บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาเปิดเผยตัวเลขยอดการจำหน่ายรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะย่างเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดชะลอตัว แต่สำหรับมาสด้านั้นมียอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามียอดการจำหน่ายสูงถึง 3,522 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23% การันตีตลาดรถยนต์ของประเทศไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความเห็นว่า เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมายอดขายรถยนต์มาสด้าสูงถึง 3,522 คัน หรือ เติบโตเพิ่มขึ้น 23% ทะลุเกิน 3,500 คัน เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ในขณะที่ยอดขายโดยรวมของตลาดก็เช่นเดียวกันเริ่มมีทิศทางที่สดใสเช่นเดียวกัน เริ่มเห็นทิศทางการเติบโตของตลาดที่เริ่มกระเตื้องขึ้น เพราะตลาดยังมีความต้องการสูง รวมทั้งความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณที่ดี อีกหนึ่งปัจจัยที่มองเห็นได้ชัดเจน คือ ความมุ่งมั่นสร้างแบรนด์ของมาสด้าให้เกิดความแข็งแกร่ง ให้เกิดความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งถือว่ามาสด้านั่นเดินมาถูกทางแล้ว เราสร้างการรับรู้ในเรื่องของแบรนด์ด้วยการสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ด้วยกลยุทธ์หลัก 4 ประการไปพร้อมๆกัน นั่นคือ เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ การออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ระบบเชื่อมต่อโลกการสื่อสาร MZD Connect และประการสุดท้ายคือระบบความปลอดภัย i-Activsense ทำให้มาสด้ากลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีครบทุกองค์ประกอบที่ลูกค้าต้องการ
ยอดขายล่าสุดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ฤดูกาลแห่งการขายสำหรับตลาดรถยนต์ แต่มาสด้าก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยมียอดขายสูงถึง 3,522 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 23% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเจาะลึกลงรายละเอียดในแต่ละรุ่นจะพบว่ารถยนต์นั่งขนาดซิตี้คาร์ยังคงเป็นตัวกระตุ้นให้ยอดขายทะลุเป้า โดยมาสด้า2 กระแสตอบรับนั้นยังคงแรงมาตลอดนับตั้งแต่การเปิดตัว มียอดขายถึง 1,889 คัน เพิ่มขึ้น 43%
ในขณะที่มาสด้า3 ถึงแม้คู่แข่งจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา แต่กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ยังคงมียอดขายแบบทรงตัวอยู่ที่ 337 คัน ส่วนรถยนต์ประเภทครอสโอเวอร์ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภคชาวไทย อย่างมาสด้า CX-3 ยังคงเป็นรุ่นที่สร้างแรงดึงดูดลูกค้าเข้าโชว์รูมมียอดขายอยู่ที่ 423 คัน มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อีกหนึ่งครอสโอเวอร์ที่มาแรงหลังเปิดโฉมใหม่ไปเมื่อเร็วๆ นี้กับ CX-5 มียอดขาย 353 คัน ถือเป็นรุ่นที่เติบโตสูงสุดถึง 45% ด้วยเทคโนโลยีที่มาสด้าใส่เต็มในรุ่นนี้จึงกลายเป็นรถยนต์นั่งที่ล้ำสมัยมากที่สุดอีกรุ่น ในส่วนตลาดรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร มียอดยอดขาย 516 คัน ปิดท้ายด้วยรถสปอร์ตโรดสเตอร์ MX-5 อีกจำนวน 4 คัน
ในขณะที่ยอดขายมาสด้ารวม 5 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2559 มาสด้า คือ ค่ายรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด สามารถทำยอดขายทะลุเป้าถึง 17,869 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2558 ซึ่งรุ่นที่ครองอันดับหนึ่ง คือ มาสด้า2 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 9,556 คัน เติบโต 67% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 1,871 คัน รถครอสโอเวอร์ CX-3 จำนวน 2,489 คัน และ CX-5 จำนวน 1,353 รถสปอร์ตโรดสเตอร์ MX-5 จำนวน 18 คัน จากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นส่งผลให้มาสด้าสามารถรักษาตำแหน่งอันดับ 3 ตลาดรถยนต์นั่งไว้อย่างเหนียวแน่น
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “หลังการแจ้งเกิดของรถยนต์มาสด้าภายใต้รถยนต์ในเจนเนอเรชั่นที่ 6 ส่งผลให้มาสด้ามียอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจะเห็นว่ามีปริมาณรถยนต์มาสด้าวิ่งอยู่บนท้องถนนจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่มาสด้าต้องเร่งวางแผนรับมือดังกล่าว คือ งานการบริการหลังการขาย และในปีนี้มาสด้าได้บรรจุแผนงานดังกล่าว คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่มาสด้าจะเดินหน้าพัฒนาอย่างเต็มกำลัง คือ การพัฒนาบริการหลังการขายทั้งโชว์รูม มุ่งมั่นในการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย ก้าวสู่การเป็นแบรนด์พรีเมียม รวมถึงการจัดกิจกรรมแคมเปญเพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุดเพื่อเฉลิมฉลองกับยอดผลิตมาสด้า3 ครบ 5 ล้านคัน มาสด้าจัดแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าที่หลงใหลความสปอร์ตของมาสด้า3 ให้ได้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และฟรี!! ประกันภัยชั้น 1 ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น
ข่าวเด่น