ย้อนกลับไปเมื่อ 3  ปีที่ผ่านมา บริษัท โชว์ดีซี คอร์ป จำกัด เคยออกมาประกาศแผนเปิดตัวโครงการ "SHOW DC" (โชว์ดีซี) ซึ่งจะเป็นศูนย์การกระจายสินค้ารูปแบบใหม่ครบวงจรใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายใต้งบลงทุนที่วางไว้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท  ในช่วงเวลานั้นวางเป้าหมายว่าจะพัฒนาโครงการดังกล่าวขึ้นมาภายใต้แนวคิดที่จะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจ และรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2558 นี้

แต่หลังจากพัฒนาโครงการไประยะหนึ่ง ประกอบกับมีการศึกษาศักยภาพของทำเลที่ตั้งของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนจตุรทิศ  ใกล้ทางด่วนพระราม 9 , RCA  และรถไฟฟ้าแอร์พอตลิงค์ ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัท โชว์ ดีซี ต้องปรับรูปแบบของโครงการจากศูนย์กระจายสินค้ารูปแบบใหม่ครบวงจรธุรกิจ ประกอบด้วย ศูนย์ค้าปลีก ศูนย์ค้าส่ง ศูนย์บริการ ศูนย์โชว์รูม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ลอจิสติกส์ คลังจัดเก็บและจัดส่งสินค้า รองรับทุกระดับการค้าขายในกลุ่มธุรกิจ แฟชั่น สินค้าตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ไอที เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุปโภคบริโภค ครัวกลางสำหรับธุรกิจอาหารและภัตตาคาร เป็น "โครงการศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบวงจร"

จากการปรับรูปแบบและคอนเซ็ปต์ของโครงการดังกล่าว  ส่งผลให้บริษัท โชว์ ดีซี ต้องออกมาเพิ่มงบในการก่อสร้างโครงการถึง 3 ครั้ง จากเดิมวางงบไว้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น  5,500  ล้านบาท และล่าสุดปีนี้ได้ปรับเพิ่มเป็น 9,500 ล้านบาท เนื่องจากเหลืออีก 9 เดือนในการก่อสร้างและตกแต่งตัวอาคารให้มีความสวยงามทางบริษัท โชว์ ดีซี แย้มว่าอาจจะต้องควักงบถึง 10,000  ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่ของค้าปลีกมามากถึง 150,000 ตร.ม. ใช้เต็มพื้นที่  27 ไร่ ที่ได้ทำการเช่าจากเอกชนไว้เป็นระยะเวลา 30 ปี

นายชยดิษฐ์ หุตานุวัชร์ ประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่นำเอาแนวคิด ‘ช้อป & เอ็นจอย’ (หรือซื้อหาสินค้าพร้อมสรรพกับความบันเทิง) มาใช้ โดยผสมผสานสุดยอดประสบการณ์ช้อปปิ้งและการกินดื่มเอาไว้ในที่เดียว เพื่อลูกค้าและผู้เยี่ยมชมได้ดื่มด่ำไปกับการช้อปปิ้ง การกินดื่ม และการชื่นชมวัฒนธรรมทั้งของประเทศไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ไฮไลท์สำคัญของโชว์ ดีซี จะอยู่ที่สินค้าและบริการสุดอินเทรนด์จากเกาหลีซึ่งโดดเด่นไม่มีใครเหมือน

นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการยังจะได้เพลิดเพลินไปกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ชั้นนำของไทย ไม่ว่าจะเป็น ‘ศูนย์การประชุมและการแสดง’ ซึ่งรองรับผู้ชมได้ 5,000 คน บนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. ‘สปอร์ต อารีนา’ สนามแข่งขันกีฬาเพื่อความบันเทิงแห่งเอเชีย ที่สามารถรองรับผู้ชมได้ 1,500 ที่นั่ง รวมถึงการแสดงพิเศษส่งเสริมวัฒนธรรม ‘หิมพานต์ อวตาร’ มหัศจรรย์ตำนานวรรณคดีไทยเสมือนจริงในรูปแบบ 4D โดยใช้เทคโนโลยีแสง สี เสียงสุดล้ำแบบโฮโลกราฟฟิค ที่ยิ่งใหญ่อลังการบนพื้นที่ 5,000 ตร.ม. รองรับลูกค้าที่จะเข้ามาชมการแสดงได้รอบละ 500 คนทุกชั่วโมง

จากความคืบหน้าของโครงการที่ก่อสร้างไปได้แล้วประมาณ 80% ขณะนี้พื้นที่ให้เช่าของโชว์ ดีซี มีผู้เช่าแล้ว 60% โดยหนึ่งในบรรดาผู้เช่ารายใหญ่ ได้แก่ ‘YG Entertainment’ ซึ่งเป็นค่ายบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปิน ‘K-Pop’ ชื่อก้องโลก อย่าง ‘BIGBANG’ (วงบิ๊กแบง) ‘Psy’ (ไซ กังนัมสไตล์) และ ‘2NE1’ (ทูเอนีวัน) ทั้งนี้ YG Entertainment ได้จับจองพื้นที่ 5,000 ตร.ม. บนชั้นดาดฟ้า เพื่อเตรียมเปิดศูนย์วัฒนธรรมและความบันเทิงสไตล์ ‘K-Pop’ ให้ทุกคนได้พักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับคลับสุดฮิปอีกด้วย

