ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ได้ถูกกล่าวถึงอีกครั้ง หลังจากที่มีสัญญาณว่า อียูอาจให้ใบแดงกับไทย จากปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) หลังจากที่อียูให้ใบเหลืองกับไทย เพื่อให้แก้ปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ 21 เม.ย. 2558 หรือกว่า 1 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งต้องยอมรับว่า การแก้ปัญหาไอยูยูของไทย ในช่วงที่ผ่านมามีความล่าช้า จนทำให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งในราชกิจจานุเบกษา อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ให้นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง ขาดจากตำแหน่งหน้าที่ และอัตราเงินเดือน เพื่อย้ายหรือโอนไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้ นายอดิศร พร้อมเทพ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง แทน โดยคำสั่งใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ลงวันที่ 20 เมษายน 2559
ขณะที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงเกษตรฯ เข้าเป็นภาคีสมาชิกความตกลงว่าด้วยมาตรการของรัฐเจ้าของท่า เพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ซึ่งการเข้าเป็นสมาชิกครั้งนี้ จะทำให้การปฏิบัติทางทะเลของไทยเป็นไปตามหลักสากล และตามแผนงานของรัฐบาล
ส่วนนายอดิศร อธิบดีกรมประมงคนล่าสุด เผยว่า การแก้ปัญหาไอยูยูที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการแก้ไขตามข้อสังเกตของอียูมาต่อเนื่อง รัฐบาลไทยแสดงความจริงจังในการแก้ไขปัญหาจนสามารถออกเป็นพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และเร่งรัดออกกฎหมายรองอีกทั้งหมด 92 ฉบับ ซึ่งมีประมาณ 53 ฉบับ เกี่ยวกับไอยูยูที่ออกไปแล้ว ส่วนที่เหลืออาจต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพราะคาบเกี่ยวกับกฎหมายเก่า
สำหรับประเด็นในเรื่องการติดตามเรือผ่านระบบดาวเทียมหรือ วีเอ็มเอส ไทยสามารถติดตั้งและพัฒนาได้เร็วมากเมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ แต่ยังมีเรือ 30 ตันกรอสขึ้นไปอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ติด เพราะเรื่องทุนและความพร้อม เรือเหล่านั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกทำประมงจากศูนย์ควบคุมแจ้งการเข้าออกของเรือ เพราะเอกสารและเครื่องมือไม่พร้อมตามที่กรมประมงกำหนด
นอกจากนี้กรมประมงยังได้ ริเริ่มโครงการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ เริ่มตั้งแต่ในส่วนของต้นน้ำ ด้วยการให้ความรู้กับประชาชนในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับการประมง รวมถึงเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดอบรม หลักสูตร "ส่งเสริมความรู้แนวทางการใช้แรงงานที่ดีและต่อต้านการค้ามนุษย์ให้กับผู้ประกอบการเรือประมง"
สำหรับมุมมองของภาคเอกชนนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย ยอมรับว่า เป็นห่วง ถ้าหากภาคอุตสาหกรรมประมง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ ถูกตัดสิทธิ ไอยูยู หรือได้ใบแดง จะยิ่ง ส่งผลให้ภาคส่งออกไทยแย่ลงไปอีก และจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เนื่องจากอุตสาหกรรมการประมงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีผู้ใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก และยังเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมอื่นๆในระบบเศรษฐกิจ
ข่าวเด่น