การตลาด
สยามพิวรรธน์พร้อมเปิด 'สยามดิสคัฟเวอรี่' 28 พฤษภาคมนี้








 


บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาราไดซ์พาร์ค และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต ประกาศวันนี้ว่า “สยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูให้คนรุ่นใหม่หัวใจแรงได้เข้าสู่สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 นี้เป็นต้นไป โดยสยามดิสคัฟเวอรี่จะกลายเป็นไลฟ์สไตล์สเปเชี่ยลตี้สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างเป็นปรากฏการณ์ใหม่บันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการค้าปลีก หลังจากพลิกเกมส์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท”
 

สยามพิวรรธน์เตรียมทุ่มงบประมาณ 300 ล้านบาท จัดงานเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ โดยตั้งเป้าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เสริมความแข็งแกร่งและ  ตอกย้ำเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ในฐานะศูนย์กลางการค้าปลีกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และช่วยให้กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางด้านการช้อปปิ้งยอดนิยมของชาวโลก
 

นายชาญชัย เชิดชูวงศ์ธนากร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า “สยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่เป็นการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางในรูปแบบไฮบริดรีเทลแห่งแรกของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ซึ่งด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่นี้ คาดว่ารายได้ต่อตารางเมตรของสยามดิสคัฟเวอรี่จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า พร้อมกับตอกย้ำชื่อเสียงของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยในวงการค้าปลีกของประเทศไทย ผู้เนรมิตจุดหมายปลายทางที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการซึ่งแข่งขันได้กับจุดหมายปลายทางที่เป็นสุดยอดของโลก”
 
 
 

สยามดิสคัฟเวอรี่ - The Exploratorium จะเป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments ที่เปรียบเสมือนสนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดตื่นเต้นเร้าใจ เชิญชวนทุกคน ‘มาเล่นสนุกด้วยกัน’! โดยมอบพลังอำนาจในการสร้างสรรค์สไตล์ของตัวเองให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ๆ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริง โดยทุกมิติของการนำเสนอ ถูกเนรมิตให้ ‘เข้าถึงใจ’ ลูกค้ามากที่สุด นำเสนอโดยผสมผสานหลากหลายกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวและความสนใจของผู้คน เพื่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในการค้นหา มอบพลังอำนาจความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ ทดลอง ปรับแต่ง พลิกแพลง และสร้างสรรค์สินค้าที่ซื้อ ให้เป็นไปตามความต้องการและรสนิยมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลได้ จากสินค้าที่มีอยู่มากกว่า 5,000 แบรนด์ ในทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งแบรนด์ไทยและ     แบรนด์ระดับโลก

แบรนด์ดังร่วมขบวนเปิดตัวครั้งแรกในโลก และเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

นายชาญชัย กล่าวว่า “ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ๆ  ได้ถูกนำเสนอกระจายตัวอยู่ทั่ว ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 8 ชั้นของสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยแต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามสินค้าบริการและบุคลิกของแต่ละชั้น อาทิ ชั้น G เรียกว่า Her Lab นำเสนอแฟชั่นล้ำ          เทรนด์และบริการสุดพิเศษสำหรับสุภาพสตรี ชั้น M เรียกว่า His Lab ตอบโจทย์ทุกความต้องการของสุภาพบุรุษ ชั้น 1 เรียกว่า Street Lab นำเสนอสินค้าแนวสตรีทแฟชั่นที่คัดสรรมาอย่างดี ชั้น 2 เรียกว่า Digital Lab นำเสนอสินค้าที่เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ชั้น 3 เรียกว่า Creative Lab มอบแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ
 
 
 
 
และชั้น 4 เรียกว่า Play Lab นำเสนอมิติใหม่ของความสนุกสนานและเป็นสังคมของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันมาแลกเปลี่ยน และแชร์ประสบการณ์ร่วมกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนชั้น 5 และชั้น 6 พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็น Virgin Active Fitness ทั้งนี้ มีแบรนด์หรือร้านค้าที่เป็นไฮไลท์ในหมวดหมู่สินค้าประเภทต่างๆ 5 ประเภท ได้แก่ 1) สินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน (Everyday Products) 2) สินค้านำเทรนด์ที่ก้าวล้ำทุกกระแสโลก (Trend Products) 3) สินค้าและบริการนวัตกรรมล่าสุด (Innovative Products & Services) 4) สินค้าที่ผลิตสร้างสรรค์จากแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Products และ 5) สินค้าในรูปแบบคอลลาโบเรชั่น และสินค้าแอ๊ปโซลูทสยาม (Collaboration and Absolute Siam Products)”

