"อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต" เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ตั้งแต่มกราคม - กันยายน 2558 เป็นไปตามเป้า โกยยอดเบี้ยประกันภัยรับรวมจากทุกช่องทางแตะ 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ยอมรับเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ผลงานน่าพอใจ ช่วงโค้งสุดท้ายเดินหน้าใช้ระบบดิจิทัล เพื่อช่วยอำนายความสะดวกในการขาย พร้อมก้าวสู่ความเป็นหนึ่งด้านคุ้มครอง
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ บริษัทฯยังคงเน้นเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์คุ้มครองให้มากขึ้นในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปัจุบันผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 33% โดยยังคงเน้นกลยุทธ์การเพิ่มอนุสัญญาด้านสุขภาพต่อกรมธรรม์ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีอัตราส่วนอยู่ที่ 3.39
สำหรับผลิคภัณฑ์คุ้มครองที่โดดเด่น ได้แก่ "สุขภาพ ปลดล็อค" ซึ่งปัจจุบันสร้างเบี้ยได้ถึง 85 ล้านบาท คิดเป็น 19% ของสัดส่วนผลิตภัณฑ์คุ้มครองทั้งหมด และ "ประกันโรคร้ายได้คุ้ม" ที่ล่าสุดมีการออกแคมเปญดิจิทัลซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากโลกออนไลน์ แคมเปญเข้าถึงผู้ชมกว่า 5.8 ล้าน และมีรายชื่อผู้สนใจผลิตภัณฑ์เข้ามากว่า 1,700 คนภายในระยะเวลาเพียง 2 อาทิตย์
นอกจากนั้น บริษัทจะเน้นไปที่การพัฒนาการดำเนินงานผ่านระบบดิจิทัล เช่น โครงการ Digital Native Agents หรือ DNA ที่ใช้เทคโนโลยีในการสนับสนุนการขายแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาผลิตภัณฑ์จากการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า การทำใบเสนอราคา การกรอกใบสมัคร การติดตามผลการสมัคร ผลงานและคุณวุฒิของตัวแทน ซึ่งทั้งหมดทำผ่านระบบ paperless นอกจากนั้น ยังมีโครงการ Social Media for Sales ที่เน้นใช้สื่อโซเชี่ยลอย่าง Facebook ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวแทนและลูกค้า โดยโครงการนี้สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม มีตัวแทนในโครงการถึง 118 คน และมีคะแนนความพึงพอใจสูงถึง 60%
ล่าสุด บริษัทยังได้รับรางวัล ศูนย์รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ประเทศไทย (สรอ.) ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จจากการดำเนินกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางที่ดำเนินมาโดยตลอด
นายไบรอัน สมิธ กล่าวต่อว่า สำหรับผลดำเนินงาน 9 เดือน เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันจะชะลอตัว โดยมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างยอดเบี้ยประกันภับรับปีแรกจากทุกช่องทาง 3.8 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวมจากทุกช่องทางแตะ 2 พันล้านบาท โดยช่องทางตัวแทนสร้างเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1.2 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 9.8 พันล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์สร้างเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1.5 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 5.9 พันล้านบาท ขณะที่ช่องทางการตลาดขายตรงยังคงครองแชมป์ยอดเบี้ยสูงสุดในตลาดเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ด้วยเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1.0 พันล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 3.6 พันล้านบาท
ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ เยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้รายงานผลประกอบการเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้เช่นกัน โดยตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มอลิอันซ์ทำรายได้อยู่ที่ 95.5 พันล้านยูโร(ประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3.5% ผลกำไรจาการดำเนินงานอยู่ที่ 8.15 พันล้านยูโร (ประมาณ 3.36 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 8.14 พันล้านยูโร(ประมาณ 3.35 แสนล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา รายได้สุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 3.9% มาอยู่ที่ 5.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.14 แสนล้านบาท) จาก 5 พันล้านยูโร (ประมาณ 2.06 แสนล้านบาท) ของปีที่แล้ว
ในไตรมาสที่สามของปี 2558 กลุ่มอลิอันซ์ยังคงรักษารายได้อยู่ในระดับสูงและมีผลกำไรจาการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีท่ี่ผ่านมา รายได้รายไตรมาสรวมทั้งสิ้น 27.5 พันล้านยูโร(ประมาณ 1.134 ล้านล้านบาท) ลดลง 4.3% ส่วนผลกำไรจาการดำเนินงานอยู่ที่ 2.45 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.01 แสนล้านบาท) ลดลง 7.5% จาก 2.65 พันล้านยูโร(ประมาณ 1.09 แสนล้านบาท) รายได้สุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.36 พันล้านยูโร (ประมาณ 56.11 พันล้านบาท) ลดลง 15.4% จาก 1.61 พันล้านยูโร(ประมาณ 66.42 พันล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในไตรมาสนี้ ธุรกิจประกันวินาศภัยมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากผลตอบแทนจากการลงทุนและการรับประกันภัยที่ลดลง ในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพ มียอดขายเพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยอดเบี้ยประกันภัยรับรวมจากผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมที่มีอยู่กลับลดลง ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ พบว่าผลกำไรจาการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากเงินทุนไหลออกในช่วงก่อนหน้านี้
"ในภาวะที่ตลาดการเงินมีความผันผวนเช่นนี้ พื้นฐานของอลิอันซ์ยังคงอยู่ในระดับที่มั่นคงในทุกกลุ่มธุรกิจในไตรมาสที่สาม เราคาดว่าผลกำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปีจะเติบโตและประสบความสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10-10.8 พันล้านยูโร(ประมาณ 4.126 - 4.456 แสนล้านบาท) "นายดีเทอร์ เว็มเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน กลุ่มอลิอันซ์ กล่าว
ข่าวเด่น