเป็นบลูโอเชี่ยน ก็น่าจะเป็นเรดโอเชี่ยนได้.