แบงก์-นอนแบงก์
หลักทรัพย์บัวหลวงสนั่น! ครองใจนักลงทุนเป็นอันดับ 1 เผยแผนปีนี้เน้น'ออนไลน์'เป็นหลัก










 


หลักทรัพย์บัวหลวง โชว์ผลงานปี 2558 สร้างสถิติใหม่สู่ผู้นำตลาดที่ครองใจนักลงทุนเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 220,000 ราย พร้อมผลกำไร 1,148 ล้านบาท และ 5 ปีติดต่อกันกับการเป็นผู้นำธุรกิจ DW อีกทั้งความมั่นคงด้วยฐานเงินทุนสูงสุดกว่า 7,000 ล้านบาท มั่นใจสภาวะตลาดหุ้นปีนี้ ไม่กระทบเป้าหมายการขยายฐานลูกค้าของบริษัท ชูจุดแข็งความเป็นผู้นำด้านบริการลูกค้า การให้ความรู้และนวัตกรรมล้ำสมัยตอบโจทย์ดิจิตอลไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนรุ่นใหม่

 
 นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2559 ของบริษัท คือ การมุ่งรักษาความเป็นบริษัทหลักทรัพย์อันดับ 1 ที่ลูกค้าไว้วางใจเลือกใช้บริการ ซึ่งในปี 2558 สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนที่การเพิ่มของลูกค้าใหม่และผลประกอบการ โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลการดำเนินงานที่เป็นสถิติใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ด้วยผลกำไรสุทธิที่เติบโตจาก 1,004 ล้านบาทในปี 2557 เป็น 1,148 ล้านบาท จากยอดรายได้รวม 3,471 ล้านบาท ครองตำแหน่งบริษัทที่มีผลกำไรสูงสุดของอุตสาหกรรม และยืนยันความแข็งแกร่งทางการเงินด้วยฐานเงินทุนกว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมด้วยฐานลูกค้ากว่า 220,000 บัญชีจากบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ 1.24 ล้านบัญชี ทั้งยังเป็นผู้นำตลาดใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) ซึ่ง DW01 ที่ออกโดยบริษัท สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดมาตลอด 5 ปีติดต่อกัน
 
 
 
 

“ด้วยความไว้วางใจของลูกค้า ทำให้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ในปีที่ผ่านมามีหลายปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน แต่นักลงทุนยังให้ความเชื่อมั่นด้วยการเข้ามาเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์บัวหลวงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ด้วยสาเหตุหลักที่หลักทรัพย์บัวหลวงมุ่งเน้นการให้บริการที่ดี ความโดดเด่นในการให้ความรู้ และการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อเสริมกับจุดแข็งในเรื่องความมั่นคง ความน่าเชื่อถือของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ทำให้หลักทรัพย์บัวหลวงสามารถขยายฐานนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและมีผลการดำเนินงานที่เติบโตสม่ำเสมอและยั่งยืน ในขณะที่งานด้านวาณิชธนกิจในปี 2558 หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงประสบความสำเร็จจากการช่วยบริษัทจดทะเบียนระดมทุน รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในหลายๆ กรณี ซึ่งมีผลงานยอดเยี่ยมจนคว้ารางวัลได้จากสถาบันทั้งในและต่างประเทศหลายสถาบัน และยังคงมีต่อเนื่องในปี 2559” นายพิเชษฐกล่าว
 
 
 

สำหรับธุรกิจการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) หรือ DW นั้น หลักทรัพย์บัวหลวงสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งทั้งด้านมูลค่าการซื้อขายและจำนวนการถือครอง DW ต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว และได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในฐานะที่เป็นผู้ออกตราสารที่มีความน่าเชื่อถือ และมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง call และ put ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอ

 
ทั้งนี้จากพฤติกรรมนักลงทุน พบว่าแนวโน้มของการซื้อขายหุ้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ตสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2558 ที่ผ่านมาคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ดังนั้น บริษัทจะให้ความสำคัญยิ่งขึ้นกับการให้ความรู้ และการพัฒนานวัตกรรมและเครื่องมือช่วยในการลงทุนใหม่ๆผ่านระบบออนไลน์ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิตอล เช่นการพัฒนาเครื่องมือให้อยู่ในรูปแบบแอพพลิเคชันบนมือถือ เพิ่มการจัดทำหลักสูตรอบรมความรู้ผ่านออนไลน์ เป็นต้น
 
 

