พฤกษา เรียลเอสเตท ปรับทัพ ตั้งพฤกษาโฮลดิ้ง เปิดช่องทำธุรกิจใหม่ เผยศึกษาหลายธุรกิจ หวังกระจายความเสี่ยง ยันรายได้แตะแสนล้าน ใน 5 ปี ตามเป้าหมาย
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างกิจการใหม่ ด้วยการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ชื่อบริษัท พฤกษาโฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 10,000 ล้านบาท แล้วจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จากนั้นจะเพิกถอนหลักทรัพย์ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตทฯ ออกจากตลท. ด้วยการแลกหุ้นในสัดส่วน 1:1 ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับผลกระทบใด
ขณะที่บริษัทก็เพิ่มความหลากหลายในการทำธุรกิจ นอกจากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยง คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจใหม่ได้ในปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ถึง 100,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือในปี 2563 ขณะเดียวกัน ตั้งเป้าหมายรายได้จากธุรกิจใหม่ปีละ 5,000-15,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป
“เราศึกษาธุรกิจใหม่นี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา เพื่อต้องการบรรลุเป้าหมายรายได้แสนล้านบาท ซึ่งก็ปรึกษากับที่ปรึกษามาอย่างต่อเนื่อว แต่ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา มีกลุ่มทุนที่เข้ามาใหม่ เช่น เบียร์สิงห์ ที่เข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำให้เราต้องปรับตัว แม้ว่าจะเป็นแชมป์อสังหาริมทรัพย์ในกทม.และปริมณฑลก็ตาม แต่มองว่าขณะนี้ธุรกิจคอนโดมิเนียม ก็มีส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงอย่างเห็นได้ชัด หรือลดลง 5% โดยขณะนี้กำลังศึกษาหลายธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบริการ ทั้งโรงพยาบาล สวนสนุก โรงงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ซึ่งจะมีความชัดเจนปีหน้า โดยเริ่มจากการลงทุนในประเทศก่อน คาดว่าจะใช้งบประมาณธุรกิจใหม่ 1,500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีเงินสดในมือ 9,000 ล้านบาทพร้อมทั้งเปิดโอกาสที่จะหาพันธมิตรร่วมทุน หากเป็นธุรกิจที่ไม่ชำนาญ แต่ทั้งนี้ คงจะไม่ลงทุนธุรกิจพลังงาน”
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า บริษัทจะจดทะเบียน พฤกษา โฮลดิ้งช่วงเดือนพฤษจิกายน 2559 หลังเสนอซื้อขายหลักทรัพย์แล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปชื่อย่อในการเข้าจดทะเบียน โดยจะนำเสนอขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อปรับโครงสร้างกิจการวันที่ 28 เมษายน นี้ คาดว่า ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาฯ ลดเหลือ 80% ธุรกิจอื่น ๆ 20% ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นธุรกิจหลัก
“ขณะนี้มีงานในมือรอโอน 25,900 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ 52,000 ล้านบาท ยอดขาย 51,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 60-60 โครงการ รวมมูลค่า 55,000-60,000 ล้านบาท เน้นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ เป็นหลัก มีโครงการระหว่างขาย 173 โครงการ รวมมูลค่า 81,000 ล้านบาท และเตรียมงบซื้อที่ดินไว้ 14,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะมีมูลค่า 383,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่โตได้ถึง 20% จากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ ของภาครัฐ”
นายเลอศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทประสบความสำเร็จมาจากการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง Pruksa Precast และ Pruksa REM มาใช้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยรวมถึงมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงคุณภาพทุกกระบวนการก่อสร้าง รวมถึงวัสดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ จึงส่งผลให้รอบธุรกิจโดยเฉพาะโครงการจัดสรรแนวราบ(ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว) ของบริษัทสั้นลง จากระยะเวลาจองถึงโอน (Business Cycle Time) ลดลงเหลือเพียง 79 วัน จากปี 2557 ที่ใช้ระยะเวลา 87 วัน ทำให้เกิดการหมุนเวียนของทรัพย์สินที่รวดเร็ว และทำให้มีรายได้ และกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้สิทธิ์ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง เหลือเพียง 0.01% โดยจะสิ้นสุดในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่ต้องกาให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ดีมีคุณภาพและในราคาที่เหมาะสม บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “โอกาสทองของคนรักบ้าน Pruksa Best Buy Moment 2016” ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 28 เมษายน 2559 โดยจะมีการมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าได้รับโชค 3 ชั้น เมื่อเลือกซื้อบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ หรือคอนโดมิเนียม พร้อมอยู่ของพฤกษาใน 157 โครงการ สำหรับโชค 3 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 รับสิทธิพิเศษทันทีที่แต่ละโครงการมอบให้ ชั้นที่ 2 รับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีกสูงสุดถึง 2% และชั้นที่ 3 รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่ เป็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ และทองคำ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ข่าวเด่น