แบงก์-นอนแบงก์
กสิกรไทยจับมือลอมบาร์ดฯเปิดบริการบริหารจัดการความมั่งคั่งของครอบครัว




 


กสิกรไทยตอกย้ำผู้นำธุรกิจไพรเวทแบงค์ จับมือธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ จากสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นธนาคารเก่าแก่อายุกว่า 220 ปี  เปิดบริการบริหารจัดการความมั่งคั่งของครอบครัวแบบเต็มรูปแบบแห่งแรกในไทย ฟอร์มทีมมืออาชีพให้คำปรึกษาและวางแผนให้ธุรกิจและสินทรัพย์ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างมั่นคงและยั่งยืน เผยลูกค้า 9,800 ราย มีพอร์ตสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 7.6 แสนล้านบาท มั่นใจปีนี้รายได้โตอีก 22%

 
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ เปิดตัวบริการวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning Service) ที่ครอบคลุมที่สุดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับความต้องการด้านบริการวางแผนบริหารจัดการเงินและการลงทุนในครอบครัวที่มีสินทรัพย์และสมาชิกจำนวนมากที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวรับความท้าทายในการขยายธุรกิจ การเติบโตอย่างยั่งยืนและการส่งต่อธุรกิจครอบครัวสู่รุ่นต่อไป ซึ่งบริการนี้จะเป็นสิ่งยืนยันความแข็งแกร่งของบริการไพรเวทแบงค์ของธนาคาร ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกแง่มุมของชีวิต
 
 

 
ทั้งนี้ ไนท์ แฟรงค์ (Knight Frank) ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกจากอังกฤษ ได้จัดทำ Attitudes Survey 2015 ในกลุ่มผู้มีสินทรัพย์สูง และออกรายงาน Wealth Trends 2015 ว่า 85% ของเศรษฐีทั่วโลกให้ความสำคัญกับการวางแผนเรื่องทายาทหรือผู้สืบทอดทั้งในเชิงธุรกิจและครอบครัว  ซึ่งสอดคล้องกับลูกค้าเศรษฐีในประเทศไทย ที่พบว่า ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นลำดับแรก และมีความกังวลเรื่องการสืบทอดความมั่งคั่งสู่รุ่นต่อ ๆ ไปอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยจะเห็นได้ว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยล้วนเป็นธุรกิจครอบครัว ซึ่งธุรกิจครอบครัวทั่วโลกมีอัตราการอยู่รอดจนถึงรุ่นที่ 3 หรือ 4 น้อยมาก จนเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า ธุรกิจครอบครัวมักจะไปได้ไม่เกิน 3 ชั่วอายุคน ปัญหาที่พบบ่อยคือ ขาดการวางแผนบริหารจัดการที่ดีและยั่งยืน ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว  

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สิ่งที่เป็นเสมือนดวงใจของลูกค้าทุกคนคือ ครอบครัว ธนาคารจึงให้ความสำคัญกับการช่วยสร้างความสบายใจ และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไร้กังวลของลูกค้า จึงได้มีการพัฒนาบริการวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัวขึ้น ซึ่งเป็นบริการที่ใหม่มากในตลาดประเทศไทย โดยทำงานร่วมกับทีมงานของธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรที่มี ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เรื่องการจัดการทรัพย์สินครอบครัวมายาวนานกว่า 220 ปี เพื่อให้คำแนะนำลูกค้า ตั้งแต่ การวางแผนการบริการจัดการครอบครัว (Family Continuity Planning) การวางแผนการเงินและการบริหารความเสี่ยง (Financial, Liability and Risk Management) การวางโครงสร้างการถือครองทรัพย์สินอย่างเป็นระบบ (Asset Holding Structure) การวางแผนการสืบทอดความมั่งคั่ง (Succession Planning) การสนับสนุนการดำเนินการสร้างสาธารณประโยชน์ (Philanthropy) และการจัดตั้งสำนักงานครอบครัว (Family Office)
 

