นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก ตาก โดยเป็นข้อมูลของโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย
เริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ระหว่างการขาย 159 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 17,300 หน่วย เหลือขายประมาณ 7,050 หน่วย (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 145 โครงการ หน่วยในผัง 14,900 หน่วย เหลือขายประมาณ 6,200 หน่วย) หากแบ่งตามพื้นที่ พบว่าโครงการบ้านจัดสรรกระจายอยู่ใน 4 อำเภอหลัก คือ อำเภอสันกำแพง 34 โครงการ มีหน่วยในผัง 4,260 หน่วย (เหลือขาย 2,130 หน่วย) อำเภอเมืองเชียงใหม่ 33 โครงการ 2,930 หน่วย (เหลือขาย 1,220 หน่วย) อำเภอสันทราย 31 โครงการ 2,860 หน่วย (เหลือขาย 890 หน่วย) และอำเภอหางดง 30 โครงการ 3,750 หน่วย (เหลือขาย 1,530 หน่วย)
นอกจากนี้ยังมีอยู่ในอำเภอสารภี 14 โครงการ 1,780 หน่วย (เหลือขาย 710 หน่วย) อำเภอดอยสะเก็ด 11 โครงการ 1,030 หน่วย (เหลือขาย 310 หน่วย) และอำเภอแม่ริม 6 โครงการ 660 หน่วย (เหลือขาย 260 หน่วย)
หากแบ่งตามประเภท พบว่าเป็นประเภทบ้านเดี่ยวมากที่สุดมีร้อยละ 70 ของหน่วยบ้านจัดสรรทั้งหมด ทาวน์เฮาส์มีร้อยละ 9 อาคารพาณิชย์มีร้อยละ 7 บ้านแฝดมีร้อยละ 5 ที่เหลือเป็นที่ดินเปล่าจัดสรร โดยสัดส่วนบ้านเดี่ยวลดลงจากร้อยละ 77 ในปีก่อนหน้า
บ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์พักอาศัยส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท บ้านแฝดและทาวน์เฮาส์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท
ภาพรวมมีบ้านเดี่ยวเหลือขายประมาณ 4,630 หน่วยจากหน่วยในผัง 12,090 หน่วย ทาวน์เฮาส์เหลือขายประมาณ 580 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,590 หน่วย อาคารพาณิชย์พักอาศัยเหลือขายประมาณ 590 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,240 หน่วย และบ้านแฝดเหลือขายประมาณ 520 หน่วยจากหน่วยในผัง 830 หน่วย
สำหรับสถานะของการก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าร้อยละ 58 เป็นหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จ ร้อยละ 15 เป็นหน่วย อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ส่วนอีกร้อยละ 27 เป็นหน่วยที่ยังไม่เริ่มสร้าง ทั้งนี้ มีบ้านจัดสรรสร้างเสร็จเหลือขายรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 1,460 หน่วย
ผู้ประกอบการซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 12 ของจำนวนโครงการ และร้อยละ 13 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยผู้ประกอบการรายใหญ่(รวมบริษัทในเครือ) จากส่วนกลางได้แก่ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ศุภาลัย ควอลิตี้เฮ้าส์ พฤกษาเรียลเอสเตท แสนสิริ มีโครงการอาคารชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 53 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 7,660 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 23,580 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 3,280 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 10,340 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 59 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 8,400 หน่วย เหลือขายประมาณ 3,100 หน่วย)
หากแบ่งตามพื้นที่ พบว่าจากหน่วยในผังโครงการอาคารชุดทั้งหมด อยู่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่มากถึง 46 โครงการ มีหน่วยในผัง 6,790 หน่วย เหลือขาย 2,840 หน่วย อยู่ในอำเภอสันทราย 3 โครงการ 550 หน่วย เหลือขาย 270 หน่วย อยู่ในอำเภอหางดง 2 โครงการ 180 หน่วยเหลือขาย 110 หน่วย ที่เหลือกระจายอยู่ในอำเภอ แม่ริม (1 โครงการ) และสารภี (1 โครงการ)
จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด เป็นห้องชุดแบบหนึ่งห้องนอนมากถึงร้อยละ 67 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท เป็นแบบสองห้องนอนร้อยละ 16 เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 15 ที่เหลือเป็นแบบสามห้องนอนขึ้นไป