นายชยดิษฐ์ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของโครงการโชว์ ดีซี จะเน้นการนำเสนอความหลากหลายของเอเชีย ซึ่งหนึ่งในแม่เหล็กที่บริษัทได้นำมาให้บริการนอกเหนือจากความบันเทิง คือ การนำพื้นที่ 10,000 ตร.ม. มาพัฒนาเป็น ‘เอเชียนฟู้ดสตรีท’ รวบรวมอาหารขึ้นชื่อรสเยี่ยมมากมายของเอเชียมาไว้ในที่เดียว นอกจากนี้ ภายในส่วนของ ‘K-Town’ ได้จัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่ให้กับ ‘K-Fashion’ และ ‘K-Beauty’ แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นความงาม รวมถึงบริการเพื่อความงามจากเกาหลีที่ครบครันมากที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีร้านอาหารของศิลปินดังเกาหลี มาเปิดให้แฟนๆ ได้ลิ้มลอง เช่น ‘Psy Ramen’ (ไซ ราเม็ง) ของไซ กังนัมสไตล์ และ ร้าน ‘After Rain’ ของ ‘Rain’ นักร้องหนุ่มผู้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก

ด้าน นางประภาวัลย์ เวลาดีวงณ์ รองประธาน บริษัท โชว์ ดีซี คอร์ป จำกัด กล่าวว่า จากจุดเด่นและความครบวงจรที่บริษัทนำมาเสนอให้กับลูกค้า บริษัทคาดว่าโครงการโชว์ดีซี จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ราว 50,000 คนต่อวัน จากเป้าหมายทั้งวันที่คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประมาณ 100,000  คน เนื่องจากโครงการโชว์ ดีซี  ถือเป็นค้าปลีกรายแรกในประเทศไทยที่ออกแบบการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี จากการคาดการณ์ของหน่วยงานภาครัฐที่ออกมาประกาศว่าใน 5 ปีข้างหน้า จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยถึง 37 ล้านคนต่อปี จึงทำให้ บริษัท โชว์ ดีซี มุ่งมั่นในการสร้างศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบวงจร เพื่อให้โครงการโชว์ดีซี  เป็นแลนด์มาร์คของประเทศไทยและของภูมิภาคอาเซียน  ซึ่งจากเป้าหมายดังกล่าวบริษัทได้ทำการสร้างที่จอดรถบัสขนาดใหญ่ รวมไปถึงจัดการวางแผนเส้นทางการเดินชมของผู้มาใช้บริการภายในศูนย์การค้าอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับความสะดวกสบายเมื่อเข้ามาใช้บริการ

นอกจากนี้ ยังมีการอำนวยความสะดวกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ด้วยการเตรียมพื้นที่พักผ่อนไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ “VIP Traveller Lounge” (วีไอพี แทรเวเลอร์ เลาจ์) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาผ่อนคลายในวันสุดท้ายที่ประเทศไทย หลังจากเช็คเอาท์จากโรงแรมที่พัก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการฝากกระเป๋าเดินทาง อาบน้ำ หรือพักผ่อน หลักจากเช็คเอาท์จากโรงแรมที่พัก และในขณะรอเครื่องบินไฟลท์ค่ำ พร้อมกันนี้ บริษัท โชว์ ดีซี ยังได้เตรียมบริการรถรับส่งฟรีไปยังสนามบินในกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

จากความคืบหน้าโครงการที่ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้วประมาณ 80% จึงทำให้บริษัท โชว์ ดีซี มั่นใจว่า โครงการโชว์ดีซี  จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการตามแผนงานที่วางไว้ในเดือน มิ.ย. 2559 อย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ในส่วนของการก่อสร้างได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการตกแต่ง ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการวันละไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนต่อวัน ในจำนวน 50% คาดว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเอเชีย ส่วนที่เหลืออีก 50% จะเป็นลูกค้าคนไทยและประเทศอื่นๆ ซึ่งในส่วนของกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการมากที่สุด บริษัท โชว์ดีซีคาดว่า 50% จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชีย เนื่องจากภูมิภาคเอเชียมีความสนใจที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นหลัก ทำให้บริษัท โชว์ ดีซี มั่นใจว่า การเกิดขึ้นของโชว์ ดีซี จะช่วยสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการสร้างสรรค์แหล่งช้อปปิ้งและเอ็นเตอร์เทนเมนต์สุดหรูครบวงจรน่าตื่นตาตื่นใจใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย โชว์ ดีซี ในฐานะแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่สำคัญของอาเซียน จะช่วยเสริมแกร่งภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย ให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางการช้อปปิ้งและความบันเทิงแห่งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ดูจากแผนการดำเนินงานที่บริษัท โชว์ ดีซี วางไว้ หากสามารถทำได้ตามแผน ประเทศไทยจะมีแลนด์มาร์คแห่งใหม่เกิดขึ้นอีกหนึ่งแห่ง  ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นที่ถูกใจของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างแน่นอน เพราะดูจากบริการต่างๆ ที่เตรียมไว้รองรับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวล้วนมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง  หรือความบันเทิงต่างๆ  แต่จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน คงต้องขึ้นอยู่กับฝีมือการวางแผนด้านการตลาดของโครงการโชว์ดีซี