ไอที
ปิดฉากสวยงามมหกรรมช้อปออนไลน์ "Thailand Online Mega Sale 2015"


หลังจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์  (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดตัวเลขการสำรวจมูลค่าการค้าขายสินค้าบนโลกออนไลน์ของประเทศไทย ล่าสุดพบว่า มีมูลค่ามหาศาลกว่า 2 ล้านล้านบาท  ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน และทำให้ ETDA ไม่รอช้าเดินเครื่องสร้างการเติบโตให้กับตลาดอีคอมเมิร์ซไทยต่อเนื่องด้วยการจับมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD) และสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยจัดงาน  “Thailand Online Mega Sale 2015” หรือ “มหกรรมลดราคาสินค้าและบริการทางออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี” ผ่านทางเว็บไซต์ www.thailandmegasale.com  เป็นเวลา 3 วัน ระหว่าง  1-3 ธ.ค.2558 มีส่วนลดให้สูงสุดถึง 80%  ซึ่งได้ปิดฉากลงแล้วอย่างสวยงาม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า OTOP

 

ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็ว ๆนี้ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์  (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดผลสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรืออีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ล่าสุด พบว่า ในปี 2557 มีมูลค่าสูงกว่า 2.03 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว และคาดว่าในปี 2558 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง 3.65% เป็นมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท ซึ่งนับว่าไทยเป็นผู้นำในกลุ่มอาเซียน

ตัวเลขดังกล่าวได้มาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการจำนวนรวมทั้งสิ้น 502,676 ราย โดยดำเนินการเป็นเวลา 7 เดือน เริ่มจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนเมษายน – ตุลาคม 2558

 

นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า จากการเปรียบเทียบไทยกับประเทศอื่นพบว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีมูลค่าสูงสุดในอาเซียนที่ 11.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยมาเลเซียมีมูลค่า 9.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 3.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับสิงคโปร์  โดยแนวโน้มกลุ่มบริการห้องพักและท่องเที่ยวยังสดใส ซึ่งผลสำรวจพบนำโด่งทั้งในปี 2557 และ 2558  โดยในปี 2557 หมวดอุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก 630,159.13 ล้านบาท หรือมีการเติบโต 38.1%

ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 2558 ซึ่งหมวดอุตสาหกรรมการให้บริการที่พักและอาหาร 658,909.76 ล้านบาท เติบโต 38.4 % และตามด้วยหมวดอุตสาหกรรมการผลิต 350,286.83 ล้านบาท เติบโต 20.4 % และหมวดอุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่ง 325,077.48 ล้านบาท เติบโต 19.0 %

ตัวเลขการเติบโตแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจการค้าบนโลกออนไลน์ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการการทั่วไปที่จะนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค

 

นางสุรางคณากล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของอีคอมเมิร์ซเป็นผลมาจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น รวมถึงประชาชนใช้สมาร์ทโฟนกันเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันไทยยังมีความก้าวหน้าขึ้นในด้านระบบชำระเงินออนไลน์และเริ่มเป็นที่นิยมใช้แพร่หลายมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนไทยมีความตื่นตัวในเรื่องอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น

“ดังนั้นจึงจัดงาน Thailand Online Mega Sale 2015 ขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้ประชาชนและผู้บริโภคเกิดการตื่นตัวและหันมาซื้อขายสินค้าและบริการทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ให้ได้รับความเชื่อถือมีผู้เข้ามาซื้อขายมากขึ้น เป็นการพัฒนาระบบการค้าออนไลน์ของไทย พัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยให้มีศักยภาพ เตรียมพร้อมสำหรับก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community-AEC) อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในช่วงท้ายปีและช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศให้สูงขึ้น ทางเว็บไซต์ www.thailandmegasale.com”

 

ด้าน นางสาวรัตนา  เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า  “ทางกรมฯ  ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วน จัดงานนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยจะลดราคาสินค้าที่ยืนยันได้ว่าเป็นราคาที่ลดพิเศษกว่าทุกงานที่เคยมีมา และที่ผ่านมาทางกรมฯได้ส่งเสริมให้ธุรกิจทำการค้าออนไลน์ช่วยขยายตลาด โดยออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของบริษัทหรือผู้ประกอบการ”

การดำเนินการดังกล่าว นับว่า เป็นหลักประกัน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้ประกอบการและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคไปพร้อมกันด้วยว่า เมื่อเข้าซื้อสินค้าในเว็บไซต์ที่ลงทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว เชื่อถือได้ จะไม่เกิดความเสียหาย ไม่มีเบี้ยว อย่างแน่นอน

แต่หากจะมีปัญหาเกิดขั้น ในปีนี้ได้มีการดูแลเรื่องคุณภาพสินค้าอย่างเข้มงวด หากช้อปมาแล้วเกิดปัญหาจากการซื้อขาย สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่  ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนออนไลน์ (OCC) ซึ่งสามารถส่งปัญหาที่เกิดจากการซื้อขายออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ occ.thaiemarket.com  และผ่านคอลเซ็นเตอร์ ได้ที่เบอร์ 1212 และ 02-123-1223

