"เอพี" ประเมิน "รถไฟฟ้าสายใหม่" ทำเลทอง เชื่อหลังเปิดเดินรถสายสีม่วง กำลังซื้อเพียบ ราคาทะยานเช่นเดียวกับส่วนต่อขยายอ่อนนุช ที่พุ่งไปที่ตรม.ละ 120,000-130,000 บาท

             

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)? เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2559 ประเมินว่า น่าจะยังมีดีมานด์อยู่ โดยวัดได้จากฟีดแบ็คหลังจากมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เห็นได้จากยอดขาย ยอดโอนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังมีกำลังซื้อเพียงแต่มีใจจะซื้อหรือเปล่า นั่นคือปัญหาที่ภาครัฐต้องช่วยเร่งสร้างความมั่นใจผู้บริโภค (Consumer Confidence) ให้เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีสัญญาณการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีจากปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ คือ ความคืบหน้าเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดการขยายตัวของเมือง (Urbanization) และกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกสู่ทำเลรอบนอกกรุงเทพฯ ล้วนมีส่วนผลักดันให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณดังกล่าวเกิดการขยายตัวตามไปด้วย เช่น การเปิดเดินรถของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเป็นสายใหม่ทั้งเส้นไม่ใช่ส่วนต่อขยาย ซึ่งนั่นหมายความว่า การมาของรถไฟฟ้าสายใหม่นี้ จะสร้างดีมานด์ใหม่ให้เกิดขึ้น เป็นดีมานด์ที่ขยับตัวมาจากสินค้าที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน ซึ่งราคาปรับตัวสูงขึ้นไปมาก

“เราไม่เห็นภาพรถไฟฟ้าที่ยาวขนาดนี้ มีสถานีเยอะขนาดนี้มานานมากแล้ว เห็นแต่ส่วนต่อขยายระยะสั้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคถ้ายังก่อสร้างไม่เสร็จ ก็ไม่กล้าที่จะลงทุน ทำให้ที่ผ่านมาเห็นข่าวสินค้าคงเหลือขายในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ค่อนข้างมาก แต่เชื่อว่าเมื่อเปิดเดินรถกำลังซื้อจะกลับมา เพราะสุดท้ายแล้วผู้บริโภคยังต้องการที่จะอยู่ใกล้กับระบบการคมนาคม และสินค้าที่อยู่ในแนวส่วนต่อขยายหรือสายปัจจุบันราคาปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยนี้เองจะเป็นตัวแปรที่กระตุ้นให้ตลาดคอนโดในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงกลับมาคึกคัก ถ้าเทียบให้เห็นภาพย้อนไปดูส่วนต่อขยายอ่อนนุชตอนที่ยังไม่เสร็จราคาคอนโดอยู่ที่ 70,000 – 80,000 บาทต่อตารางเมตร แต่วันนี้ราคาวิ่งไปที่ 120,000 – 130,000 บาทต่อตารางเมตร เหตุการณ์เดียวกันน่าจะเกิดขึ้นในอนาคตกับคอนโดมิเนียมที่อยู่ในแนวสายสีม่วง”นายอนุพงษ์กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพีฯ กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันซัปพลายใหม่ในตลาดไม่ได้มีมากจนล้น ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมีการบาลานซ์การเปิดตัวสินค้าใหม่ที่สอดรับกับสภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์จะดีจะแย่ ดูแค่ท่อดีมานด์อย่างเดียวไม่มีความหมาย ถ้าท่อซับพลายที่ปล่อยลงตลาดแรงกว่าฝั่งดีมานด์ รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันทางการเงิน ทั้งในส่วน Pre-Finance และ Mortgage  ถือเป็นอีกปัจจัยบวกที่จะส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้เติบโตขึ้น และเป็นฟันเฟืองอีกตัวที่ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ

>