ความหวังการเป็นศูนย์กลางทางการบินของไทย กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง หลังสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (EASA) ไม่แบนสายการบินไทย
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังรับทราบผลการพิจารณาของ EASA ว่า ขอบคุณที่สหภาพยุโรป เห็นถึงความพยายามของไทย ตระหนักดีว่าการตัดสินใจของ EASA ในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะให้เพียงแค่ตัดสินใจตามองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO ) และสำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) ย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้โดยง่าย แต่เลือกที่จะตัดสินใจไม่แบนไทย เพราะเห็นถึงความพยายามของไทย โดยเฉพาะในระยะ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ไทยได้นำเสนอแผนแม่บทในการทำงานใหม่ที่ EASA พอใจ และต้องการให้ไทยทำให้ได้จริง เพราะจะเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของการบินพลเรือนไทยให้เทียบระดับสากลได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งการตัดสินใจของสหภาพยุโรป ก็เพื่อต้องการให้กำลังใจ และส่งสัญญาณว่าสิ่งที่กำลังทำมาถูกทางแล้ว และสหภาพยุโรป ในฐานะมิตรของไทย พร้อมจะร่วมมือกับไทยในการแก้ไขจุดบกพร่องใดๆ ที่ยังมีอยู่
โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และรัฐบาลขอยืนยันว่า จะเดินหน้าทำงานต่อไป ร่วมกับพันธมิตรของไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทาง 41 สายการบินด้วย องค์กรใหม่ที่จะเริ่มงานในวันที่ 1 ม.ค. นี้ คือ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะทำหน้าที่กำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของประเทศไทย ต้องมีแต่บุคลากรที่สุจริต มีคุณภาพ และมืออาชีพเท่านั้น โดย นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ จะเป็นคนกำกับดูแลการทำงานของข้าราชการ ทั้ง ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบปพ.) และกระทรวงคมนาคม ให้เป็นไปตามแผนงานที่ไทยนำเสนอแก่ ICAO, EU และ FAA ใหม่ด้วยตัวเอง
โดยกระบวนการคัดเลือกคนเข้าทำงานที่ กพท. จะต้องโปร่งใส ยุติธรรม และได้มาซึ่งคนที่มีคุณภาพ สุจริต และได้มาตรฐานสากล เพื่อให้เป็นองค์กรที่ทำงานอย่างมืออาชีพได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งต้องช่วยกันดูแลไม่ให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของ กพทอ. ได้ในอนาคต
ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ได้รับทราบข่าวดีจาก EU แล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีที่ตัดสินใจโดยพิจารณาจากข้อเท็จจริง และสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ เชื่อว่าจะช่วยเรียกความมั่นใจจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้ และจะเป็นฐานในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้นได้ในปีหน้า ขณะนี้ ไทยกำลังเดินหน้าตรวจสายการบินใหม่ทั้ง 11 สาย และขอขอบคุณผู้ประกอบการทุกรายที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบใหม่โดยเร็ว ขอยืนยันว่า กระบวนการตรวจสอบสายการบินที่กำลังเริ่มขึ้นในครั้งนี้ ไทยจะทำอย่างละเอียดรอบคอบทุกขั้นตอนตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนมั่นใจมากยิ่งขึ้นในมาตรฐานการบินพลเรือนของไทย
ด้าน นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยยังคงให้บริการเส้นทางบินสู่ทวีปยุโรปได้ตามปกติ โดยการบินไทยยังคงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสูง ยึดมาตรฐานการบินของ EASA เป็นแนวทาง
ทั้งนี้ การบินไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในการตรวจสอบการออกใบอนุญาตผู้ดำเนินการเดินอากาศที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งจะให้ความช่วยเหลือสายการบินอื่น ๆ ในการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยอีกด้วย
ข่าวเด่น