นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2558 บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งในส่วนของกำไรสุทธิและรายได้รวมที่สูงขึ้น โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 643 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% หากเทียบกันกับไตรมาสก่อนหน้า (560 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 24% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2557
ด้านรายได้รวมในไตรมาส 2/ 2558 เท่ากับ 5,402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (5,220 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 13% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2557 ซึ่งรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากการโอนฯ คอนโดมิเนียมและทาวน์เฮาส์รวมทั้งสิ้น 5 โครงการ โดยสามารถจัดอันดับได้ ดังนี้
สัดส่วนต่อรายได้รวม สถานะการส่งมอบไปแล้ว
1. RHYTHM สาทร 15% 18%
2. RHYTHM สาทร – นาราธิวาส 9% 96%
3. Aspire สาทร – ตากสิน (Timber Zone) 9% 44%
4. Aspire สุขุมวิท 48 6% 68%
5. บ้านกลางเมือง พระราม 9 – รามคำแหง 4% 91%
ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายเฉพาะไตรมาส 2/2558 ได้สูงสุดถึง 12,623 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77% หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยคีย์ซัสเซสสำคัญมาจากยอดขายคอนโดมิเนียมที่สูงสุดในประวัติการณ์เท่ากับ 9,913 ล้านบาท จากการจัดแคมเปญ AP SPACE CONNECT เปิดขาย 4 คอนโดใหม่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้แก่ 1) RHYTHM รางน้ำ (sold out) 2) Life อโศก 3) Aspire ลาดพร้าว 113 และ 4) Aspire วุฒากาศ
ณ ปัจจุบัน (9 สิงหาคม 58) บริษัทฯ มียอดขายที่สูงถึง 19,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% หากเทียบกับช่วงเดียวกับของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นแนวราบ 7,435 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 12,169 ล้านบาท มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงถึง 13,308 ล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบมูลค่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง ส่วน Backlog คอนโดมิเนียมมูลค่า 9,907 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 4,221 ล้านบาท
สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 15 โครงการ มูลค่ารวม 24,020 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 15,240 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 5,490 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวจำนวน 5 โครงการ มูลค่า 3,290 ล้านบาท
ข่าวเด่น