ทั้งนี้ การให้บริการการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว ธนาคารกสิกรไทยจะมีบทบาทหลักในการเป็นที่ปรึกษาการวางแผนให้ลูกค้า โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรของธนาคาร ซึ่งเป็นผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ในการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว อาทิ ด้านกฎหมาย ทรัพยากรบุคคล โดยพันธมิตรของธนาคารทุกรายนั้น เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ทั้งในประเทศไทยและในระดับโลก ซึ่งจะทำงานร่วมกันกับไพรเวทแบงค์เกอร์คนไทยเพื่อผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมครอบครับของคนไทยกับมาตรฐานการให้บริการที่เป็นสากลได้อย่างลงตัว
 
 
"หลังจากที่ธนาคารกสิกรไทย จับมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เรื่องการจัดการทรัพย์สินครอบครัวมายาวนานกว่า 220 ปีจะทำให้ไพรเวทแบงค์กสิกรไทย จะเป็นไพรเวทแบงค์ที่ครบวงจรที่สุดในระบบการเงินไทยพร้อมกับมีคำแนะนำลูกค้าในเรื่องที่ลูกค้าอยากฟังและอยากรู้มากที่สุด "นายจิรวัฒน์กล่าว 
 

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า เราเริ่มดำเนินการมา7-8เดือนแล้วถึงเปิดตลาด  ซึ่งตอนนี้มีลูกค้าเจ้าของธุรกิจแล้ว 4-5 ราย กระจายในหลายเซ็คเตอร์ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตั้งเป้าลูกค้าไว้เป็นบริษัทท็อป 50 ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯและเป็นลูกค้าที่ใช้บริการกับธนาคารกสิกรไทยอยู่แล้ว โดยแต่ละรายเฉลี่ยมีสินทรัพย์รายละ 2,000 ล้านบาท หรือเท่ากับ 1 แสนล้านบาท

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทีมงานที่จะบริการวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว ยังมีทีมงานเพียงแค่3คนในระยะเริ่มต้น แต่ก็เพียงพอที่จะให้บริการลูกค้าเพราะงานบางส่วนส่งให้บริษัทข้างนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องดูแล เช่น เรื่องกฎหมาย ทรัพยากรบุคคล ภาษี 

ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมการให้บริการในเบื้องต้นถ้าเป็นเรื่องคำแนะนำจะไม่คิดค่าบริการถือเป็นช่วงโปรโมชั่น แต่ถ้าเป็นเรื่องการจัดการทรัพย์สิน การไฟแนนซ์โครงการทรัพย์สินก็จะคิดค่าบริการซึ่งแล้วแต่มูลค่าทรัพย์สินมากหรือน้อยรวมถึงความซับซ้อนของทรัพย์สินด้วย

"ปัจจุบันการบริหารธุรกิจ ไม่ใช่วันแมนโชว์แล้วและลูกค้าหลายรายเริ่มเข้าใจเรื่องธรรมนูญครอบครัวที่จำเป็นต้องมี  นอกจากนี้ครอบครัวที่ทำธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นในปัจจุบันนั้น เริ่มมีขนาดครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่จนขนาดทีจะต้องมีการบริหารจัดการทรัพย์สินแล้ว เพื่อจะจัดการทรัพย์สินที่มีอยู่ อย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังและเพื่อไม่ให้การถือครองทรัพย์สินในระยะยาวมีภาระทางภาษีมากเกินไป" นายจิรวัฒน์กล่าว 
 
 
 
ปัจจุบัน สายงานธุรกิจบริการไพรเวทแบงค์ (KBank Private Banking Division) ของธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำในธุรกิจไพรเวทแบงค์ มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 42% และมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 22% โดยปัจจุบันมียอดรวมสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงรวมเป็น 7.6 แสนล้านบาท มีลูกค้าประมาณ 9,600 ราย จากทั้งหมดในประเทศไทยที่มีอยู่ประมาณ 23,000 ราย แบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ 80% และต่างจังหวัด 20%


 
 

LastUpdate 09/06/2559 14:42:36 โดย : Admin
11-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 11, 2025, 5:52 am