หลังจากออกมาประกาศผนึกกำลัง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับย่านสยาม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด บริษัท เอ็มบีเค จำกัด(มหาชน) กลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ และกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าในย่านสยามอีกกว่า 4,200 ร้านค้า ก็ออกมาผนึกกำลังจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของย่านสยาม ภายใต้แนวคิด “THE PRIDE OF BANGKOK, THE TREASURE OF THE WORLD” เชิญชวนประชาชนที่เดินทางมาในย่านสยามเข้ามาร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ภายในย่านสยามที่จะจัดขึ้นต่อเนื่องตลอดทุกวัน เพื่อสร้างสีสันครั้งยิ่งใหญ่ให้กับย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ การออกมาจัดกิจกรรมดังกล่าว ยังถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของผู้ประกอบการในย่านสยาม เพื่อตอกย้ำภาพลักษ์จุดศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายครบทุกมิติแห่งหนึ่งของโลก ด้วยการผสมผสานการจัดกิจกรรมระหว่างเทรนด์ที่ล้ำสมัยด้านการช้อปปิ้งระดับโลก ศิลปวัฒนธรรม และความบันเทิงที่หลากหลายไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นประตูบานสำคัญในการสร้างชื่อให้กับกรุงเทพมหานคร

สำหรับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ กลุ่มพลังสยามได้ร่วมลงขันคิดเป็นเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดเดือน ธ.ค. นี้  ด้วยการแบ่งการจัดกิจกรรมออกเป็น 3 ส่วนหลักสำคัญ ได้แก่ กิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมเชิดชูทำนุบำรุงความเป็นไทย,กิจกรรมเฉลิมฉลองสานต่องานศิลป์เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมแสวงหาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ โชว์ความสามารถผ่านงานศิลปะ และกิจกรรมระดับเวิลด์คลาส ที่ยกกิจกรรมระดับโลกต่างๆ มาจัดขึ้นภายในย่านสยามสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน

พร้อมกันนี้ ยังจะมีการจัดโปรโมชั่นอย่างยิ่งใหญ่อันเป็นความร่วมมือของศูนย์การค้าต่างๆ ภายในย่าน ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งรอยยิ้มในย่านสำคัญใจกลางเมืองหลวงรวมกว่า 30 กิจกรรม เช่น โครงการสะอาดเพื่อพ่อ…Clean for the King, กึกก้องด้วยภักดี , MBK FIGHT NIGHT , Bike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ, MBK Happy  Street Festival, Siam Street World , Star Wars Run, Hay Christmas Market และ Eco x’mas festival เป็นต้น

หลังจากออกมาจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง กลุ่มพลังสยามคาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาในย่านสยามเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปกติทุกวันจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในย่านนี้ประมาณ 6.5 แสนคนต่อวัน ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในย่านสยามเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปกติช่วงเดือน ธ.ค.จะมีเงินสะพัดภายในย่านสยามไม่ต่ำกว่า 23,000 ล้านบาท

นายสมพล ตรีภพนารถ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการวิสาหกิจทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม กำลังหลักในการขับเคลื่อนย่านสยาม ซึ่งเป็นแหล่งการค้า ความเจริญใจกลางกรุงเทพมหานคร ได้มารวมตัวกันเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลปีใหม่ในปีนี้ โดยจะเริ่มต้นจากความร่วมมือร่วมใจจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมเชิดชูทำนุบำรุงความเป็นไทย เช่น การทำความสะอาดเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการสะอาดเพื่อพ่อ หรือ Cleanfor the King ในวันที่ 4 ธ.ค. เพื่อแสดงออกถึงการผนึกกำลังประชาชนตลอดถนนพระราม 1 ในการร่วมกันทำความสะอาดหน้าบ้านของตนเอง

นอกจากนี้ ทางศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จะจัดงาน MBK FIGHT NIGHT (ศึกมวยไทย เฉลิมพระเกียรติ 88 พรรษา) ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่างศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และสมาคมครูมวยไทย เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2558 โดยจัดให้มีการแข่งขันมวยไทย 7 คู่ และมวยชิงแชมป์ เข็ดขัด MBK FIGHT NIGHT 2 คู่ การจัดตกแต่งบริเวณถนนพระราม 1 เพื่อต้อนรับขบวนนักปั่นในงานBike for Dad ปั่นเพื่อพ่อ เป็นต้น    

