นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี ถือเป็นวันแห่งการประหยัดและการออมของโลก หรือที่เรียกว่า “World Thrift Day” เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการออม ซึ่งกำหนดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.1924 หรือเมื่อ 91 ปีที่แล้ว สำหรับประเทศไทย ได้กำหนดวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันออมแห่งชาติเมื่อปี 2542 โดยกิจกรรมด้านการออมนั้น “ธนาคารออมสิน” เป็นผู้ดำเนินมาเป็นเวลานานต่อเนื่องในวันสถาปนาธนาคารออมสินวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี ก่อนจะมีการกำหนดให้วันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันออมแห่งชาติ และต่อมาได้จัดกิจกรรมด้านการออมในวันออมแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ซึ่งปีนี้ได้กำหนดจัดในวันศุกร์ที่ 30 และวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม โดยมีกิจกรรมมากมายและที่สำคัญคือ “การประกาศเกียรติคุณผู้มีวินัยการออม” ทั่วประเทศไทยรวมจำนวนกว่า 10,000 คน ซึ่งคัดเลือกจากลูกค้าของธนาคารออมสินที่มีการออมเงินอย่างต่อเนื่องจาก 3 กลุ่มลูกค้า ได้แก่ 1.นักเรียน/นักศึกษา 2.พ่อค้า/แม่ค้า และ 3.กลุ่มองค์กรการเงินชุมชน/สถาบันการเงินชุมชน และมีโครงการเงินออมเพื่อน้องที่มีทุนการศึกษาอีก 35,000 ทุนๆ ละ 1,000 บาท เป็นเงินรวม 35 ล้านบาท รวมถึงแจกทุนการศึกษาในวันออมแห่งชาติอีกกว่า 7 ล้านบาท
นอกจากนี้ สิ่งที่จะขาดไม่ได้คือ ของที่ระลึกชิ้นพิเศษที่จัดทำคู่กับกิจกรรมวันออมที่ธนาคารออมสินเตรียมไว้เป็นประจำทุกปี คือ “กระปุกออมสิน” ซึ่งในปีนี้ได้จัดทำ “กระปุกออมสินแพะเพิ่มทรัพย์” มอบให้ผู้ฝากที่เป็นเจ้าของบัญชีที่มาฝากเงินด้วยตนเอง ณ สาขาที่ปฏิบัติงานในวันทำการปกติในวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม และสาขาที่ปฏิบัติงาน 7 วัน ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม เช่น ในห้างสรรพสินค้า จุดให้บริการพิเศษ เป็นต้น โดยจำนวนเงินฝากแต่ละบัญชีเป็นไปตามเงื่อนไขการรับฝากเงินแต่ละประเภท และไม่ต่ำกว่าบัญชีละ 200 บาท มอบให้ 1 ชิ้นต่อ 1 บัญชี ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ และทุกสาขาทั่วประเทศ
“เมื่อวันก่อน นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนประชาชนให้รู้จักการเก็บออมเงิน เนื่องในโอกาสวันออมแห่งชาติ ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของการออม เพราะการออมจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้น ขณะที่รัฐบาลพยายามดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้น จะได้มีเงินไว้เพื่อการออมมากขึ้น ซึ่งการรู้จักเก็บออมเงินจะเกิดคุณค่ามากกว่าการที่จะรอรับความช่วยเหลือหรือรอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งธนาคารออมสินจะนำมาเป็นแนวปฏิบัติต่อไป” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าว
นายชาติชาย กล่าวต่อไปว่า การออมเงินและบทบาทของสถาบันเพื่อการออม ในโลกปัจจุบันมีความสำคัญ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเป็นปัจจัยกดดันภาวะการออมเงินในประเทศไทย และทั่วโลก ธนาคารออมสิน ในฐานะที่เป็นสถาบันเพื่อการออม จะมีส่วนร่วมผลักดันวาระการออมภายในประเทศตามที่ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ดำริไว้ และถือว่าเป็นโอกาสดีที่ ธนาคารออมสิน จะได้แสดงบทบาทด้านการออมบนเวทีโลก ด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมธนาคารออมสินโลกในกลางปี 2559 หลังจากที่ประชุมสถาบันธนาคารออมสินโลก เมื่อวันที่ 23-25 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ได้ลงมติเลือก ธนาคารออมสิน ของไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปี 2559 ซึ่งจะเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น กำหนดยุทธสาตร์ และเป้าหมายด้านการออมร่วมกัน หลังจากมีข้อตกลงร่วมกับธนาคารโลก ภายใต้เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกัน เพื่อดำเนินกิจกรรมสนับสนุนเป้าหมายที่จะขยายจำนวนฐานลูกค้าของสมาชิกของสถาบันธนาคารออมสินโลก ที่ ณ สิ้นปี 2557 มีลูกค้าอยู่ 1,300 ล้านคน ให้เพิ่มเป็น 1,700 ล้านคน ภายในปี 2563
ปัจจุบัน มีสถาบันธนาคารออมสินโลก หรือ WSBI (World Savings and Retail Banking Institute) เป็นองค์กรหลัก มีสมาชิกกว่า 110 แห่ง จาก 80 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทยมีธนาคารออมสินเป็นสมาชิก
ข่าวเด่น