บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้ (KFSMART) ชูศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดี เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการแหล่งพักเงินหรือรอจังหวะลงทุน กองทุนมีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อขายได้ทุกวัน ทำการเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 9 – 16 พ.ค. 59 เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท
น.ส.ศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า“บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีสมาร์ทตราสารหนี้ (KFSMART) มีนโยบายเน้นลงทุนในเงินฝาก และ/หรือตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารในอันดับที่สามารถลงทุนได้ โดยมีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ตการลงทุนไม่เกิน 1 ปี และมีสัดส่วนในการลงทุนต่างประเทศได้สูงถึง 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีขึ้น
พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน มีจุดเด่นที่โอกาสรับผลตอบแทนมากกว่ากองทุนรวมตลาดเงินหรือกองทุนตราสารหนี้ที่มีนโยบายการลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ระยะสั้นของภาครัฐ หรือเน้นลงทุนในประเทศ มูลค่าหน่วยลงทุนรายวันอาจมีความผันผวนได้บ้าง แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้นเนื่องจากมีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากภาวะการลงทุนปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 0.50%ต่อปี (ข้อมูล: ธปท ณ 3 พ.ค. 59) กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศในตลาดน่าจะให้ผลตอบแทนราว 1.4% – 1.8% ต่อปี จึงนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ”
กองทุน KFSMART เป็นกองทุนที่มีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการและจะได้รับเงินค่าขายคืนในวันทำการถัดไป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักเงินระยะสั้นตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปได้ ซึ่งอาจเป็นช่วงรอจังหวะตัดสินใจนำเงินไปลงทุนอย่างอื่น
กองทุน KFSMART ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่นอกเหนือจากกองทุนที่เป็นที่นิยมของผู้ลงทุนมานานแล้วอย่างกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ที่เน้นความมั่นคง มีอายุเฉลี่ยตราสารในพอร์ตการลงทุนไม่เกิน 3 เดือน และกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเพิ่มทรัพย์ (KFSPLUS) ที่เน้นความสม่ำเสมอของ NAV รายวัน มีอายุเฉลี่ยตราสารในพอร์ตการลงทุนไม่เกิน 6 เดือน โดยกองทุน KFSMART มีระดับความเสี่ยง 4 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำเช่นเดียวกับ กองทุน KFSPLUS
“สำหรับมุมมองที่มีต่อตลาดตราสารหนี้นั้น บริษัทยังคงมุมมองต่อตลาดตราสารหนี้ที่ระดับ “เป็นกลาง” และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงไว้ที่ระดับร้อยละ 1.50 ตลอดทั้งปี 2559 อีกทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง ทำให้มีอุปสงค์ในพันธบัตรรัฐบาลมากกว่าปริมาณอุปทานที่ออกเสนอขายจากภาครัฐ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรในประเทศปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนของปัจจัยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่เริ่มส่งสัญญาณการปรับขึ้นที่ช้าลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้คาดว่าความผันผวนของสินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่จะเริ่มชะลอตัวลงตามลำดับ ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่าการกระจายการลงทุนในตราสารต่างประเทศมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนที่สามารถรับความผันผวนในระยะสั้นได้” น.ส.ศิริพร กล่าว
ข่าวเด่น