พพ. ชูยอดขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำตามโครงการเงินทุนหมุนเวียน ทะลุ 480 ล้านบาท คาดเกิดผลประหยัด 65 ล้านบาทต่อปี วางเป้าหมายสิ้นปี 59 จะเกิดการขอสินเชื่อ 1,846 ล้านบาท ชี้เร่งเดินหน้า Road Show ชวนธุรกิจโรงน้ำแข็งและห้องเย็น ผู้ประกอบการ SME เข้าร่วมโครงการต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตามแผนอนุรักษ์พลังงาน
นายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ. ได้เร่งเดินหน้าแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งอยู่ภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) โดยมีมาตรการที่สำคัญคือ โครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยสถาบันการเงิน ซึ่ง พพ. ได้ร่วมกับ 8 สถาบันการเงินที่เข้าร่วม เพื่อปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตน้ำแข็ง ธุรกิจห้องเย็น และกลุ่มผู้ประกอบการ SME ที่มีเครื่องจักรที่มีอายุการใช้งานนาน นำเงินไปลงทุนจัดหาหรือปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้ จากการดำเนินการ จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีผู้ประกอบการตามกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ และได้มีข้อเสนอพิจารณาทั้งสิ้น 21 ราย โดยจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 480 ล้านบาท โดยคิดเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดประมาณ 23 ล้านหน่วยต่อปี เกิดผลประหยัดประมาณ 86 ล้านบาทต่อปี โดย พพ. ได้ตั้งเป้าหมายปล่อยเงินกู้ภายในปี 2559 จำนวน 1,846 ล้านบาท โดยงบประมาณรวมของโครงการเงินหมุนเวียนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานโดยสถาบันการเงินปีงบประมาณปี 2558 และปี 2559 มีจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 4,489 ล้านบาท
โดยรายละเอียดของโครงการเงินหมุนเวียนฯ จะเป็นลักษณะเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อข้อเสนอ เวลาชำระคืนไม่เกิน 5 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ และปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง เช่น แอร์ คอมเพรสเซอร์ ชิลเลอร์ เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้น พพ. คาดว่าจะมีกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตน้ำแข็ง ธุรกิจห้องเย็น โรงน้ำแข็ง ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก (Cluster) ตามยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดของกระทรวงพลังงาน
นายธรรมยศ กล่าวเพิ่มว่า ขณะนี้ พพ. จะได้เร่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการเงินหมุนเวียนฯดังกล่าว โดยการจัด Road Show อย่างต่อเนื่องในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเดือน มิ.ย.นี้จะมีการจัดกิจกรรมเชิญชวนในภาคกลาง(กรุงเทพ) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะจัดกิจกรรมที่จัดหวัดนครราชสีมา เป็นต้น โดยจะเน้นเชิญกลุ่มเป้าหมายทั้งจากภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ และประชาชนที่สนใจ เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของการอนุรักษ์พลังงาน เกิดกระแสการอนุรักษ์พลังงานในภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง
ข่าวเด่น