“หัวเว่ย” แบรนด์สินค้าไอทีสัญชาติจีน ที่คนไทยคุ้นเคยกันเพิ่มขึ้นอีกแบรนด์หนึ่งเปิดศึกลุยตลาดนับแต่ต้นปี 2016 ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมรุ่นแรกแห่งปี "Huawei Mate 8" มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพในการทำงานเป็นเลิศ พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ตอบสนองความต้องการเหล่านักธุรกิจมืออาชีพและนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปทั่วโลก
“หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป” 1 ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลักของหัวเว่ย ที่รับผิดชอบในการพัฒนาและดูแลตลาดผลิตภัณฑ์สื่อสารสำหรับผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน อุปกรณ์โมบายบรอดแบนด์ ดีไวซ์ใช้งานในครัวเรือนและบริการคลาวด์ พร้อมศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีมากกว่า 16 แห่งทั่วโลก ทำให้หัวเว่ยสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพที่มีความโดดเด่นและทำให้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยมีขายแพร่หลายอยู่ในมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
จึงไม่น่าแปลกใจที่หัวเว่ยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและครองตำแหน่งแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดย นายโทมัส หลิว ประธานบริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า ในปี 2015 ที่ผ่านมา หัวเว่ยทุบสถิติด้วยมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงถึง 70% มีรายรับถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 108 ล้านเครื่องทั่วโลก กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำอันดับ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก
เปิดศักราชใหม่ 2016 มานี้ หัวเว่ยประเดิมด้วยการเปิดตัว สมาร์ทโฟนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคระดับพรีเมี่ยม อย่าง "Huawei Mate 8" ให้สามารถตอบสนองการทำงานของนักธุรกิจมืออาชีพในปัจจุบันได้อย่างดี นอกเหนือจากดีไซน์หรูหราสวยงาม ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมรุ่นแรกที่เปิดตัวในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
สเปคที่โดดเด่นสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีดังนี้
-จอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1080p 368 ppi ดีไซน์ทันสมัยและพกพาง่าย ตัวเครื่องประกอบด้วยวัสดุกระจกตัดขอบแบบ Diamond Cut 2.5D และอลูมิเนียมเกรดเดียวกับยานอวกาศ
-ทำงานด้วยระบบอินเตอร์เฟซของหัวเว่ยรุ่น EMUI 4.0 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Marshmallow 6.0 ทำให้ผู้ใช้งานทำงานเปลี่ยนไปมาและสัมผัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-ใช้เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือรุ่นใหม่และมีระบบปกป้องข้อมูลสำคัญที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยใช้เซ็นเซอร์รุ่นใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการระบุลักษณะบนพื้นที่สแกนมากกว่าเดิม 10% และสามารถปลดล็อคสำหรับผู้ใช้งานได้เร็วขึ้น 100%
-เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปรุ่น Kirin 950 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลเพื่อเสริมศักยภาพการทำงานของสมาร์ทโฟนได้เร็วที่สุดในโลก โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลให้ทำงานได้เต็ม 100% และหน่วยประมวลผลกราฟฟิกได้ถึง 125% และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากถึง 70% เมื่อเปรียบเทียบกับชิปรุ่น Kirin 925
-แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงความจุ 4,000 มิลลิแอมป์ ทำให้ Huawei Mate 8 สามารถใช้งานได้นานถึง 2 วันเมื่อใช้งานตามปกติ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการชาร์จไฟความเร็วสูง
-ตัวเครื่องมีกลไกจัดการกับความร้อนได้ 6 ระดับ ทำให้สามารถกระจายความร้อนระหว่างการใช้งานได้ดี ซึ่งตรงนี้มีส่วนช่วยประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่ง
-รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในหลายช่องความถี่มากกว่าสมาร์ทโฟนแบบสองซิมรุ่นอื่นๆ ตั้งแต่ 2G 3G และ 4G ใน 217 ประเทศทั่วโลก โดยตั้งค่าผู้ให้บริการเครือข่ายมากถึง 1,334 แบบ จึงเหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกบ่อยไว้ใช้อย่างมาก
-กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิเซล
การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ หัวเว่ยยังได้ดึง "อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม" เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกหัวเว่ยประเทศไทย ในฐานะ “โปรดักท์แอมบาสเดอร์ Huawei Mate 8” โดยจะทำงานร่วมกับ "อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ" เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น
วางขายในไทยแล้วรุ่นเดียวคือ รุ่น Premium Edition แรม 4GB ความจุ 4GB ราคา 23,990 บาท วางขายในไทยเพียง 2 สี คือ สีน้ำตาล Mocha Brown และสีทอง Champagne Gold จากทั้งหมดมี 4 สี รวม สีเงิน (Moonlight Silver)และ สีเทาสเปซเกรย์ (Space Gray)
ใครอยากเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่คุณภาพเยี่ยมไปติดตามรายละเอียดและซื้อหากันได้ในร้านค้าทั่วไป...
ข่าวเด่น