สินค้าของใช้ในชีวิตประจำวัน (Everyday Products) ที่ตอบสนองทุกความต้องการ อาทิ ร้าน O.D.S. (Object of Desire Store) มัลติแบรนด์โฮมเดคอเรทีฟสโตร์ที่รวบรวมสินค้าตกแต่งบ้านชื่อดัง โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ คัดสรรสินค้าและงานดีไซน์ที่โดดเด่นจากนักออกแบบที่ได้รับรางวัลด้านการออกแบบ อาทิ Demark นำเสนอกว่า 160 แบรนด์ พื้นที่กว่า 600 ตรม., ร้านลอฟท์ (Loft) โฉมใหม่กับคอนเซ็ปท์การออกแบบใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลก ซึ่งออกแบบดีไซน์ตกแต่งร้านโดยเนนโดะดีไซเนอร์ชื่อดังของโลกร่วมกับทีมนักออกแบบฝีมือดีที่สุดของลอฟท์เจแปน นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ทั้งสเตชั่นแนรี่ สินค้าไอทีและแอคเซสเซอรี่ สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม รวมทั้งสินค้าไพรเวทแบรนด์ของลอฟท์
 
 
โดยสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศจะเป็นสินค้าที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 80%, ไนกี้ แบรนด์กีฬายอดนิยม เปิด Nike คอนเซ็ปท์สโตร์ใหม่ล่าสุดแห่งแรกแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ครบครันด้วยสินค้าที่ครบไลน์ พร้อมคัดสินค้าที่เป็นเทคโลยีใหม่ล่าสุดมานำเสนอที่สยามดิสคัฟเวอรี่ก่อนที่อื่น และที่พิเศษคือมีบริการปักชื่อบนเสื้อหรือรองเท้าในแบบเฉพาะบุคคล และนวัตกรรมการเลือกบราสำหรับสาวรักการออกกำลังกาย, Barberford Noir นำเสนอบริการ grooming ที่ครบวงจรสำหรับสุภาพบุรุษ ทั้งตัดผม โกนหนวด ทำเล็บ และนวดหน้า เพื่อแปลงโฉมให้คุณผู้ชายกลายเป็นหนุ่มสุดเนี้ยบ นอกจากนี้ยังมี Skin Lab ที่คัดสรรแบรนด์สกินแคร์ น้ำหอม เครื่องสำอางสำหรับทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษมานำเสนออย่างครอบคลุม ตลอดจนสินค้า organic ที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้รู้จริงเรื่องสินค้าที่จะคอยให้คำแนะนำเสมือนเพื่อนแนะนำสิ่งดีๆ ให้กับเพื่อน อีกทั้งยังมีบริการพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการโดยเฉพาะ
 
 

สินค้านำเทรนด์ที่ก้าวล้ำทุกกระแสโลก (Trend Products) อาทิ แบรนด์ Issey Miyake เปิดคอนเซ็ปท์ World of Issey Miyake นอกประเทศญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในโลก รวบรวมนำเสนอสินค้าแฟชั่น Issey Miyake ที่ครบไลน์มากที่สุด และยิ่งไปกว่านั้นจะมีสินค้า Issey Miyake สำหรับสุภาพบุรุษเป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย, แบรนด์สินค้าตกแต่งบ้านยอดฮิตระดับโลก ที่มาแรงที่สุดในขณะนี้ ได้แก่ Hay, Tom Dixon และ Kartell เปิดคอนเซ็ปท์สโตร์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย, Artist’s Design Products หรือ สินค้าที่ดีไซน์จากผลงานการออกแบบของศิลปินระดับโลกอย่าง Yayoi Kusama และ Lisa Larson แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย นำเสนอสินค้าหลากหลายโดนใจคนรักงานอาร์ท, ร้าน CAZH รวบรวมสินค้าแฟชั่นแนวแคชช่วลและสตรีทสไตล์หลายแบรนด์  โดยคัดสรรเฉพาะแบรนด์ยอดฮิตทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์นอกโดยดีไซเนอร์ชั้นนำ
 
