"ธุรกิจการท่องเที่ยว" จะเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญมากขึ้น ในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ตั้งแต่ต้นปี 2559
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่าปี 2559 แอตต้าจะวางแผนเชิงรุกด้านการตลาดมากขึ้น คู่ขนานกับการทำงานเชิงวิเคราะห์ ผ่านการทำวิจัยที่จัดทำเป็นครั้งแรก เพื่อให้ได้กลยุทธ์สอดรับกับความท้าทายด้านปริมาณนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสถึง 30 ล้านคน หลังจากในรอบ 6 เดือนแรก ประเมินว่ามีการดำเนินงานตามแผนไปแล้ว 60% แต่ยังเหลืออีก 40% โดยเฉพาะการประสานงานภาครัฐ ส่งเสริมนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งในเชิงรายได้ และเชิงพฤติกรรมท่องเที่ยว
โดยช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา แอตต้าสร้างรายได้ จากนักท่องเที่ยวขาเข้า 1.96 แสนล้านบาท คาดว่า ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวผ่านแอตต้า 5 ล้านคน ซึ่งช่วง1 ม.ค.- 20 ต.ค.มี 4.17 ล้านคน เพิ่มขึ้น 86.75%
ส่วนปีหน้าจะให้ความสำคัญกับโครงการเชิงคุณภาพ 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มคุณภาพ นักท่องเที่ยว ร่วมมือเวิร์คช็อปด้านการตลาดร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมงานเทรดโชว์หรืองานส่งเสริมการขาย โดยร่วมมือกับสมาคมท่องเที่ยวอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ เตรียมจัดโครงการ Local Product meet Travel Agents
การพัฒนาคุณภาพผู้ประกอบการ เพิ่มศักยภาพด้วยหลักสูตรการฝึกอบรม กำหนดมาตรฐานด้านวิชาชีพ วางมาตรการแก้ปัญหาขาดแคลนทรัพยากรบุคลากรระยะยาวร่วมกับกรมการท่องเที่ยว จัดระเบียบมัคคุเทศก์หรือไกด์ตลาดจีน การบังคับให้มีไกด์คนไทยบนรถบัสทุกคัน และการเพิ่มคุณภาพชุมชนแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวสู่ชุมชน มีแผนให้สมาชิกสำรวจเส้นทาง 12 เมืองต้องห้ามพลาด เพื่อทำเส้นทางที่ตอบสนองได้ตรงมากขึ้น
ส่วนการปฏิรูปด้านท่องเที่ยว แอตต้าเตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาควบรวบรวม 3 หน่วยงาน ให้เข้ามาอยู่ภายใต้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ), องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
และสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เพื่อให้เกิดการบูรณาการแผนงานและใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเชิงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
ข่าวเด่น