 
ทั้งนี้ นายพิเชษฐ กล่าวย้ำว่า “หลักทรัพย์บัวหลวงเห็นแนวโน้มพฤติกรรมการลงทุนในตลาดมาตลอด พบว่านักลงทุนจำนวนมากเข้ามาลงทุนแล้วขาดทุน ก็จะไม่อยากลงทุนอีก สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำให้เรามีแนวคิดที่ต้องการสร้างนักลงทุนให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมได้ในระยะยาว เราจึงมุ่งที่จะให้ความรู้กับนักลงทุนตามนโยบายเปลี่ยนห้องค้าเป็นห้องเรียน รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ให้นักลงทุนมีเครื่องมือช่วยลงทุนเพื่อสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามั่นใจว่าแนวทางที่เราทำจะสามารถพัฒนานักลงทุนได้จริงและจะทำให้เกิดสังคมการลงทุนที่มีคุณภาพ”
 

"เราไม่เน้นแข่งราคา นโยบายเราเป็นเรื่องการให้บริการด้วยบริการที่ดีและจ่ายค่าบริการในอัตราที่เหมาะสม แม้คนอาจจะมองว่าเรามีค่าบริการที่สูงกว่าภาคอุตสาหกรรมแต่เรามีความแตกต่างด้านการบริการที่ดีกว่า มากกว่า ครบถ้วนกว่า ฉะนั้นจึงคุ้มค่ากับการจ่ายค่าบริการเพราะเรามองว่าบริการเป็นสิ่งที่ลูกค้าซื้อและเข้ามาเทรดหุ้นกับหลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งจากสถิติจะเห็นได้ว่านักลงทุนที่เทรดกับหลักทรัพย์บัวหลวงจะแอ็คทีฟสูงกว่าตลาด"นายพิเชษฐกล่าว
 
 
 

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา จำนวนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์บัวหลวง คิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของการเติบโตทั้งตลาดที่มีอยู่ประมาณ 146,000 ราย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่เห็นคุณค่าในการให้บริการการลงทุนระดับพรีเมียมของบริษัท โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือการที่บริษัทให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกและประสิทธิภาพในการลงทุน ตอกย้ำความเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา
 
 

 
 
ขณะที่ ทิศทางการดำเนินงานปีนี้จะมุ่งเน้น 3 ด้าน ได้แก่ การขยายฐานลูกค้า การเพิ่มผลิตภัณฑ์การเงินที่ครอบคลุม และการพัฒนาบริการที่โดนใจลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีจำนวนลูกค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 40,000 บัญชี โดยมีกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือนักลงทุนที่เป็น First Jobber ขึ้นไป ที่กำลังมาแรงและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี มีวิถีชีวิตแบบดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ชอบออนไลน์ ต้องการความสะดวกและคล่องตัวในการใช้ชีวิต ดังนั้นบริษัทจึงต่อยอดความโดดเด่นด้านงานบริการ ทั้งในส่วนของการให้ความรู้ (Education) และนวัตกรรมการสร้างเครื่องมือใหม่ๆ (Innovation) เพื่อดูแลและช่วยการลงทุนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของฐานลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากยิ่งขึ้น
 

ปัจจุบันมีฐานลูกค้าโดยรวมอยู่ที่2.2แสนรายหรือคิดเป็น17.28%ของอุตสาหกรรมโดยเป็นบัญชีที่แอ็คทีฟ26-27%ซึ่งสูงกว่าภาพรวมของตลาด โดยเป้าหมายปีนี้ตั้งเป้าลูกค้าใหม่4-5หมื่นบัญชี


"ปีนี้เราเน้นออนไลน์เป็นหลักเพราะปัจจุบันนักลงทุนที่ลงทุนผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากสัดส่วนปีที่แล้ว60%ของการซื้อขาย ปีนี้เฉียด70%แล้ว และอายุน้อยลงเฉลี่ยประมาณ27-29ปีและเป็นผู้ชายมากกว่าโดยเป็นบัญชีที่แอ็คทีฟถึงกว่า50-60% ฉะนั้นปีนี้เราจะเพิ่มเงินลงทุนทางด้านดิจิตอลออนไลน์มากขึ้นถึง80-90%ของการลงทุนทั้งหมดเพื่อให้บริการและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆโอบล้อมด้วยดิจิตอลแมสเสทให้กับลูกค้า และเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการอะไรที่รวดเร็วเพราะการบริการของเราทุกอย่างจะไปทางออนไลน์หมด จะมีระบบคอยแจ้งเตือนทุกอย่างผ่านแอพฯ มือถือของลูกค้าเหมือนมีเลขาส่วนตัวที่เป็นดิจิตอลทำให้ไม่พลาดโอกาสการลงทุนที่สำคัญ"นายบรรณรงค์กล่าว