 
 
พร้อมด้วยบริการพิเศษดีไซน์และตัดกางเกงยีนส์สำหรับทุกรูปร่างแบบเฉพาะบุคคล, ร้าน Pursuit มัลติแบรนด์สโตร์สำหรับสุภาพบุรุษที่จะเป็น Gentlemen Club ใจกลางเมือง แห่งล่าสุด นำเสนอสินค้าแฟชั่นสำหรับผู้ชายสไตล์หล่อเนี้ยบทุกเวลา พร้อมบริการตัดสูท เสื้อเชิ้ตแบบเทเลอร์เฉพาะตัวด้วยช่างฝีมือ, Hackett คอนเซ็ปท์สโตร์แห่งแรกในประเทศไทย แบรนด์แฟชั่นผู้ชายที่กำลังได้รับความนิยมจากประเทศอังกฤษ นำเสนอสินค้าครบไลน์สำหรับทุกลุคและทุกสไตล์การแต่งตัว พร้อมบริการตัดสูทให้เหมาะกับทุกรูปร่างแบบเฉพาะบุคคล, Comme des Garcons แฟล็กชิปสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นำเสนอสินค้าที่ครบไลน์มากที่สุด, และสยามดิสคัฟเวอรี่ นำเสนอ Asian Designers Hub  ครั้งแรกในประเทศไทยกับศูนย์รวมแบรนด์แฟชั่นเอเชี่ยนดีไซเนอร์สุดฮอตในประเทศแถบเอเชีย
 
 
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Best of Tokyo Fashion หลากหลายแบรนด์แฟชั่นที่ผ่านการคัดสรรแล้วว่าน่าจับตามองที่สุดของญี่ปุ่น นำเสนอแบบจัดเต็มสำหรับทั้งหญิงชาย อวดฝีมือการดีไซน์ของนักออกแบบแฟชั่นชาวเอเชียที่ไม่เป็นรองใคร โดยแบรนด์ที่มาเปิดตัวแห่งแรกในประเทศไทยมากมาย อาทิ Yoshio Kubo, Factotum, Beautiful People, Dressed Undressed และ Discord by Yoji Yamamoto, และ Billboard Café ครั้งแรกในโลก โดยนิตยสาร Billboard นิตยสารดนตรีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดทั่วโลกนำเสนอประสบการณ์ด้านเสียงเพลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน ดีไซน์เป็นคาเฟ่สำหรับคนรักเสียงเพลงผ่านการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มีมุมอาหารและเครื่องดื่มจาก Dean and Deluca และมีการจัดรายการวิทยุแบบสดๆ
 

สินค้าและบริการนวัตกรรมล่าสุด (Innovative Products & Services) อาทิ Alpha Runner สปอร์ตคอนเซ็ปท์สโตร์ที่นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่นักกีฬาตัวจริงพลาดไม่ได้ ครบครันด้วยสปอร์ตแวร์หลากหลายและโดดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้บริการเลือกรองเท้าที่เหมาะกับสรีระและการใช้งานของแต่ละคน ตอบสนองทั้งการวิ่ง การปั่นจักรยาน และไตรกีฬา, Dressing Room นวัตกรรมใหม่ของการบริการในธุรกิจค้าปลีก ที่สยามดิสคัฟเวอรี่คิดค้นขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์สุดล้ำในแบบ Personalized ด้วยบริการพิเศษ  สไตลิสต์ส่วนตัว ช่วยเลือกสินค้าแฟชั่นและแอคเซสเซอรี่ที่ครบครัน จัดเตรียมไว้ให้ในห้อง Dressing Room ส่วนตัว สำหรับผู้แจ้งรับบริการล่วงหน้าและระบุธีมที่ต้องการ เพื่อทดลองสวมใส่จริง มิกซ์แอนด์แมทช์ ค้นหาตัวตนและแบบที่เหมาะได้อย่างสะดวกสบายและเพลิดเพลิน, DISCOVERY HUBBA ซึ่งเป็น Co-working Space ที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่เคยมีมาด้วยการร่วมมือกับ Hubba นำเสนอนวัตกรรมทางความคิด และการจัดการที่มากกว่าการมอบพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนไอเดียและความฝันในการเริ่มต้นธุรกิจ แต่ยังเสริมด้วยกิจกรรมพิเศษและการจัดเวิร์คช็อป สร้างสังคมใหม่ของการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก เป็น Retails Start Up ให้แก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นบทบาทหนึ่งของสยามพิวรรธน์ในการผลักดันและขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่สู่โลกอนาคต
 

