หลังจากก่อนหน้างนี้ออกมาประกาศจะเปิด "อิเกีย" ในประเทศไทยประมาณ 3 - 4 สาขาเป็นอย่างต่ำ ล่าสุด บริษัท อิคาโน่ จำกัด ผู้ถือกรรมสิทธิ์และดำเนินกิจการสโตร์อิเกียในประเทสสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ก็ออกมาย้ำจุดยืนว่าจะขยายร้านอิเกียให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3-4 สาขา ตามแผนการดำเนินงานเดิมที่เคยประกาศไว้ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เห็นได้จากการดำเนินธุรกิจในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ อิเกีย เข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยจะมีปัจจัยลบในด้านของภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่ อิเกีย เปิดให้บริการเป็นปีแรก แต่ อิเกีย ก็สามารถผ่านวิกฤติดังกล่าวมาได้
นอกจากประสบกับปัญหาในด้านของภัยธรรมชาติแล้ว อิเกียยังประสบปัญหาในด้านของความวุ่นวายทางการเมือง แต่เนื่องจากสถานที่ตั้งของอิเกีย สาขาแรกตั้งอยู่ในย่านบางนา ซึ่งห่างไกลจากจุดที่มีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับกลุ่มเป้าหมายหลักของอิเกีย เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ อีกทั้งสินค้าที่นำมาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือของแต่งบ้านที่มีให้เลือกสรรมาอย่างดี และมีรูปแบบหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม ประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า อีกทั้งยังราคาย่อมเยา จึงทำให้อิเกียมียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ประมาณ 3% ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีเป้าหมายว่าจะขยายธุรกิจในไทยให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3-4 สาขา แต่บริษัท อิคาโน่ ก็ขอให้ความสำคัญกับสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ บางนา เป็นอันดับแรก เนื่องจากสาขาดังกล่าวยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก เพราะปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวและใกล้เคียงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ประชากรในย่านดังกล่าวมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ช่วงระหว่างที่ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในสาขาบางนา บริษัท อิคาโน่ก็มีแผนที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการในสาขาที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในย่านบางใหญ่ควบคู่กันไป ภายใต้งบลงทุนที่ประมาณ 6,200 ล้านบาท
นายเซบาสเตียน ฮิลวิง ผู้อำนวยการฝ่ายขยายธุรกิจ บริษัท อิคาโน่ จำกัด ผู้ถือกรรมสิทธิ์และดำเนินกิจการสโตร์อิเกียในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย กล่าวว่า บริษัทกำลังจะสร้างสโตร์อิเกียที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าได้สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกที่บางใหญ่ ด้วยการออกแบบอาคารให้มีความพิเศษและมีหลายชั้นมากกว่าสาขาบางนา โดยโชว์รูมและมาร์เก็ตฮอลล์จะอยู่ในอาคารส่วนขยาย 2 ชั้น ซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ส่วนคลังสินค้าบริการตนเองหรือเซลฟ์เสิร์ฟนั้นจะให้บริการอยู่บริเวณชั้น G
จากแนวทางธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ผังสโตร์อิเกียบางใหญ่จะมีความแตกต่างไปจากสโตร์อื่นๆ โดยสิ้นเชิง เนื่องจาก อิเกีย บางใหญ่ จะเป็นสโตร์แห่งแรกที่ลูกค้าสามารถเดินเข้าออกและชำระเงินได้ทุกชั้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งถือว่าต่างไปจากสาขาบางนาที่จะมีจุดชำระเงินเพียงจุดเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความสะดวกในการช้อปปิ้งและความประทับใจ
สำหรับพื้นที่ของอิเกียบางใหญ่นั้น จะมีพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 50,278 ตารางเมตร แบ่งเป็นที่ดินที่ซื้อจากเจ้าของที่ดินรายใหญ่ในย่านบางใหญ่ประมาณ 36,000 ตารางเมตร และที่ดินที่ซื้อต่อจากบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น อีกประมาณ 14,300 ตารางเมตร. เพื่อทำเป็นทางเชื่อมระหว่างอิเกียกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ซึ่งจากจำนวนที่ดินในการก่อสร้างที่มีเป็นจำนวนมาก ทำให้อิเกียบางใหญ่มีพื้นที่จอดรถทั้งหมด 1,900 คัน
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดแสดงเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง อิเกีย คาเฟ่ 2 แห่ง แห่งแรกอยู่บนชั้นลอยเหนือโชว์รูม และแห่งที่ 2 จะอยู่บนชั้น G ซึ่งนอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องของสินค้าและบริการแล้ว บริษัท อิคาโน่ ยังให้ความสำคัญกับการก่อสร้างอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของด้านในอาคารและการดำเนินงานภายในสโตร์ จะมีการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์หลายร้อยแผงบนหลังคา และใช้หลอดไฟ LED ติดตั้งทั่วทั้งสโตร์ รวมถึงลักษณะทางโครงสร้างอื่นๆ ที่จะทำให้สโตร์อิเกียแห่งนี้ได้รับการรับรองขั้นสูงสุดจาก LEED มาตรฐานอาคารเขียว ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินสิ่งก่อสร้างด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม
ด้าน นายไมค์ คิง ผู้อำนวยการธุรกิจค้าปลีกของอิเกีย บริษัท อิคาโน่ จำกัด กล่าวว่า อิเกีย บางใหญ่ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการ อิเกีย บางใหญ่ ในปลายปี 2560 บริษัทมั่นใจว่าสาขานี้จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1.6 ล้านคนต่อปี ทั้งในส่วนของกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในย่านบางใหญ่และบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากปัจจุบันย่านบางใหญ่มีกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจำนวนดังกล่าวถือเป็นจุดเร่มต้นที่ดี และใกล้เคียงกับสาขาบางนาที่เปิดให้บริการในช่วงแรก
สำหรับภาพรวมของอิเกีย บางนา ในช่วงปีที่ผ่านมา ยังคงมีลูกค้าเข้ามาบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตลอดปีจะมีปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจมาฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ อิเกีย บางนา ก็สามารถมียอดขายเติบโตได้ถึง 3% และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวเป็นลูกค้าสมาชิกประมาณ 4.5 แสนคน
นายไมค์ กล่าวว่า แม้ตลาดเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในไทยจะมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่บริษัทเชื่อว่าไม่มีที่ใดเหมาะแก่การใช้เวลาด้วยกันทั้งครอบครัวได้เหมือนที่อิเกีย เนื่องจากลูกค้าที่มาจะได้รับทั้งแรงบันดาลใจจากโชว์รูม และสามารถเลือกจับจ่ายสินค้ากว่า 9,500 รายการ ที่ทั้งดีไซน์สวยงามตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมให้ซื้อกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน เพราะขนส่งสะดวกด้วยกล่องบรรจุแบบแบน
นอกจากจะให้ความสำคัญกับสโตร์ อิเกีย บางใหญ่แล้ว สำหรับการขยายธุรกิจ อิเกีย ในประเทศไทย บริษัท อิคาโน่ ยังมีแนวคิดที่จะให้ความสำคัญกับศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย พิก-อัพ พอยต์ ด้วยการขยายสาขาเพิ่มเติม หลังจากช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้มีการทดลองเปิดให้บริการไปแล้ว 1 สาขาที่ จ.ภูเก็ต ได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ แต่ก่อนที่จะมีการเปิดสาขาใหม่ บริษัท อิคาโน่ ขอทดลองที่สาขาภูเก็ต ไปอีกระยะหนึ่งก่อน
ทั้งนี้ การเปิดสโตร์ อิเกีย บางใหญ่ ในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนขยายธุรกิจของบริษัท อิคาโน่ ที่จะขยายสโตร์อิเกีย ให้ครบ 12 สาขาใน 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ภายใน 7 ปีนับจากนี้ โดยเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่ผ่านมา บริษัท อิคาโน่ ได้เปิดสโตร์แห่งที่ 2 ในกัวลาลัมเปอร์ และเปิดศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้า จ. ภูเก็ต ส่วนสาขาต่อไปจะเป็นการลงทุนที่ประเทศไหนนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมของตลาดในแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ดี นอกจากจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจสโตร์อิเกียแล้ว บริษัท อิคาโน่ ยังมีแนวคิดที่จะนำโมเดลธุรกิจจากบริษัทแม่เข้ามาเปิดให้บริการในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ โครงการมิกซ์ยูส ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อสร้างเขตธุรกิจแบบครบวงจร
เหตุผลที่ทำให้บริษัท อิคาโน่ มีแผนที่จะนำโมเดล ธุรกิจอื่นๆ เข้ามาเปิดให้บริการในภูมิภาคอาเซียนนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการมีทีมงานที่หลากหลายชาติ ทำให้เกิดการวางแผนโครงการต่างๆ ไว้มากมาย เพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างทวีคูณในอนาคตอันใกล้ ซึ่งปัจจุบันบริษัท อิคาโน่ จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของอิคาโน่กรุ๊ป และเป็นผู้รับสิทธิ์ประกอบธุรกิจสโตร์อิเกียเพียงรายเดียวในโลก ที่อยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัวคัมปราด ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้ก่อตั้งอิเกีย
ล่าสุด บริษัท อิคาโน่ ได้เริ่มนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในยุโรปเข้ามาเปิดให้บริการในภูมิภาคอาเซียนบ้างแล้ว โดยเริ่มที่ประเทศมาเลเซียเป็นที่แรก ภายใต้ชื่อ "มายทาวน์" โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2559 นี้ ส่วนโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสมีความเป็นไปได้ที่จะนำมาเปิดให้บริการในประเทศไทย และมาเลเซีย เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศเป็นประเทศที่มีศักยภาพ
จากการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในประเทศไทยนับวันจะมีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งกลยุทธ์หลักๆ ที่นำมาแข่งขันกันในด้านของตลาดระดับกลางและล่าง ยังคงเน้นไปในเรื่องของราคา ส่วนตลาดระดับบนจะเน้นการแข่งขันในด้านของฟังก์ชั่นการใช้งาน ความสวยงาม ซึ่งจากแนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในประเทศไทยยังสามารถเติบโตต่อไปได้อีกมาก
ข่าวเด่น