นายบรรณรงค์กล่าวว่า เมื่อหลักทรัพย์บัวหลวงเน้นการลงทุนด้านออนไลน์ เราจึงต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านทั้งด้านเงินลงทุน ด้านการพัฒนานวัตกรรมและเครื่องมือใหม่ๆรวมถึงด้านบุคลากรที่จะต้องมารองรับกลุ่มฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ซึ่งต่อไปจะต้องมีการแยกเซ็กเมนท์ลูกค้าเพื่อให้บริการเป็นแต่ละเซ็กเมนท์ที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพราะปัจจุบันฐานลูกค้าของหลักทรัพย์บัวหลวงจะเป็นรูปทรงปิรามิด โดยฐานล่างจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างมีอายุที่นิยมเทรดแบบเดิมๆแต่มีวงเงินเทรดที่มากๆ ส่วนฐานบนจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ลงทุนผ่านออนไลน์แต่วงเงินเทรดอาจน้อยกว่าซึ่งบัวหลวงก็จะต้องให้บริการส่งข้อมูลที่แตกต่างกัน


 
 
 
ล่าสุดหลักทรัพย์บัวหลวงได้พัฒนา 3 นวัตกรรมเด่น ชูความเป็นผู้นำด้านบริการให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักลงทุนรุ่นใหม่ ได้แก่ 1. Bualuang Connex เปรียบเสมือนผู้ช่วยการลงทุนอัจฉริยะ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้ได้ทั้งบนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ iOS และ แอนดรอยด์ ตลอดจนบนเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ www.bualuang.co.th โดย Bualuang Connex เป็นช่องทางให้บริการส่งตรงข้อมูลข่าวสารการลงทุนแบบส่วนตัวถึงลูกค้า ช่วยให้เกาะติดสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ลูกค้า Stay Connect เรื่องการลงทุนกับหลักทรัพย์บัวหลวงได้แบบ Anytime, Anywhere

2.  Bualuang Stock Signal นวัตกรรมการกรองหุ้นตามสัญญาณซื้อขายจากรูปแบบกราฟและดัชนีทางเทคนิคแบบอัตโนมัติ ครอบคลุมกว่า 33 สัญญาณ บอกทั้งหุ้นขาขึ้นและขาลง เปรียบเสมือน “โค้ช” ติดตัวนักลงทุน ช่วยให้ตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์อย่างมั่นใจและ 3.  Bualuang Knowledge Sharing ขุมทรัพย์ความรู้ด้านการลงทุนบนเว็บไซต์ www.bualuang.co.th/investmentstationถือได้ว่าเป็นสถานีแบ่งปันความรู้ด้านการลงทุนออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถส่งต่อความรู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ มีการอัพเดทคอนเทนท์ทุกวัน ครอบคลุมความรู้แยกตามผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกประเภท
 

นายบรรณรงค์ กล่าวว่าหลักทรัพย์บัวหลวงได้รับความร่วมมืออย่างดีจากธนาคารกรุงเทพซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยมีลูกค้าของธนาคารกรุงเทพกว่า30-40%ที่เข้ามาเทรดหุ้นกับหลักทรัพย์บัวหลวงให้ลูกค้าเข้าถึงในเรื่องการลงทุน

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในหุ้นปีนี้มองว่าการลงทุนปีนี้ผันผวนแน่ๆเพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวรวมถึงเศรษฐกิจไทยด้วยเช่นกัน ขณะที่การเมืองในประเทศก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง ฉะนั้นจึงคอยเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังต้องทำการบ้านหาข้อมูลเยอะๆ เลือกหุ้นตัวที่แน่ใจว่าดีจริงๆลงทุนโดยเลือกหุ้นที่เหมาะสมกับตัวเอง อย่างไรก็ตาม วิกฤตบ้านเราคงไม่มีหรอกแต่ให้เทรดอย่างระมัดระวังโดยดัชนีน่าจะอยู่ระหว่าง1,300-1,400จุด

 
สิ่งที่ลูกค้าเลือกเทรดกับหลักทรัพย์บัวหลวงเนื่องจาก1.ความแข็งแกร่งด้านการเงินที่เป็นบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ2.นวัตกรรมใหม่ๆที่เราให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอด5ปีซึ่งเราก็ยังจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมาให้ครบทุกผลิตภัณฑ์และ3.บทวิเคราะห์และบทวิจัยที่ครอบคลุมและแม่นยำ






 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 เม.ย. 2559 เวลา : 14:52:08
10-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 10, 2025, 8:06 pm