JUBILE เดินหน้ารุก ตลาดออนไลน์ พร้อมศึกษาเครื่องมือเพิ่มเติม หลังกระแส FINTECH มาแรง ขณะที่ยอดกด LIKE FACEBOOK เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉียดแสนราย คงเป้ารายได้ปี 2559 เติบโต 10-15% เน้นบริหารต้นทุนควบคู่การเพิ่มยอดขายสาขาเดิมให้สูงขึ้น
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เปิดเผยหลังการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นใหญ่ประจำปี 2559 ว่า บริษัทพร้อมที่จะศึกษาเครื่องมือในการรุกตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น ตามที่ผู้ถือหุ้นเสนอแนะ หลังจากพบแนวโน้มพฤติกรรมการซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้นมาก และมีเครื่องมืออย่างธุรกิจ FINTECH หรือ Financial Technology มาช่วยอำนวยความสะดวก
โดยปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินธุรกิจอย่างคู่ขนานระหว่าง ออฟไลน์ และ ออนไลน์ โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขา 123 สาขา และจะเพิ่มอีกประมาณ 4-6 สาขาในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับโฉมรูปแบบเว็บไซด์ www.jubileediamond.co.th เพื่อรองรับกระแสที่มาแรงในขณะนี้
ขณะเดียวกันยังได้ทำการตลาดออนไลน์ผ่าน โซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งทาง Facebook : Jubilee Diamond (Thailand) ที่ขณะนี้มียอดกด LIKE กว่า 88,800 รายแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังบริษัทได้ทำกิจกรรมการตลาดผ่านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และนำเสนอ ทั้งโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ คอลเลกชั่นสินค้าใหม่ๆ รวมไปถึงการร่วมสนุกในกิจกรรม ออนไลน์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทผ่าน LINEID @jubileediamond และ Instagram : Jubileediamond ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้การทำตลาดสื่อออนไลน์นั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าด้วยต้นทุนที่ไม่สูง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดี จากจำนวนผู้เข้าชมที่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล และคาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าให้บริษัทได้อีกทาง จากปัจจุบันที่บริษัทมีฐานลูกค้าอยู่กว่า 150,000 ราย และ มีอัตราการซื้อซ้ำที่ค่อนข้างสูงถึง 60%
สำหรับในปีนี้ บริษัทจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุน ควบคู่ไปกับการเพิ่มยอดขายสินค้า ในสาขาเดิมให้สูงขึ้น ซึ่งจากดำเนินการที่ผ่านมาค่อนข้างประสบผลสำเร็จ จะเห็นได้จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2558 บริษัทมียอดขายเพิ่ม 21% แต่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 92%
โดยปี 2559 ยังตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นราว 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,491.47 ล้านบาท และมั่นใจอัตรากำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 8.79% ส่วนแนวโน้มตลาดเพชรและเครื่องประดับนั้นยังคงเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจาก อุปสงค์ในการซื้อเพชรของโลกยังสูงกว่า อุปทานค่อนข้างมาก ขณะที่ราคาเพชรได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่ออย่างเนื่อง
สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้ มีมติจ่ายปันผลสำหรับปี 2558 ในอัตรา 0.46 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 80.17 ล้านบาท คิดเป็น 61% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.21 ไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ดังนั้นส่วนที่เหลือจะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2559
ข่าวเด่น