ธปท.ชี้ บาทอ่อนช่วงนี้ เหตุ ศก.สหรัฐฯ เริ่มฟื้น ไม่ใช่เพราะปัจจัยภายในหรือภูมิภาคเป็นหลัก ระบุบาทอ่อนดีต่อผู้ส่งออก แต่อาจกระทบต้นทุนผู้นำเข้าบ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยถ่วงการตัดสินใจลงทุน ส่วนภาพรวม ศก.ทั้งหมดจะพิจารณาอีกครั้งในการประชุม กนง. วันที่ 16 ก.ย.58
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าที่กำลังพัฒนา โดยเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวที่ชัดเจนเป็นลำดับ ฉะนั้นการอ่อนค่าของเงินบาทจึงไม่ใช่ปัจจัยที่เกิดจากปัจจัยในประเทศ ซึ่งความผันผวนของค่าเงินบาทก็อยู่ในระดับกลางๆ ของภูมิภาค
อย่างไรก็ดี การที่ค่าเงินบาทอ่อนย่อมส่งผลดีต่อภาคการส่งออกที่ผู้ประกอบการส่งออกจะได้รับรายได้มากขึ้นเมื่อแปลงค่าเป็นเงินบาท ซึ่งผู้ประกอบการอาจอาศัยช่วงค่าเงินบาทอ่อนเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้นด้วยการปรับลดราคาสินค้าลงเพื่อให้ราคาที่เสนอขายสามารถแข่งขันได้ในตลาด แต่การฟื้นตัวของภาคการส่งออกคงต้องอาศัยทั้งการฟื้นตัวที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจโลกและการปรับปรุงคุณภาพการผลิตและคุณภาพสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดโลกด้วย
"แต่การที่ค่าเงินบาทอ่อนย่อมกระทบกับภาคการนำเข้า ที่ต้นทุนการนำเข้าอาจสูงขึ้นบ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยถ่วงหลักของการตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ในช่วงนี้ เพราะขึ้นกับแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า"โฆษก ธปท.กล่าว
นายจิรเทพกล่าวต่อว่า ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งหมดของทั้งประเทศไทยและของโลก จะมีการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 16 ก.ย. 58 ซึ่งในระหว่างนี้จนถึงวันประชุม กนง. จะไม่มีการแสดงความเห็นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบายการเงิน เนื่องจากอยู่ใน silent period 1 สัปดาห์ก่อนการประชุม กนง.
ทั้งนี้ การอ่อนตัวของค่าเงินบาท ที่ปิดตลาดเมื่อวาน (8 ก.ย.) ทรุดตัวลงมาถึงระดับ 36.16-36.24 บาท/ดอลลาร์ ถือเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง
ข่าวเด่น