งานมหกรรมมือถือและสมาร์ทโฟนยิ่งใหญ่ครั้งแรกของปี  " Thailand Mobile Expo 2016"  ใกล้เข้ามาแล้ว โดยบริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2559  ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ซึ่งเป็นช่วง “เทศกาลวาเลนไทน์” หรือ “เทศกาลแห่งความรัก” พอดี ผู้ที่อยากเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่หรือกำลังมองหาของขวัญเทคโนโลยีสำหรับมอบแด่คนที่รักไม่ควรพลาด เพื่อเป็นตัวแทนความรักความห่วงใย สามารถมองหาอุปกรณ์เกี่ยวกับการออกกำลังกายได้ภายในงานนี้ เพื่อไม่ให้ตกกระแสการออกกำลังกายและใส่ใจสุขภาพในปัจจุบัน   
 

อุปกรณ์ของคนออกกำลังกายมีหลายอย่างทีเดียว อุปกรณ์เด่น ๆ มีดังนี้

 

1.Garmin Forerunner 235

Garmin Forerunner เป็นตระกูลนาฬิกาสำหรับ “นักวิ่ง” หรือ “ปั่นจักรยาน”  ของบริษัท Garmin  และยังเป็น  GPS Watch ด้วยในตัว มีน้ำหนักเบา ผสมผสานกับเทคโนโลยีตรวจจับข้อมูลการวิ่งที่แม่นยำ ทั้งเรื่องเส้นทาง, ระยะทาง, ความสูงและอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้เก็บสถิติของตนเองเอาไว้พัฒนาการวิ่ง นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจผ่านเซนเซอร์แบบแสงที่ตัวเรือน ไม่ต้องมีสายรัดที่หน้าอกได้อย่างแม่นยำ ใช้ง่ายสะดวกสบาย ราคาประมาณ 12,490 บาท

สำหรับ Garmin เป็นบริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์ระบบนำทางและการสื่อสารที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิต โดยเป็นอุปกรณ์ใช้งานครอบคลุมทั้งในยานยนต์ อากาศยาน ทางทะเล อุปกรณ์ออกกำลังกาย สันทนาการนอกอาคาร และการใช้งานไร้สาย

2.  Garmin vivosmart HR

สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นใหม่จาก Garmin เป็นสายรัดบางเบาสวมใส่สบายได้ทั้งวัน มีหน้าจอเปิดตลอดเวลาเพื่อแสดงสถิติการทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้สวมใส่ โดยสามารถใช้งานเก็บข้อมูลการออกกำลังกายในแต่ละวัน การนับก้าวเดิน การเผาผลาญแคลลอรี่ การนอนหลับ วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ 24 ชั่วโมง และยังใช้เป็นตัวรับข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนมาแสดงผลที่หน้าจอ โดยรองรับการแสดงผลเป็นภาษาไทย สนนราคาประมาณ 5,990 บาท

3.Mio Fuse

เป็นผลงานพัฒนาของบริษัท  Mio Global  ในแวนคูเวอร์ เมืองท่าชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา โดยเป็น Heart Rate Sensor ในรูปแบบของสายรัดข้อมือที่เชื่อมต่อไร้สายกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่าน Bluetooth และ ANT+  และใช้งานคู่กับแอพพลิเคชั่นการออกกำลังกายในสมาร์ทโฟนได้หลากหลาย ทั้ง Endomondo, Strava, Runkeeper ฯลฯ มีแสดงข้อมูลที่ตัวเรือนที่ออกแบบเป็นแบบสปอร์ต

นอกจากนี้ ยังใช้เป็น Activity Tracker ในการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน เพื่อเอามาประเมินผลการออกกำลังกายของผู้ใช้ได้ด้วย กันน้ำลึกได้ถึง 30 เมตร สนนราคาประมาณ  5,000 บาทต้นๆ

4.AfterShokz

เป็นหูฟังหรือบลูทูธที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายที่ปลอดภัย โดยใช้เทคโนโลยีการได้ยินเสียงผ่านกระดูก (BONE CONDUCTION TECHNOLOGY) โดยผู้สวมจะได้ยินเสียงจากการสั่นเบาๆ ผ่านกระดูกแก้มไปยังหูชั้นในรับเสียงที่ชัดเจน ไม่ต้องผ่านแก้วหู ทำให้ฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ได้ชัดเจน โดยที่ยังได้ยินเสียงรอบข้างได้อีกด้วย ซึ่งการใส่หูฟังทั่วไปมักปิดกั้นการได้ยินเสียงจากภายนอก จึงทำให้เกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุได้ขณะที่วิ่งหรือปั่นจักรยานอยู่บนท้องถนน สนนราคาประมาณ 3990  บาท

5.Smart Rope

เป็นที่กระโดดเชือกอัจฉริยะ ออกแบบโดยบริษัท Tangram Factory แห่งเมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยเปลี่ยนการออกกำลังกายของการกระโดดเชือกแบบเดิมๆ ให้ไฮเทคขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนเพื่อบันทึกข้อมูลและทำสถิติ เพราะในส่วนด้ามจับมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวระหว่างกระโดด นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษที่ตัวสายจะมีไฟ LED ที่จะแสดงตัวเลขจำนวนรอบที่ผู้ใช้กระโดด แสดงให้เห็นลอยอยู่ตรงหน้า ราคาประมาณ 2,000 บาท

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุปกรณ์ที่จะมีมาโชว์ในงาน ใครสนใจติดตามไปเลือกช้อปกันได้ เริ่มงานวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 นี้แล้ว
 

ขอบคุณข้อมูลจาก -http://www.thailandmobileexpo.com/