จากแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ที่หันมาดูรายการทีวีผ่าน Second Screen หรือหน้าจอที่ 2 มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเลต หรือคอมพิวเตอร์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลต้องออกมาปรับแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการพัฒนาคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับการออกอากาศในช่องทางดังกล่าวมากขึ้น
ขณะเดียวกันก็เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่ไปด้วยไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือการจับมือกับสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อนำคอนเทนต์ไปออกอากาศ ซึ่งสื่อที่ได้รับความสนใจมากที่สุดตอนนี้ คือ ยูทูป และไลน์เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีการปรับพฤติกรรมการดูรายการทีวีจากดูแบบเรียลไทม์เป็นการการดูรายการแบบย้อนหลังมากขึ้น จึงทำให้ช่องทางการรับชมดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ทุกวันนี้แทบทุกคนเข้าถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มหมดแล้ว ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และโมบายแอพพลิเคชั่น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในการเปิดรับคอนเทนต์เปลี่ยนไป เห็นได้จากการดูรายการทีวีของผู้บริโภคในทุกวันนี้ที่ดูผ่านยูทูปมากขึ้น แม้แต่คนสูงอายุที่เราคิดว่าเขาไม่ค่อยใช้คอมพิวเตอร์ก็เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ และรู้จักยูทูปแล้ว
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการดูรายการผ่านยูทูปในปัจจุบันจะยังไม่ใช่ 100% แต่ในอนาคตก็เป็นไปได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าวได้ส่งผลกระทบไปถึงการเติบโตของตลาดโฆษณา คือมูลค่าของเม็ดเงินในโฆษณาผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม หรือ ช่องทางออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แค่ในปี 2559 นี้ เม็ดเงินโฆษณาในช่องทางออนไลน์ก็มีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาทแล้ว
จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวส่งผลให้ อสมท เล็งเห็นโอกาสในการขยายฐานผู้ชมและหารายได้เพิ่มจากช่องทางดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันมีทีมงานด้าน Digital Content ที่เข้มแข็งอยู่แล้ว และมีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาด โดยล่าสุดเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ดิจิทัลแพลตฟอร์มของ อสมท คือ ยูทูปแชนแนล “9 MCOT Official” ซึ่งเป็น ยูทูปแชนแนลสำหรับชมรายการโทรทัศน์ของช่องรายการในเครือข่าย อสมท แบบย้อนหลังได้รับรางวัลจาก Silver Play Button ของ YouTube ประเทศไทย
นายศิวะพร กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้าง เพื่อให้มีหน่วยงานสำหรับดำเนินการด้านดิจิทัลมีเดียโดยเฉพาะ ด้วยการเปิดรับบุคลากรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของหน่วยงานดิจิทัล โดยจะเน้นในตำแหน่งดิจิทัลมีเดียครีเอทีฟและโปรดักชั่น รวมถึงเพิ่มมาร์เก็ตติ้งที่ดูแลการขายดิจิทัลแพลตฟอร์มโดยตรง ซึ่งจะทำให้การหารายได้จากดิจิทัลแพลตฟอร์มมีความชัดเจนมากขึ้น เบื้องต้นใน 1-2 ปีแรกคาดว่าจะมีรายได้จากช่องทางดังกล่าว 5-10 ล้านบาท
นายพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 กล่าวว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ช่อง 7 สี ได้ทำการรุกตลาดทีวีดิจิทัลมากขึ้น และขยับอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากที่ผ่านมาได้ทำแคมเปญ “ถึงใจ ถึงอารมณ์” ต่อเนื่องด้วย “คอนเทนเนอร์” หรือ“คัดแล้วคัดอีก” และ “ความสุขครบรส กดเบอร์เดียว 35” ที่เปิดตัวไปช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยนำ อั้ม-พัชราภา มีน-พิชญา เวียร์-ศุกลวัฒน์ ซี-ศิวัฒน์ เป็นตัวแทนร่วมสื่อสารถึงช่อง 7 สี คัดสรรแต่คอนเทนท์คุณภาพมาให้ชมทั้งละคร-ข่าว-รายการ-กีฬา เพื่อสร้างความสุขครบรสให้ผู้ชม ที่ช่อง 35 ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อรักษาฐานผู้ชมกลุ่มเดิมและขยายฐานผู้ชมที่เป็นกลุ่มคนเมือง
นอกจากนี้ช่อง 7 สี ยังได้มีการรุกตลาดด้วยดิจิตทัลแพลนฟอร์ม เพื่อตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมรับชมทีวีผ่านหน้าจออื่นๆ ด้วยการทำออนไลน์แคมเปญผ่านแอพพลิเคชั่น “DO 7 HD” ซีซั่น 2 ซึ่งเคยประสบความสำเร็จจากซีซั่น 1 มาแล้วด้วยยอดผู้ร่วมสนุกสูงกว่า 5 ล้านครั้งในเวลา 10 เดือน”
นายจักรพันธ์ ลีละมาสวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีบีทีวี นิวมีเดีย จำกัด บริษัทในเครือสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 กล่าวว่า แอพพลิเคชั่น “DO 7 HD” ซีซั่น 2 ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์ของการเป็นแอพพลิเคชั่นโซเชียลทีวี ที่อินเทอร์แอคทีฟ (Interactive) กับรายการทีวี ได้แก่ ฟีเจอร์เช็คอิน ที่เพิ่ม Voicesync เช็คอินอัตโนมัติ ฟีเจอร์ Notification ตั้งแจ้งเตือนรายการที่ชื่นชอบ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ชม ช่อง 7 สี ได้อรรถรสในการรับชมทีวีมากขึ้น และยังได้ของรางวัลอีกด้วย
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพการทำตลาดทีวีออนไลน์ เนื่องจากแนวโน้มการใช้โมบายอินเตอร์เน็ตสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การเข้ามาของเทคโนโลยี 4G ที่โอเปอเรเตอร์แต่ละค่ายเปิดให้บริการชัดเจนขึ้นในปีนี้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญให้รับชมราบรื่นไม่สะดุดเช่นในอดีต ขณะเดียวกันสมาร์ทโฟนและสมาร์ททีวีมีราคาจำหน่ายไม่แพงทำให้ยอดผู้ใช้มีแต่จะเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทรุกพัฒนารูปแบบการรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เต็มสูบ
ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถรับชมรายการต่างๆ ของช่อง 8 แพลตฟอร์มออนไลน์ได้ที่ www.thaich8.com หรือยูทูบชื่อ thaich 8 หรือแอพพลิเคชั่น CH8 ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS, Android และ Windows Store รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เฟสบุ๊ค, อินสตาแกรมหรือไอจี แอคเคาท์ thaich8
นอกจากนี้ ยังได้วางกลยุทธ์พัฒนาการรับชมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมชูจุดเด่นดูทีวีออนไลน์สะดวก รวดเร็ว และง่าย เพราะสามารถดูได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อรุกขยายฐานใหม่มุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบเสพสื่อออนไลน์ รวมทั้งมีพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ย้อนหลังตามความสนใจมากกว่าที่จะรับชมตามผังรายการของสถานีโทรทัศน์ผ่านอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ทั้งระบบ iOS และ Android
นอกจากจะแข่งขันกันผ่านหน้าจอหลักกันอย่างรุนแรงแล้ว ช่องทางออนไลน์ยังมีแนวโน้มการแข่งขันสูงตามไปด้วย เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคต้องการรับชมรายการต่างๆแบบทุกที่ทุกเวลา การพัฒนาเทคโนโลยีของผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่สามารถรองรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในขณะนี้ ถือเป็นการเดินหน้าขยายธุรกิจที่ถูกที่ถูกทาง
ข่าวเด่น