"สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกฯหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ สั่งรื ้อขั้นตอนการทำงานหน่วยงานราชการ ที่เป็นอุปสรรคด้านการค้าการลงทุน ให้มีความรวดเร็วขึ้น โดยให้จัดตั้ง"วันสต๊อปเซอร์วิส" เบ็ดเสร็จภายในหน่วยงานเดียว แก้ปัญหาการจดทะเบียนทำธุรกิจและการค้าการลงทุนที่ล่าช้า สั่งรมว.คลังเป็นแม่งานจัดประชุมระหว่างภาครัฐและเอกชน คาดใช้เวลา 1 เดือนก่อนเสนอนายกฯ ส่วนข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคพร้อมแก้ไขเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการมากขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการจัดการเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนให้มีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งจากปัจจุบันหากดูข้อมูลของธนาคารโลก ประเทศไทยถูกจัดอันดับการอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุนอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก ฉะนั้นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงต้องการให้ทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดนี้เร่งดำเนินการจัดการเรื่องการอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน
สำหรับการประชุม business Easing ในวันนี้ (17 ก.ย.) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ฉายภาพกระบวนการทำธุรกิจและการลงทุน โดยเริ่มตั้งแต่การขอจัดตั้งธุรกิจ การขอก่อสร้าง การทำธุรกิจ การผลิต การค้าขาย ไปจนถึงล้มละลายและขั้นตอนของการบังคับคดีว่าปัจจุบันอันดับของไทยอยู่ที่เท่าไหร่ และมีป้ัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดความล่าช้า มาจากการติดต่อกับหน่วยงานราชการที่ต้องติดต่อหลายกระทรวงทบวงกรม และยังมีกระบวนการขั้นตอนที่ไม่จำเป็นอีกด้วยทำให้การดำเนินการล่าช้า โดยเฉพาะการขอจัดตั้งบริษัท ประกอบกับยังมีกฎหมายบางเรื่องที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการค้าการลงทุนอีกด้วย
"เมื่อรับทราบข้อมูลแล้ว ผมได้สั่งการให้ รมว.คลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ไปดูแลและแก้ปัญหาขจัดอุปสรรคขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไป โดยจัดการประชุมระหว่างภาครัฐและเอกชน ให้ รมว.คลังเป็นประธานการประชุม ซึ่งจะเริ่มประชุมในอีก 2 สัปดาห์หน้า และให้รายงานความคืบหน้าต่อนายกรัฐมนตรี"นายสมคิด กล่าว
นายสมคิดกล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลพยายามดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน คือ จะต้องสร้างจุดบริการเพียงจุดเดียว "วันสต็อปเซอร์วิส" เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว นอกจากนี้จะต้องมีการแก้ไขเรื่องอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคอีก ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนก่อนเดือนเมษายน 2559
ด้าน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุมร่วมกันในวันนี้ฝ่ายเอกชนได้แสดงถึงข้อจำกัดต่างๆ ในการทำธุรกิจ พร้อมกับข้อเสนอแนะ เพื่อให้หน่วยงานราชการทุกกรมทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกลับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาขจัดข้ออุปสรรคต่างๆ
"การประสานงานภาครัฐและเอกชน จะทำให้การทำงานง่ายขึ้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็รับงานกลับไป และกลับมาคุยกันในอีก 2 อาทิตย์ เพื่อให้ได้สรุปภายใน 1 เดือนนี้ เชื่อว่าจะมีกระบวนการทำงานใหม่เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ขณะที่ด้านกฎหมายหากมีข้อติดข้ัดก็คงต้องม่ีกฎหมายใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำงานง่ายและรวดเร็วขึ้น"นายอภิศักดิ์ กล่าว
ส่วน นางอรรชกา สีบุญเรื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอตุสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมเร่งลดขั้นตอน รวมถึงแก้กฎหมายเกี่ยวกับใบอนุญาตจัดตั้งโรงงาน เพื่อให้มีความสะดวกรวดเร็วขึ้น ส่วนอุปสรรคอื่นๆ นั้นจะมีการหารือต่อไปในการประชุม
ข่าวเด่น