สมาคมประกันวินาศภัยไทยแนะการทำธุรกิจให้อยู่รอดภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ต้องลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย เน้นการบริการ ไม่แข่งขันตัดราคา และใช้ดิจิทัลพัฒนาระบบประกันภัย ทั้งการรับประกันภัยและการเคลม คาดปี 59 ภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยฝ่าวิกฤตเติบโตได้ 2.2% เบี้ยรับประกันภัยรวม 2.13 แสนล้านบาท
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การเติบโตทางธุรกิจอาจจะไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2559 จะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 213,945 ล้านบาท หรือเติบโต 2.2% จากปี 2558 ที่มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 209,279 ล้านบาท หรือเติบโต 1.90% จากปี 2557
"2 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ ยอมรับว่าผลประกอบการโดยรวมของธุรกิจประกันวินาศภัย หดตัวลง 0.72% มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 34,572 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือจากนี้ สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องคำนึงถึงในการบริหารธุรกิจให้อยู่รอดภายใต้สภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ จะต้องควบคุมค่าใช้จ่าย ลดต้นทุนการดำเนินงาน มุ่งเน้นการพัฒนาระบบการให้บริการ พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการนำดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาระบบประกันภัยทั้งการรับประกันภัยและการเคลมให้มากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่าย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2559 และส่งเสริมให้ธุรกิจประกันวินาศภัยเดินหน้าต่อไปด้วยความมั่นคงและยั่งยืน"นายอานนท์กล่าว
นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยกล่าวต่อไปว่า สำหรับเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงปี 2558 ที่ขยายตัว 1.90% นั้น เป็นผลมาจากการขยายตัวของประกันภัยเบ็ดเตล็ด ที่เติบโต 2.74% โดยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 73,027 ล้านบาท ประกอบด้วย ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ที่เติบโต 3.21% มีเบี้ยรับ 2,007 ล้านบาท,อุบัติเหตุส่วนบุคคล เติบโต 6.45% มีเบี้ยรับ 26,308 ล้านบาท, สุขภาพ เติบโต 7.26% มีเบี้ยรับ 7,563 ล้านบาท,อากาศยาน พืชผล และอื่นๆ เติบโต 0.86% มีเบี้ยรับ 8,502 ล้านบาท ส่วนความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน หดตัว 0.71% มีเบี้ยรับ 25,750 ล้านบาท และวิศวกรรม หดตัว 3.51% มีเบี้ยรับ 2,897 ล้านบาท
ขณะที่การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 5,343 ล้านบาท ขยายตัว 0.74% ประกันอัคคีภัย มีเบี้ยรับโดยตรง 10,485 ล้านบาท หดตัว 5.21% สอดคล้องกับการลดลงของจำนวนที่อยู่อาศัย ส่วนการประกันภัยรถยนต์ มีเบี้ยรับโดยตรง 120,424 ล้านบาท ขยายตัว 2.12% โดยปี 2558 มีปริมาณรถใหม่ที่จดทะเบียน 2,772,296 คัน ลดลง 4.3%
เมื่อเทียบกับปี 2557
"แม้ว่ายอดขายรถปี 2558 มีปริมาณลดลง 9% มีจำนวน 799,632 คัน แต่การประกันภัยรถยนต์ยังมีการแข่งขันสูง ซึ่งในสภาวะการณ์เช่นนี้ขอให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงการบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย และราคาเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม และให้ความสำคัญเรื่องของการบริการลูกค้ามากกว่าการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจ"นายกสมาคมประกันวินาศภัยกล่าวเตือน
นายอานนท์กล่าวต่อว่า แม้ปี 2558 ธุรกิจประกันวินาศภัยยังคงมีอัตราการเติบโต แต่ก็ยังมีอัตราการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยเป็นจำนวนเงิน 204,000,000 บาทต่อวัน
สำหรับด้านการประกันข้าวนาปีในปี 2558 สมาคมโดย 7 บริษัทประกันภัยได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการประกันภัยข้าวนาปีของภาครัฐ เพื่อบรรเทาความเสียหายให้เกษตรกร ซึ่งผลการรับประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2558 มีเบี้ยประกันภัย 554,566,539.91 ล้านบาท พื้นที่รับประกันภัย 1 ล้าน 5 แสนไร่
"จากผลการรับประกันภัยดังกล่าว ถือว่ามีแนวโน้มที่ดีที่จะสามารถขับเคลื่อนการประกันภัยประเภทนี้ต่อไปได้อีก ซึ่งในปีนี้มีบริษัทประกันภัยได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการประกันภัยข้าวนาปีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 15 บริษัท และกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการรับประกันภัยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจำนวน 25 ล้านไร่"นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยกล่าว
ข่าวเด่น