“แลมป์ตั้น กรุ๊ป” สยายปีกธุรกิจจากผู้นำนวัตกรรมด้านหลอดไฟของเมืองไทยสู่ค้าปลีกเต็มรูปแบบ เปิดตัว “เดอะ ไบรท์” ซิตี้ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกบนถนนพระราม 2 อัดโปรโมชั่นกระตุ้นแรงซื้อตลอดปี มั่นใจลูกค้าระดับพรีเมียมหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 10,000 คนต่อวัน ยอดซื้อเฉลี่ยเกือบ 2,000 ต่อครั้งต่อคน
นางสาวอวัศยา ไชยสงวนมิตต์ ประธานบริษัท แลมป์ตั้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ “แลมป์ตั้น กรุ๊ป” ได้ประกาศจัดตั้งบริษัทแลมป์ตั้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด อย่างเป็นทางการ โดยประเดิมโครงการแรก คือ “เดอะไบรท์” ซึ่งขณะนี้โครงการดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และมีร้านค้าผู้สนใจจองพื้นที่เกือบครบ 100% แล้ว จึงจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มีนาคมนี้ ภายใต้แนวคิด “Brighten up Your Life” เพื่อสร้างชีวิตสุดไบรท์ให้แก่ผู้คนในย่านพระราม 2
“ความพิเศษของเดอะไบรท์ คือ เราคัดสรรร้านค้าชั้นนำมากมายมาไว้ที่นี่ เพราะเราทำธุรกิจบนถนนสายนี้มากว่า 30 ปี ทำให้พบว่าคนย่านนี้ยังขาดสถานที่พบปะแฮงค์เอ้าท์ ที่ไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่แตกต่างจากในเมือง เต็มไปด้วยความทันสมัย จึงเป็นที่มาทำให้เราตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจนี้ ประกอบกับเพื่อรองรับโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมีเนี่ยมที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วย” นางสาวอวัศยา กล่าว
เดอะไบรท์ เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 10 ไร่ บริเวณถนนพระราม 2 ขาออก มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 17,000 ตารางเมตร จะเป็น อาคารช้อปปิ้งมอลล์สูง 4 ชั้น สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แบ่งสัดส่วนไว้ชัดเจน ได้แก่ ร้านอาหาร 50% ซึ่งได้รับความร่วมมือจากฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านเบอร์เกอร์คิงที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงร้านอาหารเกรดพรีเมี่ยมที่รังสรรค์สุดยอดเมนูคุณภาพและบรรยากาศดีๆ ไว้บริการลูกค้าอีกมากมาย ตามด้วยส่วนการเงินการธนาคารและการบริการ 20% ร้านที่เกี่ยวกับความงาม เช่นสปา ร้านเสริมความงาม ร้านขายสินค้าเพื่อความงามต่างๆ 10% และส่วนอื่นๆ เช่น สถาบันสอนพัฒนาการเด็ก ร้านอุปกรณ์กีฬา ร้านขายยา ร้านไอที ร้านหนังสือ ร้านขายซีดีเพลงและภาพยนตร์อีก 20%
ยิ่งกว่านั้น เรายังจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ไว้ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น อาคารจอดรถ 7 ชั้น ที่รองรับจำนวนรถได้กว่า 500 คัน เชื่อมต่อกับตัวมอลล์ทุกชั้นให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ห้องประชุมขนาดใหญ่จุคนได้ถึง 300 คน เหมาะเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ และสัมมนาต่างๆ ตลอดจนมีโซนพื้นที่กีฬาทั้งสนามฟุตบอล และบาสเกตบอล ที่มีมาตรฐานเปิดให้บริการอย่างครบครัน
นางสาว อวัศยา กล่าวต่อว่า เดอะไบรท์ ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เรามองว่าใช้ระยะเลาประมาณ 7-8 ปีน่าจะคืนทุน และอีกประมาณ 3 ปี สัดส่วนรายได้ของแลมป์ตั้น กรุ๊ป น่าจะมาจากเดอะไบรท์ราว 30% โดยหลังจากเราเริ่มเปิดให้บริการ (Soft Launch) เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา พบว่ากระแสตอบรับน่าพอใจมาก เรามีการเก็บรวมรวมสถิติการเข้าใช้บริการ พบว่า มียอดคนหมุนเวียนถึง 10,000 – 12,000 คนต่อวันในช่วงวันธรรมดา และจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 15,000-20,000 คนในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์
“เดอะไบรท์” เราวางตำแหน่งทางธุรกิจ (Position) ของตนเองไว้ชัดเจนว่า เราเป็นซิตี้ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกบนถนนพระราม 2 ที่เจาะลูกค้าระดับพรีเมี่ยม เพราะจากสถิติวิจัยทางการตลาดและรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นหลังเปิดให้บริการช่วง 3 เดือนแรก (ธันวาคม 2558 – กุมภาพันธ์ 2559) ระบุชัดว่า ผู้คนในย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในวัยทำงานและครอบครัวมีกำลังซื้อสูง โดยในเขตทั้ง 4 คือ เขตบางขุนเทียน เขตจอมทอง เขตบางแค และเขตภาษีเจริญ มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 500,000 คนนั้น มียอดซื้อเฉลี่ยอยู่ที่เกือบ 2,000 บาทต่อครั้งต่อคน จึงมั่นใจว่าหลังเปิดตัวโครงการแล้วจะสามารถสร้างรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่มูลค่าประมาณ 80 ล้านบาทในปี 2559” นางสาวอวัศยา กล่าว
“จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีคอมมูนิตี้มอลล์เกิดใหม่ขึ้นมากมาย แต่สิ่งที่มองว่าเราเป็นจุดแข็ง นอกเหนือจากการสำรวจมาแล้วว่าด้วยขนาดพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ บนทำเลทองที่ใกล้กรุงเทพฯ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วบนถนนพระราม 2 นั่นคือ เราลงทุนกับการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราทำโครงการแรกออกมาดีที่สุด ลูกค้าไว้วางใจและเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของเรา โครงการอื่นๆ ก็จะตามมา ยกตัวอย่างเช่น เราใช้ต้นแบบระบบระบายอากาศชั้นนำจากสิงคโปร์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยตามทางเดินของอาคารจะมีการติดตั้งหัวฉีด Jet Nozzle เพื่อปรับอุณหภูมิลงให้อากาศเย็นสบาย
และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ เดอะ ไบรท์ เป็นซิตี้ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรกที่ใช้หลอดไฟแอลอีดีทั้งหมดในบริเวณพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางซึ่งจะทำให้มอลล์แห่งนี้ประหยัดพลังงานได้มากกว่าที่อื่นถึง 70% รวมถึงการลงทุนถึง 30 ล้านบาทกับการทำระบบจัดแสดงแสงสีภาพเคลื่อนไหวแบบสามมิติ (3D Projection Mapping) ลงบนอาคารสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจและสวยงาม” นางสาวอวัศยา กล่าว
นับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของคอมมูนิตี้มอลล์ (Community Mall) ที่จะมีการทำซีอาร์เอ็ม(CRM program) กับกลุ่มลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้ชื่อ “The Bright Club” เพื่อมอบสิทธิพิเศษและบริการที่ออกแบบมาเพื่อผูกใจและดูแลลูกค้าขาประจำที่พักอาศัยในย่านพระราม 2 ไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหาร ร้านเสริมความงาม หรือที่จอดรถพิเศษ และเวิร์คช้อปกับกูรูด้านไลฟ์สไตล์ชื่อดังมากมาย นอกจากนี้ “เดอะ ไบรท์” ยังเป็นจุดนัดพบของกลุ่มคอมมูนิตี้ต่างๆ ที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน อาทิ กลุ่มคนรักการปั่นจักรยาน สามารถปั่นจักรยานท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิต ผู้คนและป่าชายเลนบนเส้นทางจักรยานบางขุนเทียน-ชายทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในย่านนี้ เป็นต้น
นางสาว อวัศยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เราวางกลยุทธ์ที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดล่วงหน้าถึง 2 ปี โดยด้วยกิจกรรมดินแดนแห่งความสุข 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน ฤดูหนาว และฤดูร้อน เรียกได้ว่าผู้คนที่มาเยือนที่นี่จะเต็มอิ่มและจุใจกับความพิเศษที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปีจาก Signature Event ที่เราสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงตามเทศกาลสำคัญๆ ต่างๆ ก็จะมีการจัดงานโดยดึงจุดแข็งธุรกิจในเครือแลมป์ตั้นมาประดับประดาตกแต่งไฟสวยงามเพื่อเป็นจุดที่ผู้คนจะมาเยือนเพื่อถ่ายรูปและเก็บภาพประทับใจต่างในทุกๆเทศกาลด้วย
ขณะเดียวกัน ยังเน้นกิจกรรมการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งล่าสุดตอนนี้ มียอดผู้ติดตามแล้วกว่า 15,000 คน โดยจะมีการเล่นเกมและแจกรางวัลแก่ผู้โชคดีเป็นประจำพร้อมกับจัดทีมเจ้าหน้าที่คอยตอบทุกคำถามที่ลูกค้าสอบถามและข้อร้องเรียนต่างๆมาเพื่อใช้ปรับปรุงการบริการ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วในบางครั้งจะเข้าไปตอบบางข้อซักถามด้วยตนเองด้วย เพราะเรามองว่าการสร้างความประทับใจแก่ลูกค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของธุรกิจประเภทนี้ เพราะนั่นจะทำให้เขากลับมาใช้บริการเราอีก การที่เราลงไปรับทราบถึงปัญหาและเรียนรู้การแก้ไขปัญหาต่างๆ มากขึ้นเท่าใด ธุรกิจของเราก็จะยิ่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น
ข่าวเด่น