บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ตลาดหุ้นยังเคลื่อนไหวรอผลการลงประชามติ 'Brexit' แม้คะแนนผู้ต้องการอยู่ต่อจะนำแต่ยังใกล้เคียงและสร้างความกังวลกับนักลงทุน ยังแนะนำลงทุนในช่วงสั้นจนกว่าจะทราบผลประชามติ มองหุ้นน่าลงทุนสั้นได้แก่ PTTEP , KBANK , CPALL
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ (KTBST) (Win Udomrachtavanich, Ph.D. Executive Chairman KTB Securities (Thailand ) Co., Ltd.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนเข้าสู่ช่วงสองวันสุดท้ายก่อนการทำประชามติของสหราชอาณาจักรเพื่อออกจากอียู (ปิดรับลงคะแนน เวลาประมาณ ตี 5 ของวันที่ 24 มิ.ย.) แม้ขณะนี้คะแนนของฝั่งที่ขออยู่ต่อจากการสำรวจ จะกลับมานำ 45/44 แต่เนื่องจากผลที่ออกมาอาจเป็นได้ทั้งสองทาง ซึ่งผลสำรวจเรื่อง Brexit ทียังใกล้เคียงกันอยู่จะยังคงสร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุนจนถึงวันที่ทราบผล ทั้งนี้ปัจจุบันตลาดการเงินยังไม่ได้ให้น้ำหนักกับการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรมากนัก ซึ่งหากมีแนวโน้มว่าจะเกิด Brexit อาจทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและค่าเงินผันผวนรุนแรงมากทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่จะชะลอการลงทุน ดังนั้นตลาดหุ้นต่างประเทศช่วงสองวันที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้คาดว่าจะไม่ต่างกันคือบวกอ่อนๆ
ขณะที่การกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯล่าสุด ไม่ได้มีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯมากนัก โดยหวังว่าจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 2 และยังใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำไปอีกระยะหนึ่ง โดยแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของธนาคารกลางสหรัฐที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในระยะสั้นจนกว่าการจ้างงานจะเติบโตชัดเจน และเงินเฟ้อจะเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ต่อปี
นอกจากนี้ตัวเลขผลสำรวจความเชื่อมั่นของยุโรปแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในภาคเศรษฐกิจของยุโรปที่ฟื้นตัวต่อเนื่องยืนตามตัวเลขเศรษฐกิจอื่นที่ออกมาก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายซุปเปอร์มาร์เก็ตของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงต่อเนื่องซึ่งคาดว่าตัวเลขยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นประจำเดือน พ.ค. ซึ่งกำลังจะประกาศก็คาดว่าจะลดลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอในการบริโภคของญี่ปุ่นและจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและค่าแรงในอนาคต
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล. เคทีบีเอสที จำกัด มองตลาดหุ้นไทยว่าเนื่องจากนักลงทุนไม่ได้รับรู้กับเรื่อง BRExit มากนัก อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรหากผลออกมาในเชิงบวกของตลาด ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะเดินหน้าต่อในได้แต่ปัจจัยที่จะมีผลต่อการซื้อขายในระหว่างวัน ได้แก่ ความคืบหน้าหรือข่าวสารในเรื่อง BRExit ที่จะมีเข้ามาในระหว่างวัน และผลการประชุม กนง.ของไทย ในวันนี้(22 มิ.ย.)ซึ่งเรายังคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร
"แนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่าโดยภาพรวมแล้วการลงทุนจะยังคงเป็นลักษณะชะลอการลงทุนอยู่ แต่แรงซื้อเพื่อการเก็งกำไรจากผลของข่าวเรื่อง BRExit นั้นจะเป็นการเล่นแบบเจาะเป็นรายตัว โดยมองว่าหุ้นกลุ่มธนาคารที่ถูกขายก่อนหน้านี้ อาจเป็นกลุ่มนำตลาดต่อไป เราจึงแนะนำให้เล่นแบบเก็งกำไรช่วงสั้นๆ สำหรับหุ้นเพียงบางตัวและบางกลุ่ม หุ้นที่เราคาดว่านักลงทุนจะให้ความสนใจสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในวันนี้ ได้แก่ PTTEP , KBANK , CPALL"
ข่าวเด่น