ก้าวสู่ความสำเร็จการเป็นโกลบอลแบรนด์เป็นที่เรียบร้อย สำหรับผลิตภํณฑ์ในเครือ "เทพผดุงพรมพร้าว จำกัด" เพราะตลอดระยะเวลา 40 ปี ที่ผ่านมา ได้รับการการันตีจากหลายสถาบันสำหรับการเป็นผู้เชี่ยวชาญและรู้จริงในเรื่องมะพร้าว ด้วยยอดขายอันดับหนึ่งทั่วโลก และเป็นผู้ผลิตเครื่องปรุงรสอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ มาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ ชาวเกาะ ,แม่พลอย หรือยอดดอย ซึ่งแต่ละแบรนด์ต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสินค้าแต่ละแบรนด์จะมีจุดเด่นโดยเฉพาะของตัวเอง

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นดังกล่าว ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่การันตีความสำเร็จในทั่วโลก เนื่องจากปัจจุบัน บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว มีการส่งสินค้าเขาไปทำตลาดในต่างประเทศมากถึง 36  ประเทศทั่วโลก และเพื่อตอกย้ำความสำเร็จของการการเป็นโกลบอลแบรนด์ระดับโลก ล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญากับ“สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล” ส่งน้ำมะพร้าวชาวเกาะ เข้าไปทำตลาดตลาดในประเทศอังกฤษ เพื่อขยายฐานลูกค้ารักสุขภาพและนักกีฬา หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วกับการนำสินค้ากะทิชาวเกาะ และกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องแกงภายใต้แบรนด์แม่พลอย เข้าไปทำตลาด

               

นายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด กล่าวว่า แผนการก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ระดับโลกปีนี้บริษัทพิจารณาเห็นศักยภาพของแบรนด์ชาวเกาะที่โดดเด่นในตลาดโลก ว่าพร้อมแล้วที่จะทำตลาดสู่ผู้บริโภคที่รักการดูแลสุขภาพรวมถึงเหล่านักกีฬา จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ “สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล” ส่งน้ำมะพร้าวชาวเกาะเข้าทำตลาด ซึ่งได้มีการเซ็นสัญญากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยมีผู้ใหญ่จากทางสโมสรและแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างนายร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ นักเตะระดับตำนานร่วมเป็นสักขีพยาน เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะได้เห็นผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว เพื่อสุขภาพเป็นผู้สนับสนุนสโมสรฟุตบอลระดับโลก

น.ส.นันทินี เทพผดุงพร ผู้จัดการฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้เข้าเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรลิเวอร์พูลอย่างเป็นอย่างการ บริษัทจะมีการทำแพ็กเกจพิเศษขึ้นมา เพื่อเอาใจแฟนลิเวอร์พูลและผู้ที่ ชื่นชอบเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว โดยจะได้เห็นนักเตะในดวงใจพร้อมกับลายเซ็นบนบรรจุภัณฑ์ที่จะผลิตทั้งแบบกล่องยูเอชที ขวดเพ็ต และกระป๋อง ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกประมาณต้นไตรมาส 2 ซึ่งยังไม่รวมถึงกิจกรรม มีทแอนด์กรี๊ด และทริปพิเศษแบบเกาะติดขอบสนาม ที่ถือเป็นความพิเศษเพื่อลูกค้าชาวเกาะโดยเฉพาะ

ในด้านของการทำตลาด หลังจากเปิดฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2016/2017 ในเดือน ส.ค.นี้  บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว คาดว่าจะได้นำแบรนด์น้ำมะพร้าวชาวเกาะโฆษณาผ่านตัววิ่งรอบสนาม เพื่อให้ผู้ชมทั่วทั้งสนามและทั่วโลกได้รู้จักแบรนด์น้ำมะพร้าวชาวเกาะ หลังจากนั้นคาดว่าจะได้ลงนามข้อตกลงร่วมกัน เพื่อนำน้ำมะพร้าวชาวเกาะเข้าไปจำหน่ายภายในสนามแอนฟิลด์ ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าได้ดีอีกกลยุทธ์หนึ่ง โดยหลังจากใช้กลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าจะมียอดขายน้ำมะพร้าวชาวเกาะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 100%

ส่วนภาพรวมของแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจทั่วโลกจะยังมีปัญหา และส่งผลกระทบกับรายได้ของบริษัทไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะเข้าไปขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ซึ่งแบรนด์สินค้าที่จะนำเข้าไปทำตลาดยังคงเป็นแบรนด์ชาวเกาะ และแบรนด์แม่พลอยเหมือนกับที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นแบรนด์สินค้าที่ลูกค้าในตลาดต่างประเทศรู้จักเป็นอย่างดี

สำหรับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ทั้งของชาวเกาะ คือ กะทิ น้ำมะพร้าว และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% และแม่พลอย ได้แก่ พริกแกงและน้ำจิ้มไก่ กลับมาทำตลาดในประเทศอย่างเต็มที่ โดยจะไปพร้อมกิจกรรมโรดโชว์และโปรโมชั่นดีๆ ฉลองครบรอบ 40 ปี เพื่อคืนกำไรตอบแทนผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยกรอบการดำเนินงานทางการตลาดนั้น บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จะเดินหน้าด้วย 2 เป้าหมายหลัก คือ การก้าวเข้าสู่ความเป็นแบรนด์ระดับโลก (Global Brand) และการเป็น Content Provider ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์มะพร้าวแปรรูปและเครื่องปรุงรสอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ โดยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งแก่เกษตรกรผู้ผลิตมะพร้าว จะเป็นไปในรูปแบบความรู้ คำแนะนำด้านการเพาะพันธุ์มะพร้าว เพื่อให้ได้ผลิตผลที่ดีได้คุณภาพมารองรับการผลิต

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะให้ข้อมูลในรูปแบบความรู้และเทคนิคการทำอาหาร บทความที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ผ่านการผลิตรายการโทรทัศน์แนะนำการปรุงอาหารและเมนูต่าง ๆ หรือบทความสุขภาพ รวมถึงผลงานวิจัยทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มะพร้าว  ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะเน้นใช้กับการทำตลาดในประเทศ ส่วนต่างประเทศจะให้ข้อมูลเทรนด์ความนิยมในภูมิภาคต่างๆ และเทรนด์อาหารโลก ที่ปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพด้วยอาหารที่มีคุณประโยชน์

ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะเดินสายเข้าร่วมเทรดแฟร์ด้านอาหารทั้งระดับโลกและในระดับภูมิภาคมากมายตลอดทั้งปี โดยมีงานใหญ่ FOODEX 2016 ณ ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. และ SIAL 2016 ณ ประเทศฝรั่งเศสในเดือนก.ย. รวมถึงมหกรรมอาหารใหญ่ของประเทศ อย่าง THAIFEX เป็นไฮไลท์ของปีนี้ในเดือนพ.ค.ที่จะมีการพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้เทรนด์อาหารกับคู่ค้าก็เพื่อสร้างและรักษาความสัมพันธ์ อันดีกับคู่ค้าในทุกประเทศที่ให้ความไว้วางใจ ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยแผนงานที่กลั่นกรองจากประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญอย่างสูงที่สะสมมายาวนานจนตกผลึกเป็นเทพผดุงพรมะพร้าวในวันนี้ ที่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นที่เชื่อมั่นสำหรับคู่ค้า และครองใจผู้บริโภคทุกครัวเรือนทั่วโลก

ด้าน นายเอกศักดิ์ เทพผดุงพร ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายตลาดในประเทศ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทจะหันมาทำตลาดในประเทศอย่างเต็มที่ เน้นทำตลาดที่แบรนด์ชาวเกาะ และแม่พลอยเป็นหลัก ซึ่งสำหรับชาวเกาะนั้น นอกจากกะทิชาวเกาะที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว บริษัทจะดันน้ำมะพร้าว และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% เป็นตัวชูโรง ซึ่งตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนทำอาหารและรักสุขภาพ เพราะทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ ได้มีการทำวิจัยและได้รับการยอมรับไปทั่วโลกว่าอุดมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริงเหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ส่วนแบรนด์แม่พลอย ปีนี้มีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ด้วยผลิตภัณฑ์พริกแกงและน้ำจิ้มไก่ ในฐานะเครื่องปรุงพริกแกงและน้ำจิ้มที่ได้รสชาติอร่อยตำรับไทย คุณภาพการผลิตได้มาตรฐาน รวมทั้งยังได้รับตราอาหารฮาลาลที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคชาวมุสลิม บ่งบอกถึงความจริงใจและ ใส่ใจผู้บริโภคทุกกลุ่ม

ส่วนแนวทางการทำตลาด นอกจากจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดทั้ง Offline และทาง Online เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ๆ แล้ว จะมุ่งสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการดำเนินงานในแบบเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว ที่ทำมาตั้งแต่ยุคผู้บริหารรุ่นแรก ซึ่งแผนการตลาดดังกล่าวปีนี้บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว ได้เตรียมงบไว้ประมาณ 100-200 ล้านบาท เพื่อผลักดันให้สิ้นปี 2559 มีรายได้เติบโตที่ 10% จากปี 2558 ที่มีรายได้อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโตในอัตราทรงตัวจากปี 2557 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศชะลอตัว