กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับพันธมิตรทางด้านวิทยาศาสตร์บนถนนโยธีและถนนพระรามที่ 6 แถลงข่าวการจัดงาน “ถนนสายวิทยาศาสตร์”รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2559 เปิดสถานีกิจกรรมและการทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้เด็กไทยได้เรียนรู้ สัมผัสอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เสริมสร้างประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ พัฒนาความคิด และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง รวม 34 สถานี มากกว่า 100 กิจกรรม ระหว่างวันที่ 7-9 มกราคม 2559 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ

  ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวในงานแถลงข่าวการจัดงานถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ ปี 2559 ว่า หนึ่งในแผนปฏิรูปของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คือการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ (STEM) เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ และเปลี่ยนประเทศไทยไปสู่สังคมฐานนวัตกรรมเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน  ดังนั้น การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนสนใจวิทยาศาสตร์ตั้งแต่วัยเยาว์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานของการคิดอย่างมีเหตุผล สามารถนำไปบูรณาการกับความรู้ด้านอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย การฝึกฝนวิธีการคิดแบบวิทยาศาสตร์จะช่วยให้เด็กและเยาวชนในวันนี้เติบโตไปเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังมีภารกิจในเรื่องการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ในรูปแบบส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนนอกห้องเรียน  รวมทั้งการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ด้วยวิทยาศาสตร์ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ปรับลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็นและบูรณาการบางกิจกรรมที่มีประโยชน์ให้มาอยู่รวมกันเพื่อให้นักเรียนมีเวลามากขึ้นในการที่จะพัฒนาความรู้หรือทักษะอื่นๆ นอกห้องเรียน

“งานถนนสายวิทยาศาสตร์”จึงเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อมุ่งหวังกระตุ้นและจุดประกายให้เยาวชนไทยหันมาสนใจเรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยถือเอาวันเด็กแห่งชาติของทุกปีเป็นวาระสำคัญในการจัดงาน กิจกรรมนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 แล้ว ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทางด้านวิทยาศาสตร์บนถนนโยธีและพระรามที่ 6 ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม  และกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ที่จะช่วยฝึกสมอง ต่อยอดความคิดจินตนาการ และฝึกฝนทักษะผ่านการทดลองจริงในรูปแบบของสถานีแห่งการเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นห้องเรียนเคลื่อนที่ โดยปีนี้มีมากกว่า 100 กิจกรรม ใน 34 สถานี มามอบเป็นของขวัญให้เด็กไทยทุกคน 

  นายสาคร ชนะไพฑูรย์  รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องด้วยในปีนี้ องค์การสหประชาชาติประกาศให้เป็นปีสากลแห่งถั่วเมล็ดแห้ง PULSES  (International Year of Pulses 2016) และนโยบายของรัฐบาลได้ส่งเสริมเรื่องการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ (STEM) ด้วยเหตุนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงได้จัดธีมงานและสถานีทดลองต่างๆ ให้สอดคล้องกับ 2 ประเด็นใหญ่นี้ อาทิ Toy Maker โดย อพวช. เรียนรู้วิทยาศาสตร์ในนิทรรศการของเล่นภูมิปัญญาไทยและของเล่น AEC และเรียนรู้ STEM จากการประดิษฐ์ของเล่นในฐาน  แสงซินโครตรอน แสงจิ๋วทะลวงโลก พบเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ของแสงซินโครตรอนภายใต้รูปแบบงานวัด  play n learn เพลินไปกับ TCELS พบความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและความก้าวหน้าด้านชีววิทยาศาสตร์ผ่านเกมส์แสนสนุก  ท่องโลกดาราศาสตร์ สนุกกับการสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์  การสร้างนาฬิกาแดด และการใช้งานแผนที่ดาว  GISTDA Space Dream พบกิจกรรมการต่อโมเดลกระดาษและเกมปิงปองสะท้านโลก และ สะเต็มศึกษากับคลื่นอัลตร้าโซนิกส์ เรียนรู้สะเต็มศึกษาสำหรับเด็กด้วยความสนุกสนาน กับเครื่องชั่ง วัดระยะและนับจำนวนด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิกส์  สำหรับน้องๆ ที่ชอบการทดลอง พลาดไม่ได้กับการมาร่วมปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ได้ที่ 12 สถานีของสวนสนุก วศ.  ขณะเดียวกัน ยังมีสถานีการทดลอง การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ที่รวมมิตรเรื่องวิทย์ฯ ที่เสริมความรู้พื้นฐานด้านต่างๆ อีกด้วย ได้แก่ สถานีสีเขียว ตอนน้ำมันหอมระเหยไล่ยุง  ตะลุยดินแดนโลกแห่งการวัด  มอก.น่ารู้ ปัญญาเยาว์ และลดเวลาเรียน เป็นต้น

  อพวช. ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักจัดงานในครั้งนี้ ได้เตรียม  Passport เป็นหนังสือเดินทางบนถนนสายวิทยาศาสตร์ ที่ท้าทายความสามารถของน้องๆ ในการเดินทางและเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ ให้ครบทุกสถานี เพื่อรับรางวัลต่างๆ ที่ซุ้มรับรางวัลของ อพวช. ซึ่งจัดเตรียมไว้อย่างมากมาย  พร้อมขอเชิญชวนน้องๆ เยาวชน และโรงเรียนที่สนใจสามารถมาเที่ยวชมงานถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ 2559 ได้ตั้งแต่วันที่ 7 - 9 มกราคม 2559 ซึ่งเปิดให้เที่ยวชมฟรี  โดยสามารถเดินทางได้ทั้งรถโดยสารประจำทาง ตลอดจนรถไฟฟ้าบีทีเอส   ทั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้เตรียมรถตู้ไว้บริการรับ-ส่ง ณ สถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเที่ยวชมงานตลอดการจัดงานอีกด้วย   นอกจากนั้นแล้ว ในวันที่ 9 มกราคม 2559 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ยังร่วมจัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2559  ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยได้จัดโซนลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะมีกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วม เพื่อให้เด็กและเยาวชนนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและการศึกษาอย่างถูกต้องเหมาะสม  

  ดร.พิเชฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนผู้ปกครองพาลูกๆ หลานๆ มาเที่ยวงานที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนไทยได้เปิดโลกทัศน์ มาเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนาน  สัมผัสกับประสบการณ์จริงที่ไม่มีในตำรา พร้อมรับของแจก ของรางวัล และร่วมสนุกกับเกม การละเล่นมากมาย ที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และพันธมิตรร่วมสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมและเครื่องเล่นทางปัญญา มากกว่า 100 กิจกรรม จาก 34 สถานีการทดลอง บนถนนสายวิทยาศาสตร์แห่งนี้  

  สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2577 9999 ต่อ 2109