ในภาพรวม มีห้องแบบสตูดิโอเหลือขายประมาณ 570 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,150 หน่วย แบบหนึ่งห้องนอนเหลือขายประมาณ 2,110 หน่วยจากหน่วยในผัง 5,140 หน่วย แบบสองห้องนอนเหลือขายประมาณ 520 หน่วยจากหน่วยในผัง 1,260 หน่วย และแบบสามห้องนอนขึ้นไปเหลือขายประมาณ 80 หน่วยจากหน่วยในผัง 110 หน่วย
สำหรับสถานะของการก่อสร้างหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่าเป็นหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จร้อยละ 44 เป็นหน่วยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างร้อยละ 51 และเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างร้อยละ 5 โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขายประมาณ 1,000 หน่วย (โดยพบว่าหน่วยก่อสร้างแล้วเสร็จมีเพิ่มมากกว่าปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 36 หน่วยอยู่ในระหว่างก่อสร้างลดลงจากปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 58 และหน่วยที่ยังไม่เริ่มสร้างลดลงจากปี
ที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 6 แสดงว่ามีโครงการอาคารชุดที่ลงเสาเข็มก่อสร้างในระหว่างปีมากขึ้นและก่อสร้างเสร็จมากขึ้น)
ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีส่วนแบ่งการตลาดเพียงร้อยละ 11 ของจำนวนโครงการ แต่มีจำนวนหน่วยมากถึงร้อยละ 20 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยผู้ประกอบการรายใหญ่(รวมบริษัทในเครือ) จากส่วนกลางได้แก่ ศุภาลัย แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ควอลิตี้เฮ้าส์ ชาญอิสระ เอ็นซีเฮ้าซิ่ง
ประเภทบ้านพักตากอากาศหรือวิลล่า นับเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบเชิงเขาที่มีราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป และส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ขายให้กับชาวต่างชาติ หรือให้เช่าระยะยาว พบว่ามีโครงการบ้านพักตากอากาศซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 2 โครงการ มีหน่วยในผังรวมประมาณ 65 หน่วย ขายได้แล้วเพียงประมาณ 20 หน่วย
จังหวัดเชียงราย มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ระหว่างการขาย 35 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 3,000 หน่วย มีมูลค่าโครงการการตามหน่วยในผังรวม 9,000 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 1,800 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 5,500 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 37 โครงการ 3,100 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,800 หน่วย)
หากแบ่งตามพื้นที่ พบว่าโครงการบ้านจัดสรรกระจายอยู่ใน 4 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองเชียงราย 29 โครงการ มีหน่วยในผัง 2,600 หน่วย (เหลือขาย 1,600 หน่วย) อำเภอแม่สาย 4 โครงการ 320 หน่วย (เหลือขาย 190 หน่วย) อำเภอเชียงแสน 1 โครงการ 70 หน่วย (เหลือขาย 20 หน่วย) และอำเภอเชียงของ 1 โครงการ 14 หน่วย (เหลือขาย 10 หน่วย)
แบ่งตามประเภท พบว่าเป็นประเภทบ้านเดี่ยวมากที่สุดมีร้อยละ 35 ของหน่วยบ้านจัดสรรทั้งหมด รองลงมาเป็นประเภททาวน์เฮาส์มีร้อยละ 28 อาคารพาณิชย์พักอาศัยมีร้อยละ 23 ที่ดินเปล่ามีร้อยละ 13 อันดับสุดท้ายเป็นประเภทบ้านแฝดมีร้อยละ 1 ตามลำดับ
บ้านเดี่ยวส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์และบ้านแฝดส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท
