ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ระบบประกันภัยมีบทบาทสำคัญยิ่งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนในทุกระดับ รวมถึงส่งเสริมภาพลักษณ์ ทัศนคติที่ดีให้ประชาชนเกิดการยอมรับและเชื่อมั่นต่อองค์กรธุรกิจนั้นๆ โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการด้านสาธารณูปโภคที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างองค์การขนส่งมวลชน ดังนั้นเมื่อวันที่ (24 พฤษภาคม 2559) ตนและคณะผู้บริหารของสำนักงานคปภ.
ได้ประชุมหารือร่วมกับ นายสุระชัย เอี่ยม วชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายยุกต์ จารุภูมิ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร นายนิพนธ์ เทียวพานิช รองผู้อำนวยการฝ่ายเดินรถองค์กร และนายสุริยะ สาเอี่ยม รองผู้อำนวยการฝ่ายเดินรถเอกชนร่วมบริการ เกี่ยวกับการดำเนินงานของ ขสมก.ที่มีภารกิจเดินรถโดยสารประจำทางเพื่อให้บริการประชาชน ส่งผลทำให้รถยนต์โดยสารของขสมก.มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ถึงแม้ว่า ขสมก.จะมีมาตรการป้องกันไว้แล้วก็ตาม โดยเฉพาะกรณีอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับรถยนต์โดยสารของขสมก.ไปเฉี่ยวชนบนท้องถนนจนมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือกรณีผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสาร ขสมก. แล้วได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมไปถึงรถยนต์โดยสารร่วมบริการ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็มักจะมีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายต่อ ขสมก.อยู่เนืองๆ
ในขณะเดียวกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ขสมก.มักตกเป็นจำเลยของสังคม โดยถูกมองว่าเยียวยาผู้เสียหายล่าช้าไม่ทันท่วงที ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรมาโดยตลอด ดังนั้นหากมีการนำระบบประกันภัยที่เหมาะสมเข้ามาใช้เพื่อลดความเสี่ยงภัยให้กับขสมก.อย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นกระบวนการคือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจนถึงปลายกระบวนการคือการเคลมค่าสินไหมทดแทนก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองประชาชน โดยทำให้การบริหารจัดการเยียวยาผู้เสียหายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร.สุทธิพล กล่าวด้วยว่า จากการที่คณะผู้บริหารระดับสูงของ ขสมก.เข้าหารือกับสำนักงาน คปภ.ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ระบบประกันภัยจะเข้าไปลดความเสี่ยงภัยให้กับองค์กรของรัฐที่ให้บริการด้านรถยนต์โดยสารสาธารณะอย่างเป็นระบบครบวงจรและเป็นธรรม ซึ่งจากนี้ไปจะตั้งทีมร่วมกันพิจารณาการจัดทำบันทึกความเข้าใจเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการนำระบบประกันภัยมาช่วยบริหารความเสี่ยงแก่ขสมก. โดยกรอบความร่วมมือจะรวมถึงการพัฒนารูปแบบของกรมธรรม์ประกันภัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่แท้จริงของขสมก.อย่างเป็นระบบครบวงจรและมีประสิทธิภาพต่อไป รวมทั้งจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้ความรู้ด้านประกันภัยแก่พนักงานของ ขสมก. นอกจากนี้จะได้เชิญขสมก.มาร่วมกับสำนักงาน คปภ.และหน่วยงานอื่นๆร่วมกันรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย
“ต้องชื่นชมผู้บริหารของขสมก.ชุดนี้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการนำเอาระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงภัยให้กับองค์กรอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องของการเยียวยาให้กับผู้เสียหายอันเกิดจากการเดินรถโดยสารของ ขสมก. อย่างเป็นธรรมและรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของขสมก.ในอีกมิติหนึ่งด้วย” ดร.สุทธิพล กล่าวในตอนท้าย
ข่าวเด่น