สินค้าที่ผลิตสร้างสรรค์จากแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อมและเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Products) อาทิ tokyobike สวรรค์ของนักปั่นที่จะเป็นคอมมูนิตี้กลางเมืองแห่งใหม่ล่าสุดของคนรักการปั่นจักรยาน นำเสนอสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการปั่นจักรยานอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมบริการฟิตติ้งจักรยานคู่ใจให้รับกับร่างกายของผู้ขับขี่โดยเฉพาะ มีพื้นที่สำหรับเทสต์ไรด์พร้อมให้ทดลองปั่นจักรยาน พร้อมพื้นที่ Bike Park สำหรับจอดรถจักรยาน ตอกย้ำเจตนารมณ์ของสยามพิวรรธน์ที่สนับสนุนการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชื่นชมกลุ่มผู้นิยมการปั่นจักรยาน, สตาร์บัคส์คอฟฟี่ ที่พิเศษกว่าทุกสาขาที่เคยมีมาในประเทศไทยด้วยคอนเซ็ปท์ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจการตามนโยบายเพื่อสังคม ด้วยการจัดระบบแฟร์เทรดที่มีการจัดซื้อสินค้าจากเกษตรกรโดยตรงมาจัดจำหน่ายถึงมือผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังนำเสนอ coffee drip เพื่อคอกาแฟตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งร้านที่ดีไซน์เพื่อสยามดิสคัฟเวอรี่โดยเฉพาะ ด้วยแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำกากกาแฟมารีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในร้าน, และ Veda Salon โดยแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออร์แกนิกคุณภาพระดับโลก Aveda สร้างสรรค์ขึ้นเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก พร้อมเพิ่มบริการ Head Spa ซึ่งเป็นบริการพิเศษที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Aveda และมีเฉพาะสาขาสยามดิฟคัฟเวอรี่แห่งแรกและแห่งเดียวเท่านั้น 
 
 

สินค้าในรูปแบบคอลลาโบเรชั่นและสินค้าแอ๊ปโซลูทสยาม (Collaboration and Absolute Siam Products)”  ซึ่งเป็นสินค้า Absolute Siam ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ที่เดียวเท่านั้น พร้อมมอบประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหนให้แก่ผู้มาเยี่ยมเยือน อาทิ Toys Station ที่จะเปลี่ยนสยามดิสคัฟเวอรี่ให้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของคนรักของเล่นและดีไซน์ทอยส์มารวมตัวกัน และเป็นสังคมแลกเปลี่ยนความรู้และของสะสม ยิ่งไปกว่านั้นจะมีความร่วมมือระหว่าง Toys Station และ Sony เพื่อเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของ Play Station รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อมอบเซอร์ไพรส์ให้เหล่าเกมเมอร์อย่างไม่รู้จบ, 
 
 
คาเฟ่ดีไซน์ล้ำ Café Now by Propaganda การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ Propaganda ผนึกกำลังกับเชฟ โบ – ดวงพร ทรงวิศวะ เสิร์ฟอาหารอร่อยภายใต้บรรยากาศที่ออกแบบให้สนุกสนานในทุกครั้งที่มา พร้อมสินค้า grocery ให้เลือกซื้อกลับบ้านได้ด้วย, ร้าน Must Love Mac. คอนเซ็ปท์สโตร์แห่งแรก คอมมูนิตี้สำหรับคนรัก Mac นำเสนอสินค้าครบครันพร้อมอุปกรณ์และแอคเซสเซอรี่หลากหลาย และมีบริการ personalize iPhone และ MacBook Case ที่นี่ที่เดียว, และ Adidas คอนเซ็ปท์สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แนวคิด Interactive Store Concept ที่มาพร้อม Exclusive Collection, สนีกเกอร์แบรนด์ดังอย่าง Vans, Palladium, Converse และ Asics ขนรองเท้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดมานำเสนอเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ก่อนใคร อาทิ  คอลเลคชั่นพิเศษจาก Palladium ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 240 คู่เพื่อระลึกถึง Jackson Pullock ศิลปินชื่อดัง คอลเลคชั่น Vans x Nintendo Games ที่เตรียมเปิดตัวคอลเลคชั่นที่นี่เป็นที่แรก และ Converse ที่เชิญศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดัง Alex Face มาวาดลวดลายแบบคู่เดียวในโลกเป็น personalize ที่พิเศษสุด, และ Mos Bag แบรนด์เครื่องหนังคุณภาพ พิเศษด้วยบริการ Personalized ปัก ตอก ชื่อและลายเพื่อให้ได้สินค้าชิ้นโปรดที่พิเศษเฉพาะบุคคล

