หลังจากก้าวเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บรรดาสินค้าที่มีหน้าขายอยู่ในช่วงหน้าร้อนก็ต่างออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก และหนึ่งในกลุ่มสินค้าดังกล่าวที่ทยอยออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย คือ เครื่องปรับอากาศ
อย่างไรก็ดี แม้ว่าหน้าร้อนจะเป็นหน้าขายสินค้าของกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ แต่จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ส่งผลประเทศไทยต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ว ซึ่งจากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวเหมือนเป็นสิ่งซ้ำเติมให้กับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวอยู่แล้วให้ชะลอตัวมากขึ้นไปอีก
จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาคาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศของไทยในปี 2559 นี้น่าจะมีอัตราการเติบโตชะลอตัวจากปี 2558 เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แม้ว่าภาครัฐจะมีการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในส่วนการลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการซื้อที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ ความกังวลต่อแนวโน้มรายได้ และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงก็เป็นปัจจัยกดดันที่ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อยลง ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงออกมาคาดว่าปี 2559 ยอดขายเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยจะมีประมาณ 1.81-1.83 ล้านเครื่อง หรือมีการขยายตัวจากปี 2558 ประมาณ 4.7-6.1% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 26,064 –26,395 ล้านบาท เติบโตในกรอบร้อยละ 3.6-5% จากปี 2558 ที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 25,150 ล้านบาท '
สำหรับตลาดที่มีการแข่งขันสูงในปี 2559 นี้ คือ กลุ่มตลาดที่ผู้บริโภคมีรายได้ระดับปานกลางถึงระดับบน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ยังคงมีกำลังซื้อ ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศต้องออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์เข้ามาทำตลาด ขณะเดียวกันก็ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายควบคู่กันไป เพราะกระตุ้นความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย '''
นายวุฒิไกร เอื้อชูยศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์สตาร์แอร์ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจเครื่องปรับอากาศในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะจัดแคมเปญโปรโมชั่นรับฤดูร้อน ด้วยการชวนคนไทยเปลี่ยนแอร์กับสตาร์แอร์ในแคมเปญ “เปลี่ยนแอร์รับหน้าร้อนกับสตาร์แอร์ 30 วัน 30 เครื่อง” ผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ แคมเปญ “เปลี่ยนแอร์รับหน้าร้อนกับสตาร์แอร์ 30 วัน 30 เครื่อง” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ บริษัท สตาร์(ประเทศไทย)ได้คัดเลือกเครื่องปรับอากาศรุ่นแฟลกชิปของสตาร์แอร์ “AE095A/RE095A แบบติดผนัง (Wall Type) ขนาด 9000 บีทียู (BTU)” มูลค่า 14,000 บาทรวมค่าติดตั้งเข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้ เพื่อให้การทำกิจกรรมการตลาดมีความคึกคัก
นายวุฒิไกร กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทค่อนมีความข้างแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งการเลือกใช้สื่อออนไลน์ เพื่อจัดแคมเปญดังกล่าวเปญในครั้งนี้ เพราะต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เนื่องจากปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสดังกล่าว ซึ่งหลังจากจัดแคมเปญดังกล่าวบริษัทมั่นใจว่า
ด้านซัมซุง ก็มีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในปีนี้ เพิ่มขึ้น 7 รุ่น แบ่งเป็นเครื่องปรับอากาศในบ้าน 3 รุ่นและระบบปรับอากาศในอาคาร 4 รุ่น พร้อมชูจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ และนวัตกรรม โดยในส่วนเครื่องปรับอากาศในบ้าน ชูจุด เด่นเรื่องเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพที่ตรวจจับอนุภาคฝุ่นและเชื้อโรคที่มีขนาดเล็ก ขณะที่ตลาดเครื่องปรับอากาศในอาคารปีนี้ เน้น 1.ประหยัดพลังงาน 2.สะดวกในการติดตั้ง 3.ใช้ พื้นที่น้อยกว่า น้ำหนักน้อยกว่า และ 4.ระบบควบคุมส่วนกลาง ที่ล้ำสมัย โดยในปีนี้ซัมซุงภูมิใจนำเสนอเครื่องปรับอากาศรุ่น '360 Cassette' เครื่องปรับอากาศดีไซน์วงกลมรุ่นแรกของโลกเข้าทำตลาด
นายฉัตรชัย สันตติอนันต์ รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศของเมืองไทยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวม 25,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 70% และระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ 30% ซึ่งในส่วนของปีนี้คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศจะเติบโตได้ที่ประมาณ 10% ส่วนภาพรวมยอดขายเครื่องปรับอากาศของซัมซุงคาดว่าจะเติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดที่ประมาณ 15% ซึ่งถือว่าสูงกว่าปี 2558 ที่มียอดขายเติบโต 12%
อีกหนึ่งแบรนด์ที่ออกมาเปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่เข้าทำตลาด เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดในหน้าร้อนนี้ คือ แอลจี โดลล่าสุดได้ออกมาเปิดตัวเครื่องปรับอากาศกลุ่ม “ดูโอ คูล” โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยภายใต้คอนเซ็ปท์ สลิม ดีไซน์ ( Slim Design) ที่สามารถเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศธรรมดาเป็นเครื่องประดับชิ้นเอกภายในบ้านได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ แอลจี ยังชูจุดเด่นในด้านของงานออกแบบให้สามารถติดตั้งง่ายภายใต้คอนเซ็ปท์ Quick & Easy Installation เพื่อความสะดวกของลูกค้า โดยใช้ช่างเพียงคนเดียวก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานเครื่องปรับอากาศในกลุ่ม แอลจี ดูโอ คูล ได้
นายสินเมธ อิ่มเอม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องปรับอากาศในกลุ่ม “ดูโอ คูล” จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น Deluxe Dual Inverter และ รุ่น Econo Dual Inverter ทั้งสองรุ่นมีขนาดตั้งแต่ 18,000 ถึง 24,000 บีทียู ราคาเริ่มต้นที่ 35,500-48,900 บาท เข้ามาทำตลาดในปีนี้ ถือเป็นการตอกย้ำฐานะผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกของแอลจี และเป็นการนำเสนออีกขั้นของของนวัตกรรมเครื่องปรับอากาศแอลจีที่แสดงให้เห็นถึงความความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ ที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานเครื่องปรับอากาศให้แก่ชาวไทย ผ่านฟีเจอร์ด้านการประหยัดพลังงานและการมอบความเย็นที่เร็วขึ้น ดีไซน์ล้ำสมัย รวมทั้งความสะดวกสบายในการติดตั้ง
สำหรับแผนการทำตลาดในช่วงหน้าร้อนนี้ แอลจี ได้มีการเตรียมงบการตลาดรวม 300 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย โฆษณาประชาสัมพันธ์ จัดหน้าร้าน อบรมพนักงานให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องสินค้าอย่างแท้จริง และการขยายตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
หลังจากเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง แอลจี คาดว่าสิ้นปี 2559 จะมียอดขายรวมประมาณ 300,000 เครื่อง คิดเป็นมูลค่า 4,300 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 30% แบ่งเป็นสัดส่วนเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ 35% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีสัดส่วน 30%
การออกมาเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่และทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องในปีนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะเติบโตมากกว่าเท่าไหร่นั้นคงต้องรอลุ้นว่า ผู้บริโภคในกลุ่มระดับกลางถึงบน ซึ่งถือเป็นกลุ่มความหวังของตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้จะยอมออกมาควักเงินซื้อเครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้นหรือเปล่า
ข่าวเด่น