เรียกน้ำย่อยก่อนงานมหกรรมโฆษณาแอดเฟสครั้งที่ 19 หรือ แอดเฟส 2016 เปิดตัวด้วยกิจกรรมเสวนาภายใต้หัวข้อ “How can we manage our intelligence creatively?” หรือ “ข้อมูลท่วมหัว จะเอาตัวรอดได้อย่างไร” ที่มุ่งเน้นให้นักการตลาดและนักโฆษณาในยุคที่มีข้อมูลมากมายมหาศาลรู้จักจัดการกับข้อมูลเหล่านั้นอย่างสร้างสรรค์และชาญฉลาด โดยได้ครีเอทีฟและกูรูการตลาดชื่อดัง 3 คนมาร่วมพูดคุย
นายสหรัฐ สวัสดิ์อธิคมกรรมการผู้จัดการ ครีเอทีฟ และพาร์ทเนอร์CJ WORXกล่าวว่า ในอดีตตัวแปรมีน้อย สื่อหลักเองก็มีน้อย แต่ต่างจากปัจจุบันสื่อมีเยอะมาก และผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สื่อไปเป็นออนไลน์ ปัจจุบันผู้ชมสามารถชมภาพยนต์โฆษณาได้ยาวตั้งแต่ 3นาทีถึง20นาที เพราะฉะนั้นหนังโฆษณาจะไม่จำกัดอยู่แค่15วินาทีหรือ30วินาทีอีกต่อไป ประกอบกับสื่อออนไลน์เองยังไม่มีหน่วยงานควบคุม คนทำงานจึงสามารถใส่ไอเดียได้เต็มที่
เมื่อมีข้อมูลอยู่มหาศาลให้ผู้บริโภคเสาะหาข้อมูล ดังนั้นแบรนด์ที่จะอยู่ได้ต้องมีความจริงใจ ตรงไปตรงมาและทำในสิ่งที่สัญญากับลูกค้าได้ เพราะลูกค้าสามารถหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า อีกทั้งการหาข้อมูลของลูกค้านั้น มีเลเยอร์ในการสื่อสารมากขึ้น แต่ก่อนแบรนด์สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง แต่ตอนนี้นอกจากตัวแบรนด์เอง ลูกค้ามีการหาข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ว่าจะจากกูรูผู้เชี่ยวชาญ เน็ตไอดอล หรือจากคำบอกเล่าของผู้บริโภคท่านอื่นอีกด้วย
ส่วน นายเมธี จารุมณีโรจน์ประธานกรรมการบริหารขายและการตลาด บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ในฐานะคนทำสินค้า เมื่อก่อนจะมี มีเดียแพลน ชัดเจน สามารถคาดเดาผลของการทำโฆษณาได้ ปัจจุบันทำได้อยากขึ้น เพราะผู้บริโภครับสื่อทุกนาที ปีที่แล้วคนในวงการพูดกันถึงเรื่อง Content is King ตอนนี้เราต้องใช้สื่อที่เข้าถึงตัวผู้บริโภคด้วยContent ต้อง Connect กับผู้บริโภค เราต้องเข้าไปอยู่ในวิถีชีวิตของเขา ต้องเข้าใจ path to purchase ของกลุ่มเป้าหมาย เราต้องสร้างสื่อและหาช่องทางที่จะเข้าถึงตัวผู้บริโภค การเข้าถึงที่ relevant นั้น คือการที่แบรนด์สามารถสร้าง micro moment โดยตรงกับผู้บริโภค ในระหว่างที่แบรนด์ต้องมีแผนที่ชัดเจน ก็ต้องเตรียมการเผื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันไว้ด้วย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนั้นรวดเร็วมาก
ในโลกออนไลน์ข้อมูลที่มากมายมีทั้งข้อมูลด้านบวกและด้านลบ เราต้องเลือกใช้ข้อมูล แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้คำนึงถึงคือถ้าผู้บริโภคคอมเม้นท์เชิงเชิงลบ อย่าลบคอมเม้นท์ทิ้งเด็ดขาด เพราะจะยิ่งไปสร้างกระแสลบเพิ่ม แต่ให้ไปสร้างกระแสบวกแทนในส่วนของการเก็บข้อมูลนั้นไม่แตกต่างกัน คนทำแบรนด์ต้องเข้าใจว่าแบรนด์ของเรา Stand For อะไร Brand Equity ของแบรนด์คืออะไร จุดยืนของแบรนด์ต้องชัดเจนเสมอ เพื่อจะกำหนดรูปแบบการสื่อสารต่อไปยิ่งในปัจจุบันเราไม่ได้มีแค่ Target Consumer เท่านั้น แต่เรามี Shopper ด้วย คนซื้ออาจไม่ได้ใช้ คนใช้อาจไม่ได้ซื้อ เพราะฉะนั้นข้อมูลที่จะใช้สื่อสารก็จะต่างกันอีก
ทางด้านนางสาวโศรดา ศรประสิทธิ์กรรมการผู้จัดการ Brilliant & Million Co., Ltd.กล่าวว่า สถานการณ์ของโลกของการสื่อสารแบบ Multi-platform ความท้าทายของนักการตลาดในปัจจุบัน ที่ต้องเข้าใจการสื่อสารแต่ละขั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนจะไปเที่ยว เขาอาจก็จะเสิร์ชข้อมูล เมื่อไปถึงเขาจะชอบเช็คอิน ชอบโพสต์ เราคนทำแบรนด์ก็ต้องรู้แล้วว่าจะสื่อสารแบรนด์อย่างไร ช่องทางไหน เพื่อให้ลูกค้าหาเราเจอ ท่ามกลางข้อมูลมหาศาลทำให้เรารู้พฤติกรรมผู้บริโภค เราไม่เพียงต้องรู้และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค แต่เราต้องพยายามเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสื่อสารนั้น ครีเอทีฟสามารถต่อยอดได้หลากหลายมากกว่าเมื่อก่อน โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์
สำหรับ งานมหกรรมโฆษณาแอดเฟสครั้งที่ 19 หรือ แอดเฟส 2016 มีธีมงานว่า “Creative Intelligence” ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจว่าประเด็นสำคัญ อยู่ที่ความสามารถในการเข้าใจข้อมูลและสื่อสารข้อมูลนั้นกับผู้บริโภคอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังต้องสามารถกลั่นกรองแยกแยะนำเอาข้อมูลที่ดีมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับแบรนด์ และคงกลิ่นอายความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
โดยในปีนี้ยอดส่งผลงานเข้าประกวดรวมทั้งสิ้น 3,000 กว่าชิ้นงาน ใน 18 ประเภท และคาดว่าจะมีคนในวงการโฆษณาจากภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค และตะวันออกกลาง เข้าร่วมงานกว่า 1,200 คน ซึ่งในปีนี้แอดเฟสจะมีความพิเศษกว่าทุกปีทีผ่านมา เพราะจะจัดงานเป็นเวลา 4 วันจากเดิม 3 วัน โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 มีนาคม 2559 ณ โรงแรมรอยัล คลิฟ โฮเท็ล กรุ๊ป เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
ข่าวเด่น