SIAM ต่อยอดคอนเน็คชั่นพันธมิตรญี่ปุ่นรุกลงทุนโซล่าฟาร์ม เผยอยู่ระหว่างการตรวจสอบฐานะกิจการของโครงการที่จะเข้าลงทุนในญี่ปุ่น 2 แห่ง คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ส่วนโครงการโซล่าฟาร์มในไทย รอทางการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาในวันที่ 24 ธ.ค.นี้  ตั้งเป้ามีรายได้จากธุรกิจพลังงานเข้ามาตั้งแต่ในไตรมาส 4 ปีหน้า

นายสุรพล คุณานันทกุล รองผู้อำนวยการ บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ SIAM เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเข้าลงทุนด้านพลังงานทดแทนหลายโครงการในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเห็นว่า เป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่ดี โดยขณะนี้กำลังทำ Due diligence โครงการโซล่าฟาร์ม 2 แห่งในญี่ปุ่น ซึ่งเป้าหมายในระยะแรกจะลงทุนประมาณ 20 เมกะวัตต์ คาดจะได้ข้อสรุปประมาณสิ้นปีนี้

ส่วนโครงการโซล่าฟาร์มในไทยนั้น นายสุรพล คาดว่ากระทรวงพลังงานจะมีการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาอย่างเป็นทางการถึงสถานที่พร้อมจำนวนเมกะวัตต์ที่ได้รับการจัดสรรในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ ซึ่งระหว่างนี้บริษัทก็ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆเพื่อรองรับการลงทุนไว้แล้ว โดยตั้งเป้าจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจพลังงานเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 59 เป็นต้นไป

“ธุรกิจพลังงานทดแทน จะทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งการลงทุนนั้นเราจะดูทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในญี่ปุ่นถือว่า SIAM มีความพร้อม เนื่องจากมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจและคอนเน็คชั่นที่ดีกับพันธมิตรญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน” นายสุรพล กล่าว

ทั้งนี้ ตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน หรือโซล่าฟาร์ม สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ.2558 มีจำนวนรวม 800 เมกะวัตต์ มีสัญญา 25 ปี โดยคณะกรรมการกิจการพลังงาน(กกพ.) กำหนดเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าระยะแรก 600 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.59 ส่วนที่เหลือจะเป็นการรับซื้อไฟฟ้าระยะสอง จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61- 30 มิ.ย.61 ทั้งนี้ กำหนดเปิดให้ยื่นขอเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1-7 พ.ย. และคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ธ.ค.นี้

นายสุรพล ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของการติดตั้งโซล่ารูฟท็อปที่โรงงานของ SIAM ตามที่บริษัทได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นในโครงการการพัฒนากลไกเครดิตร่วม (Joint Crediting Mechanism: JCM)ว่า ขณะนี้ได้สั่งซื้อแผงโซล่าของพานาโซนิคแล้ว และอยู่ในขั้นตอนเตรียมติดตั้ง คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนก.พ.ปี 59 และเริ่มจ่ายไฟในเดือนมี.ค.59 มีขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงาน ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ ประมาณ 6.5 ล้านบาทต่อปี