ดีแทค แอคเซอเลอเรท ฉลองความสำเร็จให้ 7 ทีมล่าสุด ที่ได้รับเงินลงทุนในระยะเริ่มต้นหรือ Seed Funding จาก VC หรือ Venture Capital ทั้งในประเทศและจากเงินทุนต่างชาติ นำโดยกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก Golden Gate Venture, KK Fund, Galaxy Venture, อุ๊กบี และเถ้าแก่น้อย รวมเงินทุน 70 ล้านบาท สร้างมูลค่าให้บริษัทฯที่ร่วมในโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท รวมแล้วกว่า 400 ล้านบาท สตาร์ทอัพที่ผ่านการบ่มเพาะจากดีแทค แอคเซอเลอเรท สามารถระดมทุนจากนักลงทุนได้ 7 ทีมจาก 11 ทีม มีอัตราความสำเร็จหรือ Success rate คิดเป็น 70% สิ่งที่น่าตื่นเต้นในปีนี้คือ 2 จาก 11 ทีมสตาร์ทอัพใน batch 4 สามารถระดมทุนได้สำเร็จแล้ว ในระยะเวลาเพียงเดือนแรกของบูธแคมป์ โดย 7 สตาร์อัพไทย ที่ได้รับ Seed funding มี FinTech 2 ทีมคือ Piggipo และ Finnomena จาก Logistic Tech คือ Skootar และ Giztix จาก Travel Tech คือ Take Me Tour จาก Market Place คือ Fastwork และ Storylog หนึ่งเดียวในกลุ่ม Social Tech
โดยรายละเอียดการลงทุนครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
1) Piggipo สตาร์ทอัพ FinTech แถวหน้าของไทย ที่ทำแอปพลิเคชั่นบริหารจัดการบัตรเครดิต ได้รับเงินลงทุนจาก Golden Gate Venture คุณแอนดี้ และกองทุน 500 สตาร์ทอัพ
2) Storylog คอมมิวนิตี้นักเขียน นักอ่าน อาณาจักรล้านเรื่องเล่าที่โตไวที่สุดบนโลกออนไลน์ ที่ได้รับการลงทุนและควบรวมจากพี่ใหญ่ OokBee ผู้นำแพลตฟอร์มอีบุ๊คในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3) Skootar บริการเรียกแมสเซ็นเจอร์ ส่งเอกสาร วางบิล เก็บเช็ค ผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ และ แอพพลิเคชั่นมือถือ สำหรับ บริษัท SME ร้านอาหาร และ ธุรกิจ E-commerce สตาร์ทอัพดาวรุ่ง ที่เกิดและเติบโตขึ้น 12 เท่า ภายใน 8 เดือน หลังจากเข้าร่วมดีแทค แอคเซอเลอเรท บูธแคมป์ ได้รับเงินลงทุนจากกองทุน 500
สตาร์ทอัพ และ Galaxy Venture
4) Take Me Tour เป็น Travel Tech ที่มาแรงและกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยแพลตฟอร์มตลาดกลางออนไลน์สำหรับทัวร์หนึ่งวัน ที่สร้างขึ้นโดยคนในท้องถิ่น ได้รับเงินลงทุนจากกองทุน 500 สตาร์ทอัพ และเถ้าแก่น้อย เจ้าของธุรกิจสาหร่ายพันล้าน
5) Giztix เป็นตลาดซื้อขายบริการขนส่งและโลจิสติกส์ออนไลน์ พร้อมทั้งมีบริการครบวงจรสำหรับการขนส่งปัจจุบันขยายตลาดไปถึง 8 ประเทศ การันตีความร้อนแรงจากเวที Thailand at Echelon Summit 2016 และ Asia’s tech conference ที่สิงคโปร์ ได้รับเงินลงทุนจากกองทุน 500 สตาร์ทอัพ และ KK Fund ซึ่งสรุปข้อตกลงได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
6) Finnomena สตาร์ทอัพ FinTech น้องใหม่มาแรง จากนักบริหารกองทุนที่รวมตัวกันเพื่อช่วยให้คนไทย ได้ลงทุนได้ตามเป้าหมาย โดยได้เริ่มทดลองเปิดฟีเจอร์ NTER ให้บริการกับผู้ที่สนใจลงทุน จนมีคนเอาเงินมาลงทุนผ่านฟีเจอร์นี้ มากกว่า 150 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 2ชั่วโมงที่เปิดตัวไป ได้รับเงินลงทุนจากกองทุน 500 สตาร์ทอัพ
7) Fastwork มาร์เก็ตเพลส ที่รวบรวมเอาฟรีแลนซ์มืออาชีพ มาไว้บนออนไลน์ให้เลือกใช้บริการ ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้รับเงินลงทุนจากกองทุน 500 สตาร์ทอัพ ภายใน 9 อาทิตย์หลังเปิดตัวขึ้นมา
นายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจ และดีแทค แอคเซอเลอเรท บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “จากการลงทุนในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นแนวโน้มความสนใจของ VC ที่มองว่า FinTech จะเข้ามาพลิกพฤติกรรมการทำธุรกรรมการเงินธนาคารบนออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง ในขณะที่ TravelTech ก็จะเข้ามาปรับวิถีการท่องเที่ยวของไทย ที่ให้ความสะดวกสบาย และเจาะตลาดการท่องเที่ยวในท้องถิ่นในเชิงลึกได้มากขึ้น รองรับเป้าหมายของนักท่องเที่ยวที่จะทะลักเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเติบโตมากขึ้นถึงสองเท่าเป็นจำนวน 33 ล้านคน เช่นเดียวกับ LogisticTech ที่ทุกธุรกิจต้องมีและต้องพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้อย่างรวดเร็ว และ Market Place ที่จะเชื่อมโยง ดีมานด์และซัพพลายในโลกธุรกิจ ได้อย่างสะดวก”
นายกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ผู้จัดการกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก กล่าวว่า “เราลงทุนในรอบนี้ ทั้ง 7 สตาร์ทอัพจากดีแทค แอคเซอเลอเรท เพราะทุกทีมมีผลิตภัณฑ์ ที่ชัดเจน มีทีมงานที่แข็งแกร่ง มีความรอบรู้และประสบการณ์ในธุรกิจที่ทำอยู่ มียอดคนใช้งานและมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นที่นิยมในตลาด ครบสูตรสำเร็จของการเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่ง เงินลงทุนนี้จะเป็นเงินทุนตั้งต้น ในระยะเวลา 12-18 เดือน เพื่อให้สตาร์อัพเริ่มต้นธุรกิจได้จนสามารถโตต่อไป ให้ได้รับเงินลงทุนในระดับซีรี่ย์เอ จนถึงซีรีย์ซี และระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ หากธุรกิจนั้นมีศักยภาพเพียงพอ ปัจจุบันกองทุน 500 ตุ๊กตุ๊ก ได้ลงทุนกับสตาร์ทอัพไทยแล้ว 20 บริษัท รวมเงินลงทุนในตลาดแล้ว 70 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายในสิ้นปีนี้จะลงทุนอีก 10 บริษัท”
ข่าวเด่น