อสังหาริมทรัพย์
สมาคมรับสร้างบ้านหวั่นรายกลาง-เล็กต้นทุนบาน


 


ส.รับสร้างบ้าน เผยตลาดรับสร้างบ้านโต แนะผู้ประกอบการเร่งสร้างแบรนด์ บริหารสภาพคล่อง ชูความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่เพิ่มรายได้ หวั่นรายกลาง-เล็กคุมต้นทุนไม่อยู่ เหตุวัสดุก่อสร้าง/ค่าแรงขึ้นราคา
 

นายพิชิต อรุณพัลลภ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA : Home Builder Association) เปิดเผยว่า สภาพตลาดโดยรวมมีโอกาสขยายตัว แต่ไม่หวือหวามากนัก เห็นได้จากประเภทที่อยู่อาศัยในตลาดบ้านสร้างเองมีราคาสูงขึ้นและตลาดใหญ่ขึ้น ประกอบกับทิศทางราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรรประเภทบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯและปริมณฑลสูงขึ้น รวมถึงราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นในกรุงเทพ สะท้อนถึงโอกาสสำหรับก่อสร้างที่อยู่อาศัยในตลาดบ้านสร้างเองบนที่ดินของผู้บริโภคนั้นจะมีมากขึ้น

โดยมีการประเมินกันว่าในแต่ละปีการปลูกสร้างบ้านเอง(ไม่ผ่านโครงการจัดสรร)ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลมีมูลค่าราวๆ 4-5 หมื่นล้านบาท มีผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั้งใหญ่และเล็กอยู่รวมนับร้อยราย ยังไม่รวมผู้รับเหมาทั่วไปมีอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งผู้รับเหมาเหล่านี้ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่เกือบ 80% ที่เหลือราวๆ20%เป็นของผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน
 
 
 

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ ตลาดบ้านสร้างเองมีการแข่งขันรุนแรงมาก ผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน จึงให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ และการสร้างความน่าเชื่อถือควบคู่ไปกับคุณภาพของงาน รวมถึงการบริหารสภาพคล่องทางการเงินซึ่งเป็นความท้าทายมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรับสร้างบ้านขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนหมุนเวียน

ขณะที่ต้นทุนการประกอบธุรกิจสูงขึ้น เช่น ค่าแรง วัสดุก่อสร้าง ที่สำคัญหากในช่วงที่เหลือของปี 2559 หรือปีถัดๆไปความคืบหน้างานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐมีมากขึ้นและเดินไปตามแผนงานหรือนโยบาย ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างก็จะมีมากขึ้นตาม ผลที่ตามมาก็คือ ราคาวัสดุก่อสร้างอาจปรับเพิ่มสูงขึ้นหรืออาจเกิดปัญหาด้านเทคนิคสินค้าขาดตลาด จากปัจจุบันราคาเหล็กโรงงานใหญ่ (มอก.)ก็ได้ปรับขึ้นมาแล้วค่อนข้างมากถึง18-19บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมเมื่อเดือนมกราคม 2559 ราคาซื้อขายกันอยู่ที่ ที่ซื้อขายที่ราคา14-15 บาทต่อกิโลกรัม อาจเป็นเหตุให้ราคาวัสดุก่อสร้างในหมวดอื่นๆปรับตัวขึ้นตามและก่อให้เกิดเป็นต้นเหตุให้ต้นทุนสูงขึ้นสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านตามมา และอาจส่งผลให้เผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่องได้

ดังนั้นการบริหารจัดการจำนวนคนงาน และการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมเพื่อควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง รวมถึงก่อสร้างอย่างรวดเร็วตามระยะเวลาที่กำหนด จะช่วยแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยสามารถใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่เฉพาะด้านให้บริการที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มเติม เช่น เป็นที่ปรึกษา ตกแต่งภายใน ฯลฯ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากรายได้หลัก

นายพิชิต กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านต้องนำเสนอจุดขายในด้านความยืดหยุ่นการให้บริการที่มากกว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และต้องตีโจทย์ความต้องการและข้อจำกัดของลูกค้าแต่ละรายให้ออกควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะจากข้อมูลของสมาคมฯนั้นพบว่าอันดับแรกๆที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้านปลูกบ้านให้ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและความสะดวกรวดเร็ว ที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบมากกว่าผู้รับเหมาทั่วไป เช่นการดำเนินการขออนุญาตด้านต่างๆกับหน่วยงานราชการประสานงานด้านสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เป็นต้น






 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 พ.ค. 2559 เวลา : 06:59:46
24-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 24, 2024, 1:49 am