หลังจากหลายประเทศทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ขณะที่อีกหลายประเทศต้องประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติ และอีกหลายประเทศต้องประสบกับปัญหาการก่อการร้าย ส่งผลให้ บริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มภายใต้ตราสินค้า "ยูเอฟซี" ต้องออกมาประกาศปรับแผนการทำตลาด ด้วยการหันมารุกตลาดในประเทศมากขึ้น จากเดิมจะเน้นทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากต้องการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นดังกล่าว
สำหรับแนวทางการทำตลาดในประเทศ บริษัท อาหารสากล จะเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มกล้าที่จะลองสินค้าใหม่ๆ โดยในส่วนของสินค้าตัวแรกที่จะนำมาทำตลาดในประเทศอย่างจริงจัง คือ น้ำมะพร้าว 100% ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัท อาหารสากล เลือกที่จะหยิบสินค้าดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย นอกจากจะเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกาแล้ว พฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนไป คือ ชอบความสะดวกสบายมากขึ้น และเริ่มยอมรับการบริโภคน้ำมะพร้าวสำเร็จรูป ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ บริษัท อาหารสากล มั่นใจเลือกหยิบสินค้าดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง
นายฟรานซิส ฟู ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาหารสากล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าพฤติกรรมการบริโภคน้ำมะพร้าวของคนไทยส่วนใหญ่จะยังคงยึดติดกับการบริโภคน้ำมะพร้าวสดจากลูก แต่จากพฤติกรรมในแต่ละวันที่รีบเร่ง ส่งผลให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับความสะดวกสบาย บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาทำตลาดน้ำมะพร้าว 100% จากธรรมชาติภายใต้แบรนด์ ยูเอฟซี รีเฟรช เนื่องจากสินค้าดังกล่าวใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากประเทศไทย โดยในส่วนของตัววัตถุดิบน้ำมะพร้าว บริษัทได้มีการรับซื้อมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นน้ำมะพร้าวที่มีรสชาติอร่อยและคุณภาพดีที่สุด จากแหล่งเพาะปลูกมะพร้าวที่ดีที่สุดของประเทศไทยบนพื้นที่ราบลุ่มในเขต 4 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม
ส่วนแผนการทำตลาดจะเน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก โดยในส่วนของขนาดผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดในประเทศไทยจะมีด้ายกัน 2 ขนาด คือ 500 มิลลิลิตร ราคา 40 บาท และขนาด 1 ลิตร ราคา 75 บาท เน้นจำหน่ายผ่านช่องทางห้างค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านคอนวีเนียนสโตร์ เช่น 108 ช็อป และซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือท็อปส์ ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาดน้ำมะพร้าว 100% จากธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ ยูเอฟซี รีเฟรช อย่างต่อเนื่อง บริษัท อาหารสากล คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากสินค้าดังกล่าวในปีแรกไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีนับจากนี้
จากรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของน้ำมะพร้าว 100% จากธรรมชาติ ยูเอฟซี รีเฟรช บริษัท อาหารสากล คาดว่าในอีก 5 ข้างหน้าจะสามารถพลิกสัดส่วนรายได้จากการขายน้ำมะพร้าว 100% มาจากตลาดในประเทศได้เป็น 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นรายได้จากการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ซึ่งถือว่าปรับเพิ่มขึ้นจากปีแรกที่คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากการทำตลาดน้ำมะพร้าว 100% ในประเทศอยู่ที่ประมาณ 35% ที่เหลืออีก 65% เป็นรายได้จากการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
ก่อนหน้าที่ บริษัท อาหารสากล จะตัดสินใจปรับแผนรุกจากตลาดส่งออกเป็นตลาดในประเทศไทยในปี 2556 ได้มีการขยายการลงทุนเพิ่มเติม ด้วยการใช้งบกว่า 150 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมะพร้าว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สินค้ารสชาติและแพ็คเกจจิ้งใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายฟรานซิส กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นถึงการควบคุมคุณภาพ และการรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบก่อนนำเข้ากระบวนการผลิตภายในโรงงานเป็นเรื่องสำคัญ ประกอบกับบริษัทมีทีมงานมืออาชีพและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่ได้รับการรับรองคุณภาพการผลิตอาหารและเครื่องดื่มจากสถาบันควบคุมคุณภาพระดับสากลจากทั่วโลก GMP, HACCP, ISO 9001:2008, IFS, BRC, HALAL, KOSHER และ NON-GMO จึงเชื่อมั่นได้ว่าผลิตภัณฑ์ ยูเอฟซี รีเฟรช เป็นน้ำมะพร้าวแท้ 100% ที่มีความสด หอม หวานแบบธรรมชาติ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ และเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว หลังออกสู่ตลาดไม่นาน และมีการส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในหลากหลายทวีปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เอเชีย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อเมริกา, อเมริกาเหนือ, ยุโรป, ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์
จากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าว ส่งผลให้ ยูเอฟซี รีเฟรช น้ำมะพร้าวแท้ 100% เป็นน้ำมะพร้าวแบรนด์แรกของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลการันตีด้านรสชาติความอร่อย “Superior Taste Award ปี 2015” 2 ดาว เทียบเท่ารสชาติดีเยี่ยมจากสถาบันรับรองด้านรสชาติและคุณภาพอาหารระดับนานาชาติ The International Taste & Quality Institute หรือ iTQi จากบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
นายฟรานซิส กล่าวต่อว่า iTQi ถือเป็นองค์กรชั้นนำของโลกที่รับรองมาตรฐานด้านรสชาติและคุณภาพอาหาร ตลอดจนส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติดีเลิศให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยน้ำมะพร้าว ยูเอฟซี รีเฟรช ได้ผ่านการคัดเลือกและตัดสินด้วยการทดสอบแบบ Blind Taste จากเชฟและคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติกว่า 120 คน จากสถาบันอาหารชั้นนำของยุโรปกว่า 15 สถาบัน ทำให้น้ำมะพร้าว ยูเอฟซี รีเฟรช มีความแตกต่างและโดดเด่นทางด้านรสชาติเมื่อเทียบกับแบรนด์น้ำมะพร้าวอื่นๆ ทั้งตลาดในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ
แม้ว่าบริษัท อาหารสากล จะหันมาทำตลาดในประเทศมากขึ้น แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดในตลาดต่างประเทศควบคู่กันไป โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศที่คาดว่าจะส่งออกน้ำมะพร้าว ยูเอฟซี รีเฟรช ได้เพิ่มขึ้น คือ กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย อเมริกา อเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังประเทศใหม่ๆ ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น โอมาน ดูไบ คูเวต และบาห์เรน รวมไปถึงกลุ่มประเทศในเอเชียใต้ เช่น บังกลาเทศ
หลังจากให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศกับการทำตลาดน้ำมะพร้าว 100% ไประยะหนึ่ง บริษัท อาหารสากล ก็มีแผนที่จะผลิตกลุ่มสินค้าอื่นๆ เช่น กลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม และกลุ่มขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในปี 2559 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำวิจัยสินค้า และศึกษาโอกาสทางการตลาด
อย่างไรก็ดี แม้ว่าขณะนี้จะมีเพียงน้ำมะพร้าว 100% เป็นสินค้าใหม่ที่ทำตลาดในประเทศไทย แต่ก่อนที่จะมีสินค้าดังกล่าวเข้ามาทำตลาด บริษัท อาหารสากล ก็มีสินค้าภายใต้แบรนด์ยูเอฟซี เข้าทำตลาดในประเทศไทยในหลายผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้กระป๋อง ผักดองกระป๋อง นมถั่วเหลือง หรือกาแฟกระป๋อง ซึ่งจากจำนวนสินค้าที่มีความหลากหลายดังกล่าว เชื่อว่า สินค้าหลายตัวที่นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยก่อนหน้านี้ บริษัท อาหารสากล อาจจะมีการปัดฝุ่นสินค้าเก่า เพื่อนำเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังในปีหน้าและปีต่อๆ ไปอีกหลายตัว หากผลการวิจัยทางการตลาดได้ข้อสรุปว่ามีโอกาสในการสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น ถ้ามีการรีเฟรชแบรนด์ให้มีความสดใหม่
จากจำนวนสินค้าที่มีความหลากหลายและมีการทำตลาดในปัจจุบัน ส่งผลให้บริษัท อาหารสากล คาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการนำสินค้าส่งออกไปทำตลาดในต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 60% อีก 40% เป็นสัดส่วนรายได้จากการทำตลาดในประเทศไทย และจากการเดินหน้าหันกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังมากขึ้น ทำให้บริษัท อาหารสากล คาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีนับจากนี้ จะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นสัดส่วนรายได้ที่มาจากในประเทศไทย 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นรายได้จาการทำตลาดในต่างประเทศ
ข่าวเด่น