กรุงเทพประกันภัย ตั้งเป้าปี 59 เติบโตร้อยละ 13 เน้นการพัฒนากรมธรรม์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ
นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยไทยในปี 2559 ว่า จากการคาดการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และสมาคมประกันวินาศภัยไทยถึงแนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อน ร้อยละ 4.1 และ 3.5 ตามลำดับ หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงประมาณ 2.17 แสนล้านบาท
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการลงทุนภาครัฐในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีโครงการก่อสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่สามารถประกวดราคาได้แล้วเสร็จ 10 โครงการ คิดเป็นมูลค่า การลงทุน 3.08 แสนล้านบาท เทียบกับปี 2558 ที่มีการประมูลแล้วเสร็จเพียง 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเพียง 2.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งธุรกิจประกันวินาศภัยยังได้ประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ และการค้าชายแดน โดยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) แต่อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประกันวินาศภัยก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังนี้
• อัตราเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินที่ยังคงมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ตามอัตราเบี้ยประกันภัยต่อที่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะการแข่งขันในตลาดประกันภัยต่อ และการที่ไม่มีมหันตภัยขนาดใหญ่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
• กำลังซื้อของเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนภาวะภัยแล้งที่คาดว่าจะส่งผลต่อพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้างและรุนแรง
• ยอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2559 คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ -10 (บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย) และเป็นการเติบโตติดลบเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
• ภาวะหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าในปี 2559 จะอยู่ในระดับร้อยละ 84
ของ GDP เทียบกับปี 2558 และ 2557 ที่อยู่ในระดับร้อยละ 82 และร้อยละ 79.8 ตามลำดับ(ศูนย์วิจัยกสิกรไทย) ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และทำให้ยังคงมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน
สำหรับแนวโน้มการแข่งขันของบริษัทประกันวินาศภัยต่างๆ ในปี 2559 นั้น การแข่งขันด้านราคาน่าจะยังรุนแรงอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากเบี้ยประกันภัยจากโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของภาครัฐ อาจจะกระจุกตัวอยู่กับบริษัทประกันภัยที่มีขีดความสามารถในการรับประกันภัยทรัพย์สินมูลค่าสูงๆ เพียงไม่กี่ราย ขณะที่ยอดขายรถยนต์ใหม่มีแนวโน้มเติบโตติดลบ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงแต่บริษัทประกันภัยต่างมุ่งโฟกัสที่ Segment ที่สามารถทำกำไรได้ มากกว่าจะลดราคาแข่งขันแบบเหมารวม เช่น การออก Package เบี้ยประกันภัยแบบ Single Rate ในรุ่นรถและอายุรถที่ยังมีกำไร หรือการทำ Segmentation กลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมและสภาวะความเสี่ยงภัย เช่น พื้นที่ พฤติกรรม และระยะเวลาการขับขี่ เพื่อให้สามารถลดเบี้ยประกันภัยในการแข่งขันได้สำหรับกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ
นอกจากนี้ บริษัทประกันภัยต่างๆ ยังมีแนวโน้มพัฒนาช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ ทั้งที่เป็นรูปแบบ Website และ Application ผ่าน Smartphone ตลอดจนการร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทโบรกเกอร์ที่จำหน่ายประกันภัยทางออนไลน์โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามความนิยมในการซื้อสินค้าออนไลน์ของกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่
ด้าน ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้อำนวยการใหญ่ เผยถึงทิศทางการดำเนินงานของกรุงเทพประกันภัยในปี 2559 ว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยที่ประมาณร้อยละ 13 คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 18,000 ล้านบาท เทียบกับปี 2558 ที่เติบโต 0.6% โดยคาดว่าจะได้รับผลบวกจากการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม สำหรับลูกค้ารายย่อยนั้น สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงทำให้การแข่งขันด้านราคาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพที่จะทำกำไรได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทฯ โดยแนวทางการดำเนินงานบริษัทฯ ในปีนี้ ได้แก่
• การประชาสัมพันธ์ประกันภัยรถยนต์โครงการ BKI Telematics อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมาย โดย Telematics จะช่วยให้ลูกค้าได้รับทราบถึงพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และลูกค้าที่มีพฤติกรรมการขับขี่ดีจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัย
• ออกกรมธรรม์รถยนต์เบี้ยประกันภัย Single Rate ในราคาที่แข่งขันกับตลาดได้ สำหรับรถยนต์บางรุ่นที่ยังมีอัตราความเสียหายต่ำ เช่น รถ SUV
• การปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ 2+ ให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนทุนประกันภัยได้ตามความต้องการ ซึ่งหากเลือกทุนประกันภัยน้อยลง ก็จะส่งผลให้เบี้ยประกันภัยลดลง
• กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ของประเทศ เนื่องจากมีพฤติกรรมความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุที่แตกต่างกัน รวมทั้งอัตราค่าแรงและค่าซ่อมยังแตกต่างกันด้วย
• บริษัทฯ ยังคงมุ่งการขยายตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่อรองรับปริมาณการค้าและธุรกิจที่ขยายตัวจากการเปิด AEC โดยในปีนี้ได้เปิดสาขาเพิ่มไปแล้วที่จังหวัดจันทบุรี สุรินทร์ และจะเปิดสาขาชุมพรเพิ่มอีก 1 แห่งประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดทำโครงการ e-Policy ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยการส่งมอบกรมธรรม์ให้แก่ลูกค้าในรูปแบบซอฟต์ไฟล์ เป็นกรมธรรม์ประกันภัยอิเล็กทรอนิกส์ส่งผ่านทางอีเมลแทนการจัดส่งชุดเอกสารตามปกติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองที่อุ่นใจได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น หมดกังวลเรื่องระยะเวลาการรอคอยและลดความเสี่ยงเรื่องเอกสารสูญหาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม
โดยในระยะแรกนี้เริ่มจัดทำ e-Policy สำหรับการประกันอัคคีภัยและประกันภัยรถยนต์ทุกประเภททั้ง พ.ร.บ. และภาคสมัครใจก่อน เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้แก่ลูกค้าที่ต้องการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยหรือทำประกันภัยใหม่ ซึ่งลูกค้าสามารถจัดเก็บ e-Policy ไว้เป็นหลักฐานอ้างอิงเพื่อใช้ในการแจ้งเคลมสินไหมทดแทนได้ทันที โดยสามารถเลือกที่จะรับกรมธรรม์ประกันภัยอิเล็กทรอนิกส์ทางอีเมล หรือเป็นชุดเอกสารตามปกติก็ได้
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้า 1,500 ท่านแรกที่ประสงค์เลือกรับกรมธรรม์ประกันภัยในรูปแบบของ e-Policy บริษัทฯ จะมอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ทุนประกันภัย 100,000 บาท สำหรับเจ้าของกรมธรรม์หรือมอบเป็นของขวัญให้แก่คนพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์การเป็น Lifestyle Insurance ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าในทุกย่างก้าวตลอดไป
ด้านนายชัยโสภณพนิชประธานกรรมการเปิดเผยว่าปัจจุบันพอร์ตการลงทุนของบริษัทอยู่ที่49,639ล้านบาทแบ่งเป็นสัดสส่วนลงทุนหุ้น75%และอีก24%เป็นเงินฝากโดยปี2558ผลตอบแทนจากการลงทุนอยู่ที่2.6%ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่5%ปีนี้บริษัทฯจึงตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนที่ระดับ4%โดยมองว่าโครงการต่างๆของภาครัฐจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนดียิ่งขึ้น
ข่าวเด่น