ประกัน
เทเวศประกันภัยตั้งเป้าเบี้ยรับปีนี้5พันล้านบาท


 


นายชาติชาย ชินเวชกิจวาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2558 มีเบี้ยรับประกันภัยรวมทั้งสิ้น 4,893 ล้านบาท เติบโต 17% จากปี 2557 สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยที่เติบโตเพียง 1.86%

 
 
เบี้ยรับประกันภัย 4,893 ล้านบาทที่ทำได้เมื่อปีก่อน แบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 3,600 ล้านบาท , เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุ 520 ล้านบาท, เบี้ยประกันภัยมารีน 100 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเบี้ยประกันภัยอื่นๆ

บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้สุทธิ จำนวน 2,727.7 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 20% เมื่อหักค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานแล้ว บริษัทฯมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2558 เท่ากับ 319.6 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 23% คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 6.39 บาท

ส่วนผลการดำเนินงานด้านการลงทุนสำหรับปี 2558 บริษัทมีรายได้จากการลงทุน 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% สินทรัพย์รวมทั้งสิ้น ( 31 ธ.ค.2558 )16,403 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 13,772 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้รวม 2,631 ล้านบาท โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.60 บาท

นายชาติชายกล่าวต่อไปว่า สำหรับแผนธุรกิจในปี 2559 บริษัทฯตั้งเป้าเติบโต 6.5% เบี้ยรับรวมที่ 5,200 ล้าบาท แบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 2,900 - 3,000 ล้านบาท,เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุ(พีเอ) 500 ล้านบาท,เบี้ยประกันภัยมารีน 100 ล้านบาท,เบ็ดเตล็ด 1,700 ล้านบาท

เป้าหมายปีนี้ที่ 5,200 ล้านบาท จะขายผ่านช่องทางไดเร็ก 1,700 ล้านบาท ขายผ่านนายหน้า1,500ล้านบาท ขายผ่านสาขาต่างจังหวัด 1,100 ล้านบาท ขายผ่านแบงก์แอสชัวรันส์ 900 ล้านบาท ซึ่งช่องทางขายผ่านนายหน้าและสาขาต่างจังหวัดถือว่าเป็นช่องทางที่เติบโตสุด

โดยมีสัดส่วนในการทำตลาดของลูกค้ารายใหญ่ 30% และลูกค้ารายย่อย 70% ซึ่งบริษัทฯมีแผนรุกตลาดรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านสาขา ผ่านตัวแทน ผ่านนายหน้า และผ่านการขายตรงของบริษัทฯ แต่เบี้ยไม่มากประมาณ 200 กว่าล้านบาท และการขายผ่านธนาคารพาณิชย์(แบงก์แอสชัวรันส์) ทั้งไทยพาณิชย์,แลนด์แอนด์เฮาส์,ทิสโก้,เกียรตินาคิน,ซีไอเอ็มบี

นอกจากนี้ ปี 2559 มีแผนปรับปรุงระบบ Call Center และระบบ IT Infrastructure นอกจากนี้ยังได้ขยายช่องทางการจำหน่ายเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการขยายงานด้าน Modern Trade เช่น การขายผ่านเว็บไซต์ต่างๆ และการขยายตัวแทน นายหน้าที่มีคุณภาพ รวมทั้งการขยายเข้าสู่กลุ่มสถาบันการเงินให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับโปรดักส์ใหม่ในปีนี้ ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์และประกันพีเอพ่วงสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าจะนิยมทำประกันประเภทพลัสมากขึ้น จากที่เคยทำประกันชั้น 1ในปีแรก พอปีถัดไปก็จะทำประกันชั้น 2 ชั้น 3 หรือ พลัส ทำให้สัดส่วนประกันชั้น 2 และ 3 เพิ่มขึ้นเป็น 40-50% และชั้น 1 อยู่ที่ 50-60%

ในปัจจุบันบริษัทฯได้นำเสนอบริการไปสู่ลูกค้ารายย่อยผ่านช่องทางตัวแทนนายหน้าสาขาของบริษัทฯที่มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 23 สาขาทั้งประเทศ โดยมีแผนเพิ่มสาขาให้ครบ 30 สาขาภายในปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้ยังมีสาขาย่อยอีก 11 แห่งกระจายตามศูนย์การค้า

"สำหรับการขยายธุรกิจไป AEC เรายังไม่ออกไปแน่ตอนนี้ ไม่เปิดสาขาในกลุ่มประเทศ CLMV แน่ เพราะอยากทำธุรกิจในไทยให้ปึ้กก่อน และเบี้ยประกันใน CLMV ก็น้อย ไม่คุ้มที่จะไป ที่ต้องไปแบกรับภาระต้นทุน ส่วนที่เขาจะมาทำธุรกิจในไทยมั้ย ผมมองว่าเขาก็ยังไม่มาหรอก ส่วนสิงคโปร์และมาเลเซีย เข้ามาไทยนานแล้วในส่วนรับประกันภัยต่อ ส่วนจะเข้ามาทำธุรกิจประกันโดยตรงหรือไม่ผมคาดเขาน่าจะเข้ามาแบบร่วมทุนมากกว่า"นายชาติชายกล่าว

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 มี.ค. 2559 เวลา : 17:07:15
20-09-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 20, 2024, 4:40 am