ประกัน
"วิริยะประกันภัย" ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้โต 5% แตะ 3.5 หมื่นล้าน -ปรับแผนเพิ่มสัดส่วน Non Motor จาก 9% เป็น 20%


"วิริยะประกันภัย ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้โต 5% แตะ 3.5 หมื่นล้านบาท เดินหน้า 4 เป้าหมายหลัก เพิ่มสัดส่วนเบี้ยต่ออายุ,พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการลูกค้า,ขยายธุรกิจสู่เออีซี,เพิ่มสัดส่วนเบี้ย Non-Motor เป็น 20% จากเดิมแค่ 9% คาดผลตอบแทนลงทุนปีนี้ทรงตัวจากปี 58 ที่ 4.5%

 

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับตรงเติบโตไม่น้อยกว่า 5% หรือ 3.5 หมื่นล้านบาท โดยมุ่งเน้น 4 เป้าหมาย ได้แก่ 1. เพิ่มสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่ออายุให้อยู่ในอัตรา 80% จากเดิม 75%

2.พัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการและความเสี่ยงของลูกค้า

3.ขยายผลการให้บริการด้านประกันภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับลาวไปแล้ว และในปีนี้มีแผนรุกที่ประเทศเมียนมาร์ 

4.มุ่งเน้นการรับประกันภัย Non-Motor มากขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้จากเบี้ยประกันภัยรับตรงเข้าบริษัทผ่านฐานลูกค้าพันธมิตรกลุ่มคอร์ปอเรทและโบรกเกอร์ที่ดูแลงานลูกค้ารายใหญ่

สำหรับสัดส่วนการรับประกันภัยในปีนี้ จะลดสัดส่วนประกันภัยรถยนต์ มาอยู่ที่ 80% จากเดิม 91% และเพิ่มสัดส่วนประกันภัย Non-Motor  เป็น 20% จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 9% ซึ่งเป็นเป้าหมายในแผน 5 ปี

นายสยมกล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าผลตอบแทนอยู่ที่ 4.5% ซึ่งถือเป็นระดับทรงตัวจากปีก่อน โดยปัจจุบันมีพอร์ตลงทุนอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีนี้มีแผนจะเน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ และตราสารทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี

สำหรับผลประกอบการในปี 2558 มีเบี้ยประกันภัยรับตรงอยู่ที่ 3.24 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 2.81% จากปีก่อนหน้า ที่อยู่ 3.33 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 1.เบี้ยรถยนต์ 2.95 หมื่นล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อนที่อยู่ 3.05 หมื่นล้านบาท โดยเป็นเบี้ยภาคสมัครใจที่ 2.65 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.53% จากปีก่อนที่ 2.75 หมื่นล้านบาท และเบี้ยประกันภัยภาคบังคับ พ.ร.บ. ที่ 3.01 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.87% จากปีก่อนที่ 2.9 พันล้านบาท

2.เบี้ย Non-Motor ที่ 2.29 พันล้านบาท ลดลง 3.06% จากปีก่อนที่ 2.36 พันล้านบาท

3.เบี้ยประกันภัยทางทะเล-ขนส่ง ที่ 276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.93% จากปีก่อนที่ทำได้ 238 ล้านบาท

4. ประกันอัคคีภัย ที่ 262 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.76% จากปีก่อนที่ 251 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิปี 2558 อยู่ที่ 2.44 พันล้านบาท โดยเป็นกำไรจากการรับประกันที่ 700 ล้านบาท และเป็นกำไรจากการลงทุน 1.7 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.06 พันล้านบาท ส่วนอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนของบริษัทฯ อยู่ในระดับ 233.86% เกินมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย.(คปภ.) กำหนดไว้ที่ 150%


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 05 ก.พ. 2559 เวลา : 18:09:48
20-09-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 20, 2024, 4:51 am