เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
"ช้อปเพื่อชาติ" ดันยอดค้าปลีกโต 3%


มาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 25-31 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการ
         

 

โดย นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์  ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า มาตรการช้อปเพื่อชาติ ทำให้ยอดค้าปลีกโตขึ้นมา 0.3 %  และน่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยรวมถึง 125,000 ล้านบาทในช่วงเดือนสุดท้ายของปี 2558  รวมทั้งทำให้การจับจ่ายช่วงปีใหม่เพิ่มขึ้น 20%    

โดยหมวดสินค้าขายดี คือ กลุ่มสินค้าคงทน คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า กีฬา อุปกรณ์ก่อสร้าง โต 25 %  สินค้ากึ่งคงทน คือ แฟชั่น เครื่องหนัง เครื่องสำอาง แบรนด์หรู คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการรองลงมา แต่พบว่าเติบโตกว่าหมวดอื่นๆ โดยโต 35% ลูกค้าเพิ่มขึ้น 20%  หมวดสินค้าไม่คงทน อาทิ กลุ่มอาหาร เติบโต 10% ลูกค้าเพิ่ม 12% ได้รับประโยชน์จากมาตรการน้อยที่สุด
        
มาตรการดังกล่าวจึงเป็นมาตรการที่ออกมาได้ถูกที่ ถูกเวลา คือ มุ่งไปที่ผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งยังมีกำลังซื้อแข็งแรง เกิดการหมุนเวียนของรายได้ไปสู่การสร้างงานและลงไปถึงต่างจังหวัด  และยังมุ่งไปที่ผู้อยู่ในระบบภาษี จูงใจให้คนทั่วไปและผู้ประกอบการเห็นประโยชน์ของการเข้าระบบโครงสร้างภาษีนิติบุคคลมากขึ้น รวมทั้งเป็นมาตรการระยะสั้น แต่เป็นช่วงที่คนหาซื้อกระเช้าปีใหม่ ของขวัญ ช่วงพีคของการจับจ่าย พอมีมาตรการกระตุ้นจึงเพิ่มเป็นทวีคูณ
         

 

ด้าน น.ส.วารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวทำให้ยอดลูกค้าที่เข้ามาซื้อของในบิ๊กซีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และยังกระตุ้นยอดขาย ทำให้เพิ่มขึ้น 10-20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยบิ๊กซีได้ออกโปรโมชั่น "ช้อปเพื่อชาติ" ลดราคาสินค้าเป็นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ รวมถึงสินค้าที่นำมาลดราคากว่า 15,000 รายการ
         
ซึ่งบิ๊กซียินดีอย่างมากกับโครงการที่รัฐบาลจัดขึ้นมา เพราะช่วยกระตุ้นยอดขายและช่วยระบายสินค้าในสต๊อกที่มีอยู่ นอกจากนี้ ทางบิ๊กซีอยากให้ปี 2559 มีมาตรการเช่นนี้ออกมาอีก เพราะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนได้ เนื่องจากการลดภาษีครั้งนี้ ทำให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี กำลังซื้อที่มากขึ้น จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ผลิตสินค้าป้อนให้ห่วงโซ่การผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การจ้างงานมากขึ้นตาม เศรษฐกิจมีเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นวงจร ทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในที่สุด

 

ขณะที่ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ประเมินว่า มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายดังกล่าว จะทำให้มีเงินสะพัดในระบบ 1.5 แสนล้านบาท ส่งผลต่อจีดีพีปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 0.1-0.2% แต่รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการลดหย่อนภาษีดังกล่าวประมาณ 4 - 5 พันล้านบาท  ในทางกลับกัน ผลพลอยได้ รัฐบาลก็จะมีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้นิติบุคคลกลับเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง และในที่สุดผลจะตกกับเศรษฐกิจ ที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ 0.1 - 0.2%


LastUpdate 05/01/2559 22:30:18 โดย : Admin
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 9:51 pm