ทิศทางอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงจะกระทบโดยตรงต่อผู้ฝากเงินที่พึ่งพารายได้จากอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำยังกระทบต่อธุรกิจที่อาศัยรายได้จากอัตราดอกเบี้ยด้วย ได้แก่ บริษัทประกันภัย ซึ่งล่าสุด
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า คปภ. และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เป็นห่วง สถานการณ์ดอกเบี้ยต่ำยาวนานในขณะนี้ เนื่องจากมีกรมธรรม์แบบที่การันตีให้ผลตอบแทนขั้นต่ำไว้ที่2% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่ำกว่าอยู่ 1.5% และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรต่ำไม่ถึง2%
ดังนั้น จึงได้มีการหารือร่วมกันกับทางสมาคมประกันชีวิตไทย เพื่อหาทางรับมือกับสภาวะดอกเบี้ยต่ำ โดยเห็นชอบร่วมกันให้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ประกอบด้วยกรรมการจากหลายภาคส่วน ทั้ง คปภ. สมาคมประกัน สภาวิชาชีพทางบัญชี กระทรวงพาณิชย์ ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อบริหารจัดการลงทุนและการรับประกันภัยอย่างเป็นระบบ
โดยเบื้องต้นทางสมาคมฯ มีข้อเสนอต่างๆ ทั้งการปรับมาตรฐานทางบัญชี การปรับด้านการลงทุน ปรับรายงาน รวมถึงการปรับผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้เหมาะสม ซึ่งเร็วๆ นี้คงต้องมีการหารือกันอย่างเป็นระบบอีกครั้ง เพื่อป้องกันผลกระทบกับการเดินหน้าตามแผนพัฒนาธุรกิจประกันภัยฉบับที่ 3 และการกำกับเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยงระยะสอง
ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลก ล่าสุด ธนาคารกลางออสเตรเลีย ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จากระดับ 2% มาอยู่ที่ระดับ 1.75% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อผ่อนคลายภาวะเงินฝืด และยังเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พฤษภาคม 2558
และการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีขึ้นก่อนที่จะมีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2559-2560 ซึ่งออสเตรเลียกำลังเผชิญกับการที่เศรษฐกิจเติบโตช้าลง เนื่องจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่เป็นปัจจัยหลักในระบบเศรษฐกิจออสเตรเลียมีผลผลิตที่ลดลง
ส่วนทิศทางอัตรดอกเบี้ยสหรัฐ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 เม.ย.ที่ผ่านมา เฟดได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 0.25-0.50% เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัว อาทิ รายจ่ายผู้บริโภค การลงทุนธุรกิจ และการส่งออก
โดยในแถลงการณ์ของเฟด ระบุว่า เฟดยังคงจับตาอัตราเงินเฟ้อ และแนวโน้มการพัฒนาในระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มปรับตัวดีขึ้น แม้การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนอยู่ในระดับปานกลาง รายได้เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังอยู่ในระดับสูง
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าของเฟด ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่อยู่ตกต่ำ และเงินเหรียญสหรัฐแข็งค่า ส่งผลให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าวเด่น