สำหรับงาน Thailand Online Mega Sale 2015 ผู้บริโภคได้พบกับส่วนลดราคาสินค้าและบริการสูงสุดถึง 80% จากร้านค้าออนไลน์ที่เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วยมากถึง 300 ร้านค้า โดยนำทัพสินค้ากว่า 10,000 รายการ มาร่วมลดราคาครั้งใหญ่แห่งปีเอาใจขาช้อปทั้งหลายถ้วนหน้า เพราะมีสินค้าให้เลือกซื้อหามากมาย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที โทรศัพท์มือถือ เฟอร์นิเจอร์อุปกรณ์ภายในบ้าน เสื้อผ้าและแฟชั่น ธุรกิจท่องเที่ยว สินค้าแม่และเด็ก เครื่องสำอาง อาหารและสุขภาพ ตลอดจน พรีเมี่ยมไลฟ์ไสตล์แบรนด์ต่างๆและอื่น ๆ อีกมากมาย
 

 

โดยภาพรวมแล้ว พันธมิตรในแวดวงอีคอมเมิร์ซไทยที่ร่วมจัดงานประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักดังนี้
1.Top merchant  27 ร้านค้า ที่ร่วมส่งสินค้าพร้อมโปรโมชั่นมากมาย อาทิ  Central Online  , Shop at 7 ,  Konvy ,  iTrueMart , Pomelo , Buzzebeess ,  WeloveShopping , Good choiz,   Mshopping ,  Thaiware Shop , U-star , LWNMALL , MoXY , Luxola , BigC , Top Value , BIO ,  TOWRAI,  Nai-in , One2Car , GSP ,ensogo , Lazada ,Zalora , Tarad Nut Dara , Do Home และ  Tohome

2.Regular merchant  กว่า 250 ร้านค้า โดยแบ่งตามประเภทสินค้าเป็น  10 หมวดหมู่ อาทิ อุปกรณ์ ไอที กล้องถ่ายรูป  เครื่องใช้ไฟฟ้า  ท่องเที่ยวบริการ  เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน  แม่และเด็ก  แฟชั่น เครื่องสำอาง อาหาร ฯลฯ

3. Partners กว่า 25 หน่วยงาน ทั้งธนาคาร Logistic Payment Gateway ตลอดจนองค์กรสื่อ  ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมนี้อย่างดี อาทิ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา , ธนาคารไทยพาณิชย์ , ธนาคารกสิกรไทย , acommerce , Smart SME , Line pay , Rush Bike, Mpay,  Priceza,Mol, Paysbuy, lalamove ,pay Solution , Shop Spot, Ready Planet, Niko logistic, Facebook, Google, NCC,เทพ Pay ,Aramex, Rakutan Tarad ,Deliveree, Bella villa Group และ ship yours

 

ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักส่งเสริมธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เปิดเผยว่า ยังมีการคัดเลือกร้านค้าที่ขายสินค้า OTOP ระดับ 4- 5 ดาว จากเว็บไซต์ Thaiemarket.com  นำมาจัดเซตเป็นชุดกระเช้าของขวัญในวาระขึ้นปีใหม่ เน้นความทันสมัยและการนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อ มาจำหน่ายออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “สนับสนุน OTOP ภูมิปัญญา สร้างเศรษฐกิจดิจิทัล” ด้วย

ทั้งนี้งานปิดฉากลงไปแล้วอย่างสวยงามได้รับความสนใจจากขาช้อปออนไลน์อย่างคึกคัก เห็นได้จากจำนวนผู้ลงทะเบียนร่วมกิจกรรม Early Birds  เพื่อที่จะได้เข้าช้อปก่อนใครมีร่วม 10,000 คน นับว่า การจัดค้าออนไลน์ครั้งนี้ช่วยกระตุ้นตลาดอีคอมเมิร์ซได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ประชาชนนิยมซื้อมากที่สุดคือ กลุ่มโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร รองลงมาคือ กลุ่มเครื่องสำอาง อาหาร และสุขภาพตามลำดับ  

แม้ยังไม่มียอดขายออกมาอย่างเป็นทางการว่า สูงกว่ายอดที่ประเมินไว้ที่ 500 ล้านบาทหรือไม่ แต่ก็ว่า งานนี้จะช่วยเปิดประสบการณ์การซื้อขายสินค้าออนไลน์แก่ประชาชนทั่วไป

ที่สำคัญยังถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนกลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP ให้มีช่องทางขายสินค้าเพิ่มและช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างการเติบโตและความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจของไทย สอดคล้อ
งกับนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่เน้นให้สร้างไทยเติบโตและเข้มแข็งจากภายในเพื่อนำเชื่อมต่อโลก...นั่นเอง
 
 
 
 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ธ.ค. 2558 เวลา : 12:03:14
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 6:30 pm