บมจ.แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น (ACC) ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ผลงานไตรมาส 1/59 เปิดฉากเทิร์นอะราวด์ เริ่มมีกำไรสุทธิกว่า 1.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123% พลิกจากปีก่อนที่เคยขาดทุน 4.83 ล้านบาท อานิสงส์จากการทำการตลาดด้านพัดลมอย่างต่อเนื่องและจากการที่บริษัทฯ สามารถขายสินทรัพย์ได้ "ยุทธนา แต่ปางทอง"มั่นใจปีนี้ ผลการดำเนินงานกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง หลังปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ รุกคืบสู่พลังงานทดแทน-อสังหาฯ หนุนรายได้-กำไร เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน แย้มข่าวดี! พร้อมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่สนับสนุนบริษัทฯด้วยดีเสมอมา
นายยุทธนา แต่ปางทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ACC) ผู้ประกอบธุรกิจเทรดดิ้งพัดลม พลังงานทดแทน และอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส1/59 ของบริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 29.42 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลง 5.59 ล้านบาท หรือลดลง 16.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 4.83 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีอัตรากำไรจากการขายพัดลมเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทำการตลาดด้านพัดลมอย่างต่อเนื่องและจากการที่บริษัทฯ สามารถขายสินทรัพย์ได้
"แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ตามแผน หลังจากบริษัทฯได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ ดึงมืออาชีพเข้ามาร่วมทำงาน พร้อมกับมีการขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน และอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และเป็นการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลตอบแทนของบริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต และบริษัทฯพร้อมที่จะจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินในปีนี้หากผลประกอบการปีนี้มีกำไร เพื่อตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับบริษัทฯด้วยดีเสมอมา"นายยุทธนากล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้นำเงินสำรองตามกฎหมาย และทุนสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งจำนวน 62 ล้านบาท ทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯมีความแข็งแกร่ง พร้อมที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ทันที หากมีกำไร
กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ACC) กล่าวอีกว่าบริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายตลาดเทรดดิ้งพัดลมอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังเจรจากับโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ เพื่อนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่าย ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทน บริษัทฯมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง และมีแผนนำธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
ส่วนธุรกิจอสังหาฯ ในปีนี้ เตรียมเปิดตัว 1 โครงการมูลค่าประมาณ 350-400 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 4/59 นอกเหนือจากการขายสินทรัพย์เดิมที่ประกอบด้วยโครงการอาคารชุดพีเอส ทาวเวอร์ อโศก, โรงงานในนิคมฯ บางปู และอาคารชุดคันทรี่ คอมเพล็กซ์ ถ. สรรพาวุธ และโครงการทาวน์ไลน์ สัตหีบที่มียอดจองแล้ว 50% คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ได้ในเดือน ส.ค. 59
.jpg)
ข่าวเด่น