แบงก์-นอนแบงก์
ธ.ก.ส. ทุ่ม 20,000 ล้าน เปิดโครงการสินเชื่อ หนุนเกษตรกรใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มศักยภาพการผลิต


ธ.ก.ส. เปิดโครงการสินเชื่อจัดหาเครื่องจักรเครื่องยนต์ที่ใช้ในการผลิต การแปรรูป และการขนส่งวางเป้า 20,000 ล้าน  หวังหนุนเกษตรกรนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  ลดต้นทุนและปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันรองรับ AEC

  

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2558 ได้มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส.ดำเนินงานโครงการสินเชื่อจัดหาเครื่องจักรเครื่องยนต์ที่ใช้ในการผลิต การแปรรูป และการขนส่งเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ระยะที่ 2  วงเงิน 20,000 ล้านบาท  หลังพบว่ามีเกษตรกรให้ความสนใจขอใช้บริการโครงการระยะเวลาที่ 1 ไปแล้วกว่า 7.7 หมื่นราย  วงเงินกว่า  32,000 ล้านบาท โดยสินเชื่อดังกล่าวช่วยให้เกษตรกรได้มีเงินทุนในการจัดหาเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการผลิตของตนเอง รวมถึงช่วยประหยัดต้นทุนด้านดอกเบี้ย  เนื่องจาก ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
  

โครงการดังกล่าว เกษตรกรสามารถขอกู้เพื่อนำไปซื้อเครื่องจักร เครื่องยนต์ที่ใช้ในการผลิตการแปรรูปหรือการรักษาคุณภาพผลผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร   การซื้อรถยนต์ รถบรรทุก ที่ใช้ในการขนส่งผลผลิตการเกษตรและผลผลิตการเกษตรแปรรูป  และยังสามารถกู้เพื่อนำไปชำระค่าเช่าซื้อ (Refinance) จากบริษัทผู้ประกอบกิจการให้เช่าซื้อเครื่องจักร เครื่องยนต์การเกษตรที่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกรแบบ Flat Rate ได้ด้วย  แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์คือวงเงินไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ซื้อ และไม่เกินจำนวนเงินค่าเช่าซื้อคงเหลือพร้อมค่าอุปกรณ์ที่ผ่อนชำระกับบริษัท รวมกับค่าบำรุงซ่อมแซมหรือการจัดหาอุปกรณ์ต่อพ่วงให้ทรัพย์สินนั้นใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ร้อยละ 7 ต่อปี   กำหนดชำระคืนเสร็จสิ้นไม่เกิน 7 ปี และไม่เกินสภาพอายุการใช้งานของทรัพย์สินที่ซื้อ  ระยะเวลาการดำเนินโครงการ 3 ปี (ปีบัญชี 2558-2560) หรือสิ้นสุดการจ่ายเงินกู้ไม่เกิน 31 มีนาคม 2561 ทั้งนี้ โดยใช้หลักทรัพย์จำนองค้ำประกันและหรือการใช้บุคคล  ซึ่งกรณีใช้บุคคลค้ำประกันสามารถขอใช้สินเชื่อวงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
  

นายลักษณ์ กล่าวว่า เกษตรกรที่ใช้บริการสินเชื่อดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา  สามารถนำเครื่องจักร  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเพิ่มมูลค่าผลผลิตภายในฟาร์ม ในสวนหรือไร่นาของตนเองรวมถึงการนำไปให้บริการแก่คนทั่วไปเช่น ซื้อรถไถ รถเกี่ยวนวดข้าว   รถตัดอ้อย  ไปช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตร เพิ่มรายได้และสร้างงานในชุมชน การซื้อรถยนต์กระบะรถบรรทุก เพื่อขนผลผลิตไปจำหน่าย  การซื้อเครื่องจักรที่ใช้แปรรูปสินค้า ทำบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันรองรับการก้าวสู่ AEC เป็นต้น  สำหรับกรณีที่กู้เงินจาก ธ.ก.ส.ไปชำระค่าเช่าซื้อ พบว่าทำให้เกษตรกรสามารถลดภาระดอกเบี้ยลงได้ประมาณรายละ 30,000 บาท  ทั้งนี้เกษตรกรรายบุคคลหรือเกษตรกรที่รวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน ที่ประสงค์จะใช้บริการเครื่องจักรเครื่องยนต์ร่วมกันในลักษณะ   Machinery Pool  สามารถสอบถามรายละเอียดและติดต่อขอใช้สินเชื่อตามโครงการได้ที่สาขาของ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
                
                

               
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 พ.ย. 2558 เวลา : 10:53:00
08-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 8, 2025, 10:58 pm