นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับแจ้งจาก คุณรชฏ พนมวรรณเวช ว่า มีผู้นำภาพตนเองไปเผยแพร่ให้ได้รับความเสื่อมเสีย โดยใช้ภาพโลโก้และชื่อหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น
จึงได้มอบให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงสาธารณสุข ทำการตรวจสอบ พบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวใช้ชื่อเว็บไซต์(URL) คล้ายกับชื่อเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข และเว็บไซต์ดังกล่าวฝากไว้กับผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (INTERNET SERVER ) รายหนึ่งในประเทศไทย จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรีไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทำหนังสือถึงผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตรายดังกล่าว ให้ตรวจสอบและระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ นั้น
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าว มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยมาตรา 14 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)” และตามมาตรา 16 ระบุว่า
“ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
โดยความผิดที่เกิดขึ้นนั้น จะดำเนินการทั้งผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน หากพบการกระทำดังกล่าว ขอให้แจ้งความดำเนินคดีทันที และที่สำคัญควร “เช็คก่อนแชร์” หากเป็นข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับบุคคลอื่น ก็ไม่ควรเผยแพร่ต่อ เพราะจะถือว่ามีความผิดและต้องได้รับโทษเช่นเดียวกัน
ข่าวเด่น