นายเขมชาติ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 3 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 - 31 มีนาคม 2559 ซึ่งประกอบด้วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1200 บาทต่อหน่วย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์ไตล์ (MJLF) ในอัตรา 0.2500 บาทต่อหน่วย และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ในอัตรา 0.1580 บาทต่อหน่วย
โดยทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 7 มิถุนายน 2559 (XD Date) และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 21 มิถุนายน 2559 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้นกว่า 154.66 ล้านบาท
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น (KPNPF) มีนโยบายลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดิน อาคารสำนักงาน และระบบสาธารณูปโภคของอาคารเคพีเอ็น ทาวเวอร์ บนถนนพระราม 9 ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 ที่ผ่านมา จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ และสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าพื้นที่และบริการต่างๆ ภายในโครงการ ทำให้ในรอบผลดำเนินงานดังกล่าว กองทุนสามารถทำกำไรสุทธิได้ 23 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 12 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.7390 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 5.90% ต่อปี
นายเขมชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า "กองทุน KPNPF เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากแนวโน้มพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานมีการขยายตัวมายังทำเลชานเมืองมากกว่าในอดีต ส่งผลให้อาคารสำนักงานให้เช่าบนถนนพระราม 9 เป็นจุดดึงดูดผู้เช่ามากขึ้น ถึงแม้ว่าปริมาณพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานมีเพิ่มขึ้นบางส่วน แต่เป็นเพียงคู่แข่งทางอ้อม อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการใช้พื้นที่อาคารสำนักงานเพื่อเช่าในบริเวณนี้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาค่าเช่าที่จะมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต"
ด้านกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารโครงการเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน และซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ประมาณ 98% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด และภาพรวมตลอดทั้งปี 2558 ที่ผ่านมา โครงการทั้ง 3 แห่งยังมีอัตราการเช่าเกือบเต็มตลอดในทุกไตรมาส ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 ที่ผ่านมา จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยกองทุนสามารถทำกำไรสุทธิได้ 93 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 35 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8.3730 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 9.53% ต่อปี
"สำหรับมุมมองด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในธุรกิจประเภทห้างสรรพสินค้าชุมชน มีแนวโน้มการแข่งขันทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัวของอุปทานในตลาด โดยคาดว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จะมีโครงการพัฒนาศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ค้าปลีกในเขตกรุงเทพฯ และเขตชานเมือง จะมีพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านตารางเมตร อย่างไรก็ตาม จากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อต่ำ และหนี้ครัวเรือนที่ยังคงมีอยู่สูง ทำให้แนวโน้มอัตราค่าเช่าคาดว่าจะเติบโตค่อนข้างจำกัดในปี 2559" นายเขมชาติกล่าว
ส่วนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคาร รวมถึงระบบสาธารณูปโภค ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทสมุย โรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 25 ไร่ บนหาดเฉวง เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในไตรมาสที่ 1 ปี 2559ที่ 88% ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 26 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4.6142 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 6.20% ต่อปี ด้านแนวโน้มธุรกิจการท่องเที่ยวของสมุยในปี 2559 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังเกาะ สมุยจะเพิ่มมากขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการลงนามความร่วมมือการทำเที่ยวบินร่วม (Codeshare) ระหว่างสายการบินบางกอกแอร์เวย์สกับสายการบินต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 19 สายการบิน ในปี 2558 ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารได้เดินทางมายังเกาะสมุยง่ายขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ส่วนของอุปทานโรงแรมบนเกาะสมุยในกล่มโรงแรมระดับ First Class ยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของธุรกิจ
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน KPNPF กองทุน MJLF และกองทุน CTARAF สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือที่ www.kasikornasset.com
ข่าวเด่น