การค้า-อุตสาหกรรม
BMกำไร Q1ปี59 พุ่ง 2,179.66% จากรายได้การขายที่เพิ่มขึ้น


 


บางกอกชีทเม็ททัลประกาศงบ Q1 ปี 59 กำไรพุ่งกว่า 2,179.66% จากรายได้การขายที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนที่ลดลง ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.05% และรายได้หลักเกือบ 50% ยังคงมาจากการขายรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำการผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก ได้แก่ รางเดินสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ และแผงควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ตามอาคาร คอนโดมิเนียม สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม  สถานีไฟฟ้า เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้า “BSM”, “BM”, “BS” และ “BEST” และผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปอื่นๆ จากโลหะตามความต้องการของลูกค้า และเป็นผู้จำหน่ายท่อร้อยสายไฟฟ้า เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม  2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 13.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.86 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น  2,179.66% และมีอัตรากำไรสุทธิ คิดเป็น 7.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนขายและบริการที่ดี รวมทั้งบริษัทสามารถเรียกเก็บค่าสินค้าจากลูกหนี้ที่บริษัทได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญแล้ว 4.84 ล้านบาท
 
โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 190.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.31 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า โดยการจำหน่ายให้แก่ลูกค้ากลุ่มภาคส่วนงานรับเหมาระบบมีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ เนื่องจากการได้รับคำสั่งผลิตตู้สื่อสารจากลูกค้ารายใหญ่ในจำนวนที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายแม่พิมพ์โลหะ เครื่องมือ และอุปกรณ์ เนื่องจากได้รับคำสั่งผลิตแม่พิมพ์สำหรับผลิตชิ้นส่วนรถไถเดินตาม (Rotary) และการได้รับคำสั่งผลิตรถฉีดพ่นยา (Boom Sprayer) จากลูกค้ารายใหญ่เพิ่มมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายชิ้นส่วนโลหะ จากการได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนโลหะเพิ่มขึ้นสำหรับ รถเกี่ยวนวดข้าว และรถไถติดแอร์ (Cabin Assy) จากลูกค้ารายใหญ่เพิ่มมากขึ้น
“รายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงมาจากการขายรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 50% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีรายได้จากการขายชิ้นส่วนโลหะ มีสัดส่วนรายได้เป็นอันดับ 2หรือ คิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่รายได้ที่มาจากจากการขายตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเกือบ 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น” นายธานินกล่าว
นายธานิน กล่าวต่อว่า นอกจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นนั้น บริษัทฯ ยังมีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ มีต้นทุนขายและบริการ 150.86 ล้านบาท ลดลง 4.02 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลง 2.60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาเหล็กซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ดี ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้จากการขายได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจำนวนลูกค้ารายใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับโครงการต่างๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชนที่กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการดำเนินซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ 








 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 พ.ค. 2559 เวลา : 11:56:59
18-10-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 18, 2024, 7:23 pm