ยังคงมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดสำหรับตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างซุปไก่ รังนก และเครื่องดื่มน้ำผลไม้สกัดเข้มข้น เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการ 2 รายใหญ่ในตลาดอย่างแบรนด์และสก๊อต ยังคงเปิดเกลยุทธ์ทางการตลาดแข่งขัน เพื่อชิงยอดขายกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปี เนื่องจากเป็นหน้าขายสินค้า

               

สำหรับกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการทั้ง 2 ค่ายเลือกนำมาใช้ เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ยังคงเป็นในด้านของการนำสินค้ามาจัดเป็นกิ๊ฟเซ็ต หรือกระเช้า เพื่อมอบเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขเฉลิมฉลอง จึงทำให้ยอดขายสินค้าในช่วงเวลานี้เติบโตสูงกว่าปกติ

ในส่วนของ ค่ายสก๊อต ปีนี้ขอเทงบกว่า 30 ล้านบาท ในการจัดแคมเปญ "สก๊อตดีปีใหม่" ด้วยการขนกระเช้าสก๊อตหลากหลายรูปแบบเข้ามาจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกในรูปแบบต่างๆ ทั้งในส่วนของออฟไลน์และออนไลน์  ขณะเดียวกันก็มีการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อสื่อสารการทำตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย

น.ส.วรวิมล กรรมารางกูร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ "สก๊อต" กล่าวว่า  ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคจะมีความตื่นตัวในการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าช่วงปกติ เนื่องจากจะมีการเลือกซื้อสินค้าประเภทของขวัญ เพื่อส่งมอบให้กับคนที่รัก ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้ใช้งบกว่า 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "สก๊อตดีปีใหม่" เป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาด

สำหรับกระเช้าปีใหม่ที่สก๊อตนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ ประกอบไปด้วย กระเช้าสก๊อตรังนกแท้ รอเยล พรีเมี่ยม, กระเช้า สก๊อต ซุปไก่สกัด, กระเช้าสก๊อต เพียวเร่ น้ำผลไม้สกัดเข้มข้นผสมวิตามิน และกระเช้าสก๊อต คอลลาเจน เครื่องดื่มคอลลาเจน พร้อมกันนี้ ยังได้กระตุ้นตลาดด้วยการสร้างการรับรู้ผ่านสื่อหลักต่าง ๆ  เช่น โทรทัศน์, วิทยุ, หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชั่น ณ จุดขาย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อ

หลังจากออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกระเช้าปีใหม่อย่างต่อเนื่อง ค่ายสก๊อต คาดว่าหลังจบแคมเปญสก๊อตปีใหม่ น่าจะมียอดขายเติบโตจากปกติเป็นที่น่าพอใจ และส่งผลให้ภาพรวมยอดขายของบริษัท สก๊อตฯ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 3,700 ล้านบาท

ขณะที่ บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาประกาศแผนเชิงรุก เพื่อชิงยอดขายกระเช้าปีใหม่ ในส่วนของเจ้าตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างบริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ก็ขอออกมาป้องกันส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ด้วยการจัดแคมเปญกระเช้าปีใหม่ “แบรนด์...ให้กันด้วยใจ” เพื่อเรียกยอดขายส่งท้ายปี

นายบุญเลิศ สุขเสรีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มเสริมสุขภาพภายใต้ยี่ห้อแบรนด์ กล่าวว่า แผนการทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท จัดแคมเปญกระเช้าปีใหม่ “แบรนด์...ให้กันด้วยใจ” เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี  ขณะเดียวกันยังถือเป็นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายฉลองครบรอบ 180 ปีของ “แบรนด์”  ด้วยการนำเสนอกระเช้าและกิ๊ฟเซ็ตของผลิตภัณฑ์แบรนด์ให้มีความหลากหลายมากขึ้นจำนวน 20 รูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค  เช่น  กระเช้าซุปไก่สกัด,กระเช้ารังนก,กระเช้าเครื่องดื่มผลไม้สกัด “วีต้า”

พร้อมกันนี้ ในด้านของราคาขายปีนี้ ค่าบแบรนด์ก็ได้เพิ่มความหลากหลายเช่นกัน โดยจะมีราคากิ๊ฟเซ็ตและกระเช้าให้เลือกตั้งแต่ราคา 415 บาท ไปจนถึงกว่า 2,000 บาท  ซึ่งหลังจากจบแคมเปญดังกล่าว คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติไม่ต่ำกว่า 10%  ถือเป็นอัตตราการเติบโตที่สวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงชะลอตัวอยู่ในขณะนี้    

นายบุญเลิศ กล่าวต่อว่า  กระเช้าปีใหม่แบรนด์ ถือว่ามีความแตกต่างจากกระเช้าปีใหม่ทั่วไป เพราะถือเป็นการมอบของขวัญที่แสดงถึงความตั้งใจของผู้ให้ที่แสดงถึงความห่วงใยสุขภาพของผู้รับโดยเฉพาะ โดยในช่วงที่ผ่านมาแคมเปญกระเช้าปีใหม่แบรนด์ที่มียอดขายดีที่สุดมีราคาเฉลี่ยตั้งแต่ 800 บาท ถึงกว่า  1,000 บาท ซึ่งในส่วนของช่องทางจำหน่ายหลัก ยังคงเน้นไปที่ห้างโมเดิร์นเทรด 60% และร้านค้าทั่วไป 40%

ปัจจุบัน ตลาดรวมเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ มีมูลค่าอยู่ที่กว่า 10,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็น ตลาดซุปไก่สกัด คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่กว่า 6,000 ล้านบาท มีแบรนด์เป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ  90% ที่เหลืออีกประมาณ 10% เป็นของสก๊อต และผู้ประกอบการอื่นๆ  ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3,500 ล้านบาท เป็นตลาดรังนก ซึ่งแบรนด์ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 60% ที่เหลือเป็นของสก๊อต  และมูลค่าที่เหลืออีกประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นมูลค่าของตลาดเครื่องดื่มผลไม้สกัด โดยแบรนด์ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ประมาณ 80%  

จากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้มีการคาการณ์ว่า ตลาดเครื่องเสริมสุขภาพในปี 2559 น่าจะยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์แวดล้อมหลายด้าน ยังคงน่าเป็นห่วง ไม่จะเป็นเศรษฐกิจนอกประเทศ เศรษฐกิจในประเทศ ปัญหาภัยพิบัติ รวมทั้งการก่อการร้าย ซึ่งยังคงต้องจับตาอยู่ใกล้ชิด และจากปัจจัยที่น่าเป็นห่วงดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการสินค้าต่างๆ ยังคงต้องออกมาหว่านเม็ดเงิน เพื่อกระตุ้นยอดขายกันต่อไป