 
นาย ธนพัฒน์ ชยุติรัตน์  กรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ประกอบการในย่านสยามสแควร์ มีแผนที่จะจัดกิจกรรม Siam Street World  ซึ่งถือกิจกรรมที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเทศกาลระดับประเทศที่จัดขึ้นมาต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่มีการจัดงานดังกล่าว มีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่าครึ่งล้านคน เนื่องจากเป็นงานที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมแสวงหาต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านงานศิลป์

ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการแสดงมหกรรมที่รวบรวมความเป็นที่สุดของความสนุกระดับโลก แบ่งเป็น Festival Zone,  Street Performance, Art Street, Art Market, Street Fest Grand Sale และยังรวบรวมศิลปินสร้างสรรค์ชั้นนำ ระดับ Top 5 ของโลก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการแสดงไปตามเวทีต่างๆ สะท้อนแนวคิดสร้างสรรค์ รอบบริเวณย่านสยาม นอกจากนี้ ยังมีการรับสมัครนักแสดงหน้าใหม่ เพื่อชิงรางวัลและก้าวเข้าสู่การนักแสดงระดับโลก

ด้าน นายแดน ศรมณี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า แผนการดำเนินงานดังกล่าวถือเป็นการขับเคลื่อนย่านสยามให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยในส่วนของงานแรกที่จะเริ่มดำเนินงาน คือ การจัดกิจกรรมตีกลองเพื่อพ่ออย่างยิ่งใหญ่ในงาน ‘กึกก้อง ด้วย ภักดี’ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ภายในงานจะมีการรวบรวมมือกลองทุกเพศทุกวัยจากทั่วประเทศจำนวน 89 คน มาร่วมตีกลองเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อประกาศพระเกียรติคุณพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย “อัครศิลปิน” พระผู้ทรงเป็นแบบอย่างนักดนตรีทั่วโลก ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

หลังจากนั้นจะมีการจัดกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างเหนือระดับ เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่าอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการยกเวทีกิจกรรมระดับโลกมาจัดขึ้นภายในย่าน เช่น การจัดกิจกรรม STAR WARS XPERIENCE 2015ประสบการณ์ STAR WARS ระดับโลกในประเทศไทย พบกับประสบการณ์ STAR WARS ระดับโลกที่ดีที่สุดในประเทศไทย จัดเต็มด้วยระบบแสง สี เสียง เหนือระดับ 360 องศา และไฮไลท์พิเศษระดับเวิลด์คลาสมากมาย ทั้ง ยาน TIE Fighter ขนาดมหึมาสุดอลังการ และ X-WING ลำแรกในประเทศไทย เสมือนอยู่ในโรงถ่ายภาพยนตร์ STAR WARS กิจกรรม Star War Run เนรมิตเส้นทางใจกลางเมืองในย่าน สยาม-ปทุมวัน ให้กลายเป็นเส้นทางท้าทายสำหรับนักวิ่งผู้มีศรัทธาในพลังกว่า 10,000 คน โดยงานดังกล่าวจะถูกจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค.

นายแดนกล่าวต่อว่า การจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของย่านสยามจะแตกต่างไปจากการจัดงานในย่านอื่นๆ เนื่องจากย่านสยามจะไม่จัดงานเคาน์ดาวน์เหมือนกับย่านอื่นๆ เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านของพื้นที่ เพราะย่านสยามเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นทางถนน หรือทางรถไฟฟ้า

ดังนั้น การจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของกลุ่มพลังสยาม จึงจะเน้นไปที่การตอกย้ำการเป็นจุดศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพื่อรองรับการเดินทางมาเยือนของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในย่านสยามช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการสะท้อนภาพให้เห็นผ่านการจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นของร้านค้าภายในย่านที่ต่างจับมือกันรังสรรค์ เพื่อมอบให้เป็นของขวัญส่งท้ายปี 2558

จากแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวของกลุ่มพลังสยาม นอกจากจะช่วยให้มีเงินสะพัดภายในย่านสยามปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองและการจับจ่ายใช้สอยให้กับกรุงเทพฯ และประเทศไทยให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น แม้ว่าขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยจะยังอยู่ในภาวะพักฟื้น แต่หากทุกคนร่วมแรงร่วมใจภาพรวมเศรษฐกิจของไทยก็น่าจะฟื้นตัวได้ในเร็ววันนี้ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย หากผู้ประกอบการมีการเตรียมความพร้อม และต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเข้ามาเยือนได้เป็นอย่างดี เม็ดเงินต่างชาติก็น่าจะไหลเข้าประเทศไทยไม่ยาก ฉะนั้นเม็ดเงิน 20,000  ล้านบาท ที่คาดว่าจะสะพัดอยู่ในย่านสยาม ก็อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