ผู้ประกอบการที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ทำเพียง 1 โครงการ จำนวน 30 หน่วย และมีผู้ประกอบการรายกลางจากส่วนกลางซึ่งไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน มีโครงการอาคารชุดอยู่ระหว่างการขาย 11 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 2,000 หน่วย มูลค่าโครงการรวม 3,900 ล้านบาท เหลือขายประมาณ 950 หน่วย มูลค่าหน่วยเหลือขายรวมประมาณ 1,800 ล้านบาท (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 11 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมกันประมาณ 1,400 หน่วย เหลือขายประมาณ 800 หน่วย) โดยอยู่ในอำเภอเมืองเชียงรายทั้งสิ้น เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 22 แบบหนึ่งห้องนอนร้อยละ 71 และแบบสองห้องนอนร้อยละ 8 ห้องชุดแบบสตูดิโอส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท แบบหนึ่งห้องนอนส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท และแบบสองห้องนอนส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท
ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 27 ของจำนวนโครงการ และร้อยละ 54 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยผู้ประกอบการรายใหญ่(รวมบริษัทในเครือ) จากส่วนกลางได้แก่ ควอลิตี้เฮ้าส์ ซี.พี.แลนด์ และพิวรรธนา (บริษัทลูกของบริษัทจดทะเบียน)
จังหวัดพิษณุโลก มีโครงการบ้านจัดสรรอยู่ในระหว่างการขาย 35 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 2,200 หน่วย เหลือขายประมาณ 1,070 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอเมือง (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 31 โครงการ 1,900 หน่วย เหลือขายประมาณ 900 หน่วย) เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 60 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 19 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 13 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝดร้อยละ 7 และที่ดินเปล่าจัดสรรร้อยละ 1
ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีเพียงรายเดียว คือแสนสิริ ซึ่งมีเพียง 1 โครงการ จำนวน 180 หน่วย มีโครงการอาคารชุด 5 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 1,120 หน่วย เหลือขายประมาณ 460 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอเมืองทั้งสิ้น (เทียบกับปีก่อนหน้ามี 4 โครงการ 850 หน่วย เหลือขายประมาณ 310 หน่วย) เป็นห้องชุดแบบสตูดิโอร้อยละ 40 แบบหนึ่งห้องนอนร้อยละ 60 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท
ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึงร้อยละ 60 ของจำนวนโครงการ และมีจำนวนหน่วยมากถึงร้อยละ 73 ของจำนวนหน่วยทั้งหมด โดยผู้ประกอบการรายใหญ่(รวมบริษัทในเครือ) จากส่วนกลางได้แก่ ซีพีแลนด์ และ เอพี
จังหวัดตาก มีโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ในระหว่างการขาย 11 โครงการ มีหน่วยในผังประมาณ 230 หน่วย เหลือขายประมาณ 170 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอเมือง 7 โครงการ 130 หน่วย อยู่ในอำเภอแม่สอด 4 โครงการ 100 หน่วย เป็นบ้านเดี่ยวร้อยละ 45 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ร้อยละ 12 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 3-5 ล้านบาท อาคารพาณิชย์พักอาศัยร้อยละ 37 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 5-7.5 ล้านบาท ทั้งทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์พักอาศัยมีราคาสูงกว่าบ้านเดี่ยวเนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอแม่สอดเกือบทั้งหมดซึ่งเป็นอำเภอการค้าเขตชายแดนของจังหวัดตาก
โดยมีโครงการอาคารชุด 5 โครงการ มีหน่วยในผัง 715 หน่วย เหลือขาย 300 หน่วย โดยอยู่ในอำเภอแม่สอดเป็นห้องชุดแบบหนึ่งห้องนอนมากถึงร้อยละ 93 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 และ 1.5-2 ล้านบาท ที่เหลือเป็นแบบสองห้องนอนร้อยละ 4 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านบาท แบบสตูดิโอ ร้อยละ 3 ส่วนใหญ่อยู่ในระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีเพียงรายเดียว คือซีพีแลนด์ พัฒนา 1 โครงการ จำนวน 270 หน่วย
ข่าวเด่น