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมนำเสนอที่สุดแห่งปรากฏการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหาร ด้วยการผสมผสานร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันกับพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่กิจกรรมต่างๆ อย่างผสมกลมกลืน โดยได้จัดสรรพื้นที่มากกว่า 2,500 ตารางเมตรครอบคลุมทั่วทั้งสยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็นพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และจะเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นที่สุดของปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 

แตกต่างด้วยการนำเสนอที่ไม่เหมือนใคร 
เปิดให้ทุกคนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ พบในสิ่งที่ไม่เคยพบ

นายชาญชัย กล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้สยามดิสคัฟเวอรี่โดดเด่นแตกต่างไม่มีที่ใดเหมือน คือการมอบประสบการณ์ ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมากมายซึ่งกระจายอยู่ทั่วสยามดิสคัฟเวอรี่ สินค้าต่างๆ จะนำเสนอเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจ บอกเล่าที่มาของแรงบันดาลใจและจินตนาการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเกร็ดเล็กน้อยต่างๆ ที่เป็นเบื้องหลังการสร้างแบรนด์หรือนวัตกรรมน่าสนใจเกี่ยวกับสินค้า มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีของโลกยุคดิจิตอลมาผสมผสานกับบริการพิเศษในพื้นที่ เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล และสื่อสารกับลูกค้าเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ ที่พร้อมจะเชิญชวนให้ทุกคนทดลองไอเดียใหม่ๆ พูดคุย แนะนำ บอกเล่าเรื่องราว เพื่อเติมเต็มความสนุกสนานในการมาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้ มีการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถปรับแต่ง พลิกแพลง และสร้างสินค้าที่ซื้อให้เป็นไปตามความต้องการและรสนิยมเฉพาะตัว มีการนำเสนออินเทอแรคทีฟ คอมมูนิตี้ สังคมแห่งไอเดียของคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งการพบปะ แลกเปลี่ยน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ได้มาพูดคุย แบ่งปันประสบการณ์”
 

ฉีกกฎการจัดกิจกรรมเปิดตัวรูปโฉมใหม่
เชิญชวนทุกคน “มาเล่นสนุกด้วยกัน”

“สยามพิวรรธน์ ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ในการจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งแห่งปี ที่มีสไตล์และรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร เป็นครั้งแรกของวงการค้าปลีกที่สเปเชี่ยลตี้สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยบนพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร นี้ จะเปิดตัวโดยเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์เหนือความคาดหมายได้ก่อนใคร  โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ได้รับสมัครประชาชนผู้สนใจมาร่วมเป็นหนึ่งใน 500 คนแรก ทาง www.siamdiscovery.co.th ซึ่งผู้ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเชิญมาเยี่ยมชมภายในสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่  ก่อนใครในวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 นอกจากนี้ จะมีกิจกรรมเดินสายโรดโชว์ของดิสคัฟเวอรี่แมน ขนาดยักษ์  สูงกว่า 5 เมตร ไปยังสถานที่สำคัญใจกลางกรุงเทพฯ อาทิ สวนจตุจักร สะพานลอยข้ามแยกสาทร – นราธิวาส  สีลม และพาร์คพารากอน พร้อมกิจกรรมสนุกๆ มากมาย เพื่อเชิญชวนผู้สนใจร่วมเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้เข้ามาสัมผัสรูปโฉมใหม่ของสยามดิสคัฟเวอรี่ในรอบเอ็กซ์คลูซีฟพรีวิวในวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ก่อนเปิดให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไปในวันที่ 28 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป”

 
 
 
สยามดิสคัฟเวอรี่ คือ The Biggest Arena of Lifestyle Experiments ที่ทุกตารางเมตรจะเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าค้นหา ในขณะที่ทุกคนเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ของสยามดิสคัฟเวอรี่ ทุกคนจะได้ร่วมค้นพบ Identity หรือตัวตนของตนเอง โดยหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าตื่นเต้นในช่วงเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ คือ นิทรรศการและกิจกรรมสร้างประสบการณ์ร่วมแบบอินเทอแรคทีฟ ‘Social Discovery’ โดยความร่วมมือระหว่างสยามดิสคัฟเวอรี่ และ Black Egg ทีมนักออกแบบและครีเอทีฟระดับโลก นำคอนเซ็ปท์ Storytelling มาผสมผสานกับดิจิตอลเทคโนโลยี ในธีม “When Obsession Becomes Identity” ที่เชิญชวนทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์สุดตื่นเต้นกับการค้นพบและเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตนเอง โดยเจาะความสนใจเบื้องลึกของแต่ละคน และนำเสนอเป็นงานศิลปะผ่านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียสุดตื่นตาตื่นใจ


การฉีกกฎและรูปแบบของวงการค้าปลีกอย่างสิ้นเชิงของสยามดิสคัฟเวอรี่ ยังรวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและวิธีการนำเสนอ สยามดิสคัฟเวอรี่เปรียบเสมือนเพื่อนที่พร้อมบอกเล่าและมอบสิ่งดีๆ ให้กับเพื่อนสนิท โดยได้ร่วมมือกับเนนโดะสร้างสรรค์ “ดิสคัฟเวอรี่แมน” (Discovery Man) ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนนำทุกคนเข้ามา ค้นหาและทดลอง (Experiment) , สร้างสรรค์ (Create) , และพัฒนา (Cultivate) ความพิเศษที่ทุกคนสัมผัสและสร้างขึ้นได้ด้วยตัวเอง โดยทุกคนสามารถมาทำความรู้จักกับดิสคัฟเวอรี่แมนมากยิ่งขึ้นได้ในนิทรรศการ Discovery Man Exhibition ซึ่ง นายโอกิ ซาโตะ นักออกแบบระดับโลกชาวญี่ปุ่น ที่นอกจากจะมาร่วมเป็นหัวหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายในให้กับสยามดิสคัฟเวอรี่แล้ว ยังเป็นคูเรเตอร์ในการจัดนิทรรศการครั้งนี้  โดยความพิเศษอยู่ที่การเชิญนักออกแบบชื่อดังระดับโลกทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาร่วมดีไซน์แต่งแต้มสีสันให้กับดิสคัฟเวอรี่แมนในแบบคอลลาโบเรชั่นรวมถึง 25 ตัว 

นอกจากนี้  ยังจัดให้มีนิทรรศการแสดงผลงานการออกแบบ Nendo’s Exhibition ครั้งแรกในประเทศไทย โดยนายโอกิ ซาโตะ ผู้ได้รับการยอมรับจากวงการออกแบบทั่วโลก ประกอบไปด้วยผลงานการออกแบบชั้นยอด ทั้งด้านโพรดักส์ดีไซน์ อาร์ทอินสตอเลชั่น และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ที่ผ่านการคัดสรรและบรรจงจัดวางในกล่องแห่งไอเดีย เป็นนิทรรศการที่โดดเด่นใจกลางสยามดิสคัฟเวอรี่ที่ทุกคนต้องตะลึง ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ที่พร้อมให้ทุกคนเข้ามาเพลิดเพลินกับกิจกรรมอินเตอร์แรคทีฟสุดสร้างสรรค์ในหลากหลายกิจกรรมในทุกๆ ชั้นเต็มพื้นที่สมกับเป็น สยามดิสคัฟเวอรี่ The Exploratorium สนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่

“โดยในช่วงปีแรกที่เปิดบริการ สยามพิวรรธน์ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในสยามดิสคัฟเวอรี่โฉมใหม่ 100,000 คนต่อวัน โดย 65% เป็นลูกค้าคนไทย และ 35% เป็นลูกค้าต่างชาติ” นายชาญชัย กล่าว 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 พ.ค. 2559 เวลา : 14:55:53